สิ่งที่ตกอยู่กลางห้องประชุม..
อ่าน: 1508
มันเป็นภาพปกติ ที่ใครๆก็เห็น ที่ไหนๆก็มีภาพเหล่านี้ มันอาจกลายเป็นสิ่งปกติของการเคลื่อนตัวของสังคมจาก สังคมเกษตรกรรมไปสู่สังคมอุตสาหกรรม สังคมพอเพียงในอดีตไปสู่สังคมการบริโภคที่มีระบบธุรกิจสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการบริโภคมากขึ้น ภายใต้ความรู้สึก ดีกว่า ทันสมัยกว่า ก้าวหน้ากว่า และเลยเถิดไปถึง เท่ห์ เขาก็มีเราก็อยากจะมี
แรงกระตุ้นทางธุรกิจก่อให้เกิดความอยากมีอยากได้ คือลัทธิการบริโภคนิยมที่เกินความพอเพียง พอดี พอสมควร สิ่งที่จะตอบสนองค่านิยมนี้ได้คือ เงิน การมีเงินในกระเป๋า ในธนาคาร หรือระบบเงินผ่อน บัตรเครดิต เพื่อตอบสนองการเดินสะพัดของเงิน
มันช่างสอดคล้องกับวัยรุ่นที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง และไหลไปตามกระแสนิยมมากกว่าวุฒิภาวะ ตระหนักได้ ยับยั้งชั่งใจ หรือให้น้ำหนักระหว่าง เทคโนโลยีใหม่ๆที่เพิ่งตกมาในท้องตลาดกับความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายในสิ่งหลักของชีวิตที่พ่อแม่ต้องแบกภาระเหล่านี้
การทำการเกษตรในไร่นา สวน พื้นดินข้างบ้าน ทั้งหมดไม่เพียงพอกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว พ่อแม่ พี่ๆ ต้องออกจากบ้านไปขายแรงงานตามแหล่งโรงงานหรือการจ้างงานที่ใกล้ที่สุด
ชาบ้านกลุ่มนี้ทิ้งบ้านช่องเดินทางเป็นระยะทางมากกว่า 30 กม.เพื่อไปรับจ้างทำงานในเขตอุตสาหกรรมใกล้ตัวเมือง ด้วยค่าแรงที่กดลงมาต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลประกาศ แม้ว่าจะเสนอ ร้องเรียน ….หลายวิธี ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง ก็จำยอมแบบคั่งแค้นลึกๆในใจ พร้อมที่จะระเบิดออกมาเมื่อใครเอาไฟมาจุด ซึ่งเคยทำสำเร็จมาแล้วครั้งที่ พคท.มาเคลื่อนไหวในจุดอ่อนเหล่านี้ของการบริหารประเทศเช่นนี้
ปัญหามันวนเวียน เกิดขึ้น คงอยู่ เปลี่ยนไป เกิดขึ้นอีกในรูปแบบใหม่ แต่ประเด็นเดิม ในพื้นที่ใหม่ ….
วันนี้ผมเห็นน้ำตาสตรีชาวบ้านหลั่งกลางที่ประชุม เมื่อเขามาเรียกร้องสิทธิการดูแลการเจ็บป่วยของเธอและญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน อันเนื่องมาจากการพัฒนาอุตสาหกรรม ขณะที่สำนักงานอุสาหกรรมแห่งนั้นเร่งพัฒนา ISO หมายเลขที่เท่าไหร่แล้ว เร่งประชาสัมพันธ์บนสื่อกล่าวถึงภาพสวยงามต่างๆนานา
แต่เบื้องหลังมันมีน้ำตาตกหล่นอยู่กลางห้องประชุมใหญ่…..