เกิดระเบิดที่มาบตาพุดนั้นดีแล้ว..?

2 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ พฤษภาคม 11, 2012 เวลา 1:11 ในหมวดหมู่ สังคม บ้านเมือง ประชาธิปไตย, เรื่องของชีวิต #
อ่าน: 1689

ข่าวเกิดเหตุระเบิดที่มาบตาพุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น ผมรู้สึกว่ามันใกล้ชิดตัวเอง เพราะเป็นพื้นที่หนึ่งที่ผมลงไปทำงานอยู่ในปัจจุบัน บุคคล ชื่อชุมชน และสถานการณ์ในชุมชนเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ก็เพราะเพิ่งลงสนามสัมภาษณ์ชาวบ้านรอบๆนิคมมาบตาพุดมา และมีแผนที่จะลงไปอีกในสัปดาห์นี้ แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะชาวบ้านไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมาพูดคุยกับเรา

มาบตาพุดเป็นนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งมีกลุ่มหนึ่งที่เขาติดต่อมาว่า เขาต้องการสนับสนุนชุมชนก้าวเข้ามาประมูลสินค้าและบริการที่กลุ่มปิโตรเคมีจัดซื้อปีละนับพันล้านบาท เงินจำนวนนี้เขาอยากให้ส่วนหนึ่งตกอยู่ในชุมชนรอบๆนิคม

หากจะกล่าวว่านี่เป็นนโยบายหนึ่งของ CSR ก็ใช่ เราเลยจับมือกับ NGO ใหญ่ลงสนามไปเก็บข้อมูลเพื่อนำมาเข้ากระบวนการ แล้วมองดูลู่ทางว่ามีแนวทางใดบ้างที่จะตอบโจทย์นั้นได้ ทีมงานและผมลงสนามมาบตาพุดมาแล้ว ตระเวนไปพบผู้นำชุมชน ผู้นำหน่วยงาน ชาวบ้าน ฯลฯ สัมภาษณ์ เก็บข้อมูลต่างๆตามแผนงานที่เรากำหนดขึ้นมา

ผมนั้นเป็นตัวประกอบในการเก็บข้อมูล แต่ผมมีประเด็นในใจและนิสัยที่อยากรู้เรื่องราวต่างๆที่มากไปกว่าแบบสัมภาษณ์ ทั้งเป็นแบบ Traditional และที่เป็น Key Question ตามหลักการแล้ว ผมก็ปล่อยให้ทีมงานทำไป ผมเองเห็นใครอยู่นอกเป้าหมายของ Key Informants ก็จะเข้าไปจับเข่าคุยด้วยตามสไตล์ของผมที่นิยม Dialogue มากกว่า

ที่ชุมชนหนึ่งเป็นกลุ่มประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ผมพบ “ป๊ะ” ท่านอายุ 80 เศษแล้ว แต่แข็งแรงผมเข้าไปคุยด้วย คุยไปคุยมาผมทึ่งกับท่านมากเพราะท่านเป็นผู้สูงอายุที่มีความคิดกว้างไกล และออกวิชาการมาก ทราบว่าท่านเป็นผู้นำศาสนาในจังหวัดระยองด้วย ระหว่าวที่เรานั่งคุยกัน ทีมที่สัมภาษณ์เป็นทางการนั้นออกปากเชิญ ป๊ะ ไปคุยด้วยเพื่อขอทราบข้อมูลต่างๆ ป๊ะมีท่าทีไม่อยากไป แต่ลูกเขยท่านชักชวนให้ไปร่วมด้วย ท่านก็ไป แต่เพียงไม่กี่คำถามท่านก็ผละออกมาคุยกับผมต่อ เพราะท่านไปสวนคำถามฉบับๆๆๆๆ แบบว่า ไม่อยากให้ข้อมูล ไม่มีประโยชน์ มีทีมงานต่างๆมาคุยหลายต่อหลายชุด แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางที่ดีขึ้นเลย

ท่านลงมาคุยกับผมต่อเฉยเลย ผมนึกเข้าข้างตัวเองว่า เพราะผมใช้ Dialoque และทักษะการคุยกับชาวบ้านนั้นเราผ่านมามากแล้ว รู้ว่าควรจะคุยแบบไหน อย่างไร … ยิ่งคุยยิ่งทึ่งกับท่าน ป๊ะ ท่านมีความคิดที่สด ทันสมัย มีหลักการ วิชาการ ผมเห็นด้วยกับท่านหลายเรื่อง…..

ผมจากท่านมาด้วยความชื่นชมเป็นการส่วนตัว…จนข่าวโรงงานในนิคมมาบตาพุดเกิดการระเมิด ผมติดตามข่าว ก็ได้ยินผู้นำบ้านนั้นบ้านนี้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างๆ ล้วนเป็นผู้นำที่ผมไปสัมผัสมาแล้ว แล้วเมื่อสองวันก่อน หน่วยงานเรามีการประชุมสรุปงานเบื้องต้นกัน เพื่อนร่วมงานกล่าวกับผมว่า ..ช่วยโทรไปคุยกับป๊ะหน่อย ทราบว่า ทั้งชุมชนเขาโยกย้ายออกไปจากพื้นที่เพราะได้รับควันพิษเต็มๆ แต่ป๊ะไม่ยอมออกจากบ้าน..?? ผมรับปาก

ผมโทรไปหาป๊ะ…ทำไมไม่ออกไปจากบ้านหล่ะครับ ใครต่อใครเขาอพยพไปตามข้อเสนอของทางการ ป๊ะบอกว่า ไม่ไปหรอก อยู่ที่นี่มาชั่วชีวิตแล้ว จะตายก็ขอตายตรงนี้… เราคุยกันพักใหญ่ คำหนึ่งที่ผมทึ่งในความคิดของป๊ะคือ

..ผมว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ดีนะ…. อะไรนะ..ผมถามซ้ำ ป๊ะก็ย้ำว่า เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ดีนะ.. ผมงง งง ผมฟังผิดไปหรือเปล่า…. ผมถามต่อ มันดีอย่างไรครับ ป๊ะ.. ป๊ะตอบทันควันเลยว่า…อ้าว มันก็ทำให้ราชการ หน่วยงานได้คุยกัน ตื่นตัวหามาตรการต่างๆออกมาใช้ ชาวบ้านอย่างเราก็หันหน้ามาคุยกัน

โอโฮ….แหลมคมจริงๆป๊ะ ท่านยังวิเคราะห์เหตุการณ์ครั้งนี้ในฐานะที่ท่านเป็นคนในพื้นที่ ใกล้ชิดกับคนงานและผ่านเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับโรงงานมาตั้งแต่โรงงานต่างๆมาเริ่มตั้งใหม่ๆ

ป๊ะกล่าวว่า…มันประมาท ทั้งหมดนั่นแหละประมาท มันเป็นช่วงหยุดงาน ทำความสะอาดเครื่องเพื่อเปลี่ยนจ๊อปใหม่ เจ้านายก็ไม่อยู่ ผู้คุมก็ไม่อยู่ คนทำความสะอาดก็ประมาท เพราะทุกคนคิดว่าไม่มีอะไร นี่มันเป็นอย่างนี้ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับสามส่วน ป๊ะ วิเคราะห์ต่อว่า หนึ่ง คนงานที่ทำความสะอาดและผู้คุมทั้งหลาย สองบริษัทผู้มาลงทุน และสามชาวบ้านอย่างเรานี่ …ป๊ะ วิเคราะห์ยาวไปเลย อย่างนักวิชาการ หรือผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์….

เป็นโทรศัพท์ที่ผมพูดนานที่สุดครั้งหนึ่ง แต่ก็ยินดีที่ได้คุยกับป๊ะ ผู้เฒ่าที่อายุเป็นเพียงตัวเลข ฟังเสียงป๊ะแล้วผมหลับตาเห็นอากัปกิริยาป๊ะได้ ท่านเป็นคนตรง แข็ง ใครมาผิดหูผิดตาก็ฟันเละไปเลยเชียวหละ

ลูกเขยป๊ะ ก็ หนึ่งในตองอูคนหนึ่ง เราเห็นฝีปากมาแล้วในการประชุมสองครั้ง ใครๆก็สะดุ้งโหย๋งหากลูกเขยป๊ะคนนี้พูด ไม่ใครก็ใครโดดอัดแน่ๆ ทั้งนี้เพราะเขามีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับกลุ่มปิโตรเคมีมานาน ซ้ำซาก…

ผมนึกไปถึงประสบการณ์ที่แม่เมาะ มันช่างคล้ายกันในหลายเรื่อง เห็นใจชาวบ้านครับ และงานเกี่ยวกับชาวบ้านในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมนั้นมีงานที่แตกต่างไปจากชนบททั่วไป ยากกว่า เพราะโจทย์คนละชุดกัน

แต่สำหรับคนที่ทำงานกับคนมาขนาดผมนั้น

มันท้าทายดีครับ….



Main: 0.01653003692627 sec
Sidebar: 0.044450998306274 sec