มองไทยผ่านภูฐาน..
อ่าน: 5227ผมมีความรู้สึกว่ายังปลื้มกับ มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก หรือเจ้าชายจิกมี ที่คนไทยคุ้นเคย พระองค์ทรงวางตัวเรียบง่าย เป็นกันเอง แต่ทรงพระเกียรติ ยิ่งเห็นเจ้าชายใส่เสื้อเหลือง เรารู้สึกใกล้ชิดพระองค์มากเท่ามากจริงๆ
พระองค์เพิ่งขึ้นครองราชย์แทนพระราชบิดาเมื่อเร็วๆนี้เอง หลายท่านอาจจะไม่เคยเห็นภาพที่พระองค์ทรงสูทสากล ลองชื่นชมซิครับ เหมือนดาราเกาหลีที่สาวไทยกรี๊ดอยู่ทุกวันนี้ครับ
ช่วงนี้มีชาวภูฐานมาฝึกอบรมเรื่อง SML ที่ RDI ที่คนข้างกายผม organized อยู่ เธอก็มีเรื่องเล่าให้ฟังทุกวัน ผมจึงอยากจะถ่ายทอดมาเท่าที่จะจำได้ครับ
ชาวภูฐานพูดได้มากกว่า 4 ภาษาโดยพื้นฐาน คือ ภาษาภูฐาน (ซองคา) อังกฤษ อินเดีย จีน ทั้งนี้เพราะว่าต้องใช้ติดต่อสื่อสารกับประเทศข้างเคียงมากนั่นเอง
ชาวภูฐานเคร่งศาสนาพุทธ ไม่ฆ่าสัตว์ แต่กินเนื้อสัตว์ และนมจึง Import เนื้อสัตว์และนมมาจากอินเดีย เขาดื่มนมเกือบแทนน้ำ
อาหารไทยหวาน:
คนข้างกายเล่าให้ฟังว่าเรื่องที่หนักใจมากในการบริหารพี่น้องภูฐานคือ เวลาพาไปทานอาหารตามร้านเขาจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า No sugar please นั่นคืออาหารไทยที่เรากินอยู่ทุกมื้อนั้น “หวาน” ในการรับรสของเขา แต่เราเฉยๆเพราะเราชินเสียแล้ว
ทั้งประเทศตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย
เออ..ประเด็นนี้ก็ทำให้เราย้อนพิจารณาพัฒนาการทำอาหารของเราแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันนั้น ก็น่าที่จะเป็นจริง แต่ก่อนอาหารเราไม่ได้ใส่น้ำตาลเลย ยกเว้นเฉพาะอย่างเท่านั้น เดี๋ยวนี้ต้องเหยาะน้ำตาลไม่มากก็น้อย และน้ำตาลสมัยก่อนก็เป็น “น้ำตาลปึก” ที่มาจากต้นตาล หรือ “น้ำตาลงบ” ที่ทำมาจากต้นอ้อยที่มีกระบวนการแบบง่ายๆที่ไม่มีสารเคมีเจือปนแม้แต่น้อย… แล้วสุขภาพคนไทยปัจจุบันที่เจ็บป่วยมากมายเป็นภาระทางการแพทย์ทุกวันนี้ ที่มีโครงการมากมายที่จะแก้ปัญหาแต่ต้นเหตุ เรียนคุณหมอทุกท่านอาหารที่ใส่น้ำตาลของบ้านเรา ที่ชาวภูฐานว่าหวานนั้นน่าจะมีส่วนอยู่นะครับ…
สนามบินที่มีแห่งเดียวในภูฐาน
Thai Freedom:
ชาวภูฐานจะต้องใส่ชุดประจำชาติเท่านั้นในการไปโรงเรียนหรือทำราชการ มิเช่นนั้นผิดกฎหมาย ต้องระวางโทษ นักศึกษามหาวิทยาลัยไม่ว่าระดับไหนๆก็ต้องใส่ชุดประจำชาติ และไม่มีการดัดแปลงให้คับให้หลวม เติมนั่นใส่นี่เข้าไปอีก ไม่ได้ ชุดประจำชาติก็ต้องเป็นชุดประจำชาติแบบเดียวเท่านั้น ชาวภูฐานไม่เข้าใจว่าทำไมนักศึกษาไทยจึงใส่ Uniform และมีรัดรูปเห็นทรวดทรงองค์เอวทุกขนาด กระโปรงดีดีก็ผ่าขึ้นไปจะถึงก้นอยู่แล้ว เขาไม่เข้าใจว่าทำได้อย่างไร….โดยไม่ผิดระเบียบกฎหมายไทย
เมื่อได้รับคำอธิบายว่า เรามีระเบียบเหมือนกัน แต่ยืดหยุ่นมากๆ เพราะนักศึกษาต่างกล่าวว่าความเจริญทางสติปัญญาไม่ได้อยู่ที่การแต่งตัว… เขาก็ไม่เข้าใจว่า Freedom แบบไหนกันถึงปล่อยมากมายอย่างนี้ แล้วชุดประจำชาติไทยไม่มีหรือเป็นอย่างไร….?
ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่..ที่ผมคิดมานานเหมือนกันว่า ความมีอิสระที่กล่าวอ้างกันนั้น บางทีมันก็เกินความพอดี เกินความงอกงาม เพราะแรกๆน่าจะดูดีตามหลักการแต่มันกลายเป็นการพัฒนาไปสู่สิ่งอันไม่พึงประสงค์เสียมากกว่า นี่หรืออิสระภาพ ไม่ใช่เรื่องการแต่งกายเท่านั้น อื่นๆก็เช่นกันมากมาย ต่างก็อ้าง เสรีภาพ อ้างประชาธิปไตย อ้างเสียงข้างมาก อ้างประชาชนเลือก สิทธิ ส่วนบุคคล (อ้าว..เดี๋ยวยาว อิอิ)
หากเป็นท่านจะตอบว่าอย่างไรครับ..
ทั้งประเทศอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย เมืองตั้งอยู่ในหุบเขามีพื้นที่เพียง 47000 ตร.กม. แต่ละปีจะจำกัดนักท่องเที่ยวเพียง 1.3 หมื่นคนเท่านั้น และต้องผ่านทัวร์ของประเทศ แต่ละวันต้องจ่ายค่าอยู่ในประเทศวันละ 200 เหรียญ
ยังมีประเด็นที่เราอาจจะทึ่งก็ได้ว่า เออ เราไปถึงไหนกันแล้วนี่ ประเทศไทย…
ชาวภูฐานที่มาฝึกอบรมนี้เป็นพ่อค้าทั้งระดับ เล็ก กลาง ใหญ่ และเมื่อมีโอกาสก็ shopping กันแหลก เหมือนพี่ไทยไปต่างประเทศเหมือนกัน.. มีเรื่องที่น่าประทับใจเหมือนกันที่ว่า เมื่อร้านค้าทราบว่าผู้ซื้อมาจากภูฐาน ต่างก็ลดราคาให้ 5-10 % เขาถามว่าทำไม…
เจ้าของร้านตอบว่า
คนไทยรู้จักเจ้าชายจิกมี และประทับใจเจ้าชายมาก มาก …!!!