เมื่อ 1 กันยายนเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของไทยเรา คนในวงการพัฒนาจะไม่ลืมวันนี้ คือวันสืบ นาคะเสถียร พี่สืบมีอายุแก่กว่าผม 1 ปี ขาดไป 4 วัน ผมไม่รู้จักพี่สืบเป็นการส่วนตัว แต่ผมมีโอกาสเข้าไปใกล้ชิดหลังจากที่พี่สิบสิ้นไปแล้ว
ปี พ.ศ. 2538 หลังพี่สืบเสียชีวิตไปแล้ว 5 ปี ขณะนั้นผมทำงานที่โครงการ NEWMASIP กับกลุ่มบริษัท UROCONSULT ในด้านการพัฒนาระบบชลประทานภาคอีสาน ปลายปีนั้น เพื่อนฝรั่งเขามาเป็นผู้อำนวยการองค์การ Save the Children (USA) ชวนผมมาทำงานเป็น Project Manager ประจำที่นครสวรรค์ ขณะเดียวกันนั้น ส.ป.ก. ร่วมกับมูลนิธิหนองขาหย่างฯ จ.อุทัยธานีของพี่ สมพงษ์ สุทธิวงศ์ จัดทำโครงการพัฒนากลุ่มป่าห้วยขาแข้ง โดยได้รับเงิน Grant จาก DANCED ประเทศเดนมาร์ค ส.ป.ก.และมูลนิธิหนองขาหย่างก็ชวน Save มาร่วมงานด้วยโดยให้รับผิดชอบชายป่าห้วยขาแข้งในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยระบุให้ผมเป็นผู้ประสานงานในนามของ Save the Children (USA) ก็ท่านรองเลขาฯ ส.ป.ก.ปัจจุบันที่สนับสนุนให้ผมพิมพ์งานเรื่องเล่าจากดงหลวงนี่แหละเป็นผู้จัดการโครงการสมัยนั้น ในราชการท่านเป็นผู้อำนวยการกองแผนงานฯ
ส่วนมูลนิธิหนองขาหย่าง จ.อุทัยธานีนั้น พี่สมพงษ์ สุทธิวงศ์ เป็นผู้ก่อตั้ง ท่านผู้นี้คืออาจารย์ในงานพัฒนาชนบทผมเหมือนพี่บำรุง บุญปัญญา เพราะพี่เหล่านี้คือบัณฑิตรุ่นแรกของเมืองไทยที่เข้าร่วมงานกับ ดร.ป๋วยทำงานพัฒนาชนบท ที่ชัยนาท ที่เรียกโครงการบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย Thailand Rural Reconstruction Movement (TRRM) จำลองมาจาก PRRM ของประเทศฟิลิปปินส์ ที่มี Dr. James C Yen เป็นผู้ก่อตั้ง ดร.ป๋วยศรัทธาในอุดมการณ์และการทำงานเพื่อชนบทจึงนำหลักการมาตั้งในประเทศไทย
ทำไมต้องเป็นที่ชัยนาท ท่านที่ศึกษาประวัติ ดร.ป๋วย คงทราบดีว่าท่านเป็น นายเข้ม เย็นยิ่ง เสรีไทย ที่คู่กับ รูธ คือท่านปรีดี พนมยงค์ ท่านกระโดดร่มลงมาที่ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ท่านรอดชีวิตเพราะชาวบ้านช่วยท่าน ท่านจึงต้องการกลับมาพัฒนาพื้นที่แห่งนี้เมื่อท่านมีโอกาส ดูสำนึกของท่านซิ
ทั้งพี่บำรุง บุญปัญญา เกียรตินิยมอันดับหนึ่งภาควิชา ปัฐพีศาสตร์ มก. พี่สมพงษ์ สุทธิวงศ์ นี่ก็นิสิตดีเด่น ยังไม่ทันจบคณะเศรษฐศาสตร์ ธนาคารชาติก็มาจองตัวท่านไปทำงาน พี่พี่เหล่านี้มีอนาคตสดใสหากท่านก้าวเข้าสู่ระบบราชการ แต่ท่านหันหน้าสู่ชนบท…
ผมร่ายยาวมาเพราะท่านเหล่านี้สนิทสนมกับพี่สืบในฐานะที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ และท่านเหล่านี้คือแบบอย่างของผม แม้ว่าผมจะไม่ติดขี้เล็บของท่านเลยสักนิด
โครงการพัฒนากลุ่มป่าห้วยขาแข้งที่ร่วมมือกันระหว่าง ส.ป.ก. มูลนิธิหนองขาหย่างและ Save the Children (USA) นั้น ทำกับพื้นที่ชายป่าห้วยขาแข้งตั้งแต่อุทัยธานี นครสวรรค์ยาวมากกว่า 200 กม. โดยมีกรมป่าไม้เป็นหน่วยงานร่วมมือหลัก นอกจากนี้ก็มีอีกสองมูลนิธิเข้าร่วมคือ มูลนิธิสืบ นาคะเสถียรและมูลนิธิ World Wildlife Fund (WWF) ที่มีกษัตริย์ประเทศเดนมาร์คทรงเป็นประธานและผมเคยรับเสด็จท่านที่ห้วยขาแข้งโดยบรรยายงานของโครงการให้พระองค์ท่าน ตื่นเต้นซะ..เหงื่อท่วมตัวเลย… พระองค์ทรงมาตบไหล่แล้วยิ้มให้
พี่สมพงษ์ถือว่าเป็นผู้อาวุโสสำหรับนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พี่จึงเป็นตัวแทนนิสิตเกษตรฯประจำภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน มีงานพบปะสังสรรค์ประจำทุกปี พี่พงษ์จึงเป็นคนกว้างขวางในวงการ ที่ทำงานของพี่พงษ์ เป็นร้านอาหาร บนเส้นทางเข้าตัวเมืองอุทัยธานี อันเป็นเมืองปฐมบรมราชานุสรณ์ ที่รัชการที่ 1 ท่านเกิดที่นี่ สถานที่นี่เองเป็นที่รวมพลคนเกษตรศาสตร์ ใครผ่านไปผ่านมาก็แวะเยี่ยมพี่พงษ์ ขาประจำท่านหนึ่งคือพี่สืบนี่แหละ..
งานหลักของโครงการ DANCED นั้นกิจกรรมส่วนใหญ่คือการอนุรักษ์กลุ่มป่าห้วยขาแข้ง เจริญรอยอุดมการณ์ของพี่สืบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงคือ การปลูกป่าเสริม กิจกรรมสร้างทีมงานชาวบ้านช่วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดับไฟป่าตลอดแนว 200 กว่า กม.ในจังหวัดอุทัยธานีและนครสวรรค์ จัดทำแนวเขตกันชน Buffer Zone รอยต่อระหว่างพื้นที่ ส.ป.ก.กับป่าอนุรักษ์ โดยการพิสูจน์ขอบเขตที่ดินให้ชัดเจน แล้วทำแนวเขตตลอด 200 กม. โดยการใช้รถไถทำแนวเขต และปลูกต้นไม้ตามแนวเขตนั้นให้เกิดแนวที่ชัดเจน จัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ประจำหมู่บ้าน จัดฝึกอบรม เพิ่มเติมความรู้ชาวบ้านรอบๆขอบป่า และสารพัดกิจกรรม
ทุกครั้งที่มีการประชุมร่วม มักเข้าไปจัดในสถานีป่าไม้ที่พี่สืบเคยอยู่ และยิงตัวตาย ทุกครั้งเราจะไปเคารพรูปปั้นแทนตัวพี่สืบ และมีการยืนไว้อาลัย สำนึกถึงอุดมการณ์ของพี่สืบ เรามีกิจกรรมเพิ่มเติมความรู้มากมายทั้งเจ้าหน้าที่ราชการ ผู้นำชาวบ้าน ผู้นำกลุ่มต่างๆ เด็กนักเรียน เยาวชนอกโรงเรียน ชาวบ้านทั่วไป และกลุ่มประชาชนที่อยู่วงนอกออกไปด้วย เพราะชาวบ้านเหล่านั้นจะเหมารถนั่งกันเต็มคันแล้วไปจอดชายป่า แล้วขึ้นป่าไปหาของป่า เราพบว่า ตลอดแนวขอบป่านั้นเราเชื่อมั่นว่า กิจกรรมของเราสามารถสร้างกำแพงได้มากสมควร แต่ประชาชนที่ห่างออกไปนั้นก็เป็นผู้บุกรุกอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่นอกพื้นที่โครงการ แต่เข้าไปทำร้ายทำลายป่า มากเหมือนกัน งานอนุรักษ์จึงมิใช่เฉพาะกลุ่มคนในพื้นที่เป้าหมายเท่านั้น นี่คือความจริง..
ผมได้ความรู้เกี่ยวกับป่ามากมายที่นี่ เพราะกลุ่มป่าห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลกที่พี่สืบทำงานชิ้นนี้ทิ้งไว้ การอนุรักษ์จึงเป็นเรื่องใหญ่เพราะพื้นที่กว้างขวางเหลือเกิน ผมมีโอกาสเข้าไปยังใจกลางของป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งมีสภาพป่าแตกต่างไปจากชายขอบมากมาย ทะลุไปออกที่เขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งก็มีการเข้ามาทำลายป่ามากมาย โครงการยังเข้ามาทำสถานีลอยน้ำที่หัวเขื่อนเพื่อดักกลุ่มชาวบ้านที่เอาเรือมาตัดไม้ไผ่ป่าและอื่นๆ ล่องไปขายมากมาย การเดินทางผ่านป่าด้วยรถ 4WD หรือเฮลิคอบเตอร์เท่านั้น มันเป็นป่าจริงๆ ที่มีสัตว์ป่ามากมายที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน นกยูงธรรมชาติ ควายป่า วัวแดง หมาป่าเป็นฝูง นกเงือก ฯ และที่ไม่คาดคิดคือ พระธุดงค์
เล่ากันว่า ป่าห้วยขาแข้งนั้นคือเป้าหมายของพระธุดงค์กลุ่มหนึ่งจะนั่งรถเข้าไปที่ด่านเจดีย์สามองค์ แล้วเดินป่าไปออกที่อุทัยธานี แล้วไปเล่ากันว่า ผ่านป่านี้มาแล้ว.. เจ้าหน้าที่ป่าไม้เล่าว่า พระธุดงค์ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดไฟป่า เพราะจุดไฟต้มน้ำแล้วดับไม่สนิท..
ที่นี่เคยเกิดเรื่องใหญ่ครั้งหนึ่งคือ ทุกปีจะมีกลุ่มศิลปิน มาจัดดนตรีเพื่อระดมทุน เพื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมงานอนุรักษ์ป่า สถานที่จัดอยู่ชายขอบป่า มีอยู่ปีหนึ่งโดยนักสื่อมวลชนเอาไปเขียนโจมตีว่าทำลายป่าเพราะเสียงดนตรีนั่นเอง ต้องยอมรับความจริงว่าเสียงดังจริงๆ นักอนุรักษ์ย่อมรู้ว่าไม่ควรทำ แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทราบดีจึงจัดสถานที่ที่ไกลออกมาจากชายป่าพอสมควร แต่ก็ยังโดยโจมตี
บางปีนักอนุรักษ์ท้องถิ่นซึ่งเป็นสายศิลปินจะเชิญศิลปินชื่อดังต่างๆ ทั้งนักเขียน นักวาดรูป นักถ่ายรูป นักแต่งเพลง ฯ เข้าไปกินนอนในป่า เพื่อซึมซับป่าแล้วใช้จินตนาการสร้างสรรค์งานที่ตนเองถนัดออกมา ขายเพื่อเอาทุนเข้ามูลนิธิสืบ.. ผมยังชอบเพลงชุดหนึ่ง ชื่อดอกเสี้ยวป่า เพราะมากกกกก เสียดายลูกสาวผมเอาไปเล่นซะเสียหายหมดเลย
มิกิจกรรมมากมายที่เกิดประโยชน์ เช่นเราต้องการปลุกต้นไม้ตามแนว Buffer zoneมีคนหนึ่งเสนอว่าเอาต้นตาลมาปลูกตามแนว เขาให้เหตผลว่า ต้นตาลอายุยืนมาก แข็งแรง ทนไฟ และเมื่อเขาโตจะเป็นแนวที่ชัดเจน นักป่าไม้ก็เถียงว่า มันไม่ใช่พืชประจำถิ่น มันแปลกแยกกับพืชป่าท้องถิ่น.. บางคนเสนอเอาต้นหว้า นับพันๆต้นมาปลูกตามแนว เพราะชาวบ้านสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ เช่นเอาไปทำเครื่องดื่ม นักป่าไม้ก็อธิบายว่า พึงระวังเพราะเมื่อเขาออกผล สัตว์ป่าอาจจะออกมาเก็บกินตามธรรมชาติเขา ก็จะกลายเป็นการดึงสัตว์ออกมาจากป่า ชาวบ้านเองก็จะอดไม่ได้ที่จะมาทำร้ายเขา
นักวิชาการป่าไม้จากเดนมาร์คก็มาช่วยทำโครงการ ฟอร์เจนแมป (เขียนไม่ถูกแล้ว) ความหมายคือ มาแนะนำวิธีการคัดเลือกพันธุ์ไม้ป่าเพื่อทำเป็นต้นพ่อแม่ที่จะใช้ขยายต่อไป
ที่โครงการนี้ผมรู้จัก “เสือข้าวสุก” ที่ผมเคยเขียนบันทึกใน G2K ลุงฉ่ำที่ยกพื้นที่ตัวเองให้เป็นป่าชุมชนเพราะเกิดสำนึกสูงส่งขึ้นมา ลุงฉ่ำเดินมาหาผมเองที่สำนักงานในพื้นที่ว่าอยากทำป่าชุมชน เพราะแกผ่านการอบรม รู้เรื่องพี่สืบ และชีวิตแกเห็นป่าเปลี่ยนแปลงไปกับตา เพราะลุงฉ่ำคือคนแรกๆที่เข้าไปใช้ชีวิตในป่า ลุงบอกว่า ไม่น่าเชื่อว่าป่าจะหายไปโล่งเตียนจริงๆ จากที่แกบอกว่า สมัยเข้าไปอยู่ใหม่ๆนั้นมองไม่เห็นแสงอาทิตย์ ไอ้เสือปล้นฆ่าคนก็หลบหนีตำรวจเข้าป่าก็อาศัยข้าวของลุงกิน… ที่นี่ที่ผมรู้จักเศรษฐีสองคนผัวเมียเจ้าของโรงงานทำผ้าใบคลุมรถสิบล้อที่มาใช้ชีวิตชายป่าที่นี่ ยกสมบัติให้ลูกดำเนินงานต่อ ผมเขียนถึงท่านใน G2K เช่นกัน
ที่ผมชอบมากๆคือที่ช่องเย็น บริเวณอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ น้องนิดเคยขึ้นไปเที่ยวแล้ว ที่นี่คือสุดยอดของป่า เดือนเมษายนร้อนระอุ แต่ที่ช่องเย็นต้องใส่เสื้อกันหนาว นกป่าสารพัดร้องระงม ที่เรียกกันว่า “นกร้องก้องไพร” เห็ดโคนป่าที่อุดมที่สุดขนาดใหญ่ที่สุดต้องที่ป่าแม่เล่ย์ ติดกับกำแพงเพชร เราเคยร่วมมือกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เจ้าของรางวัลโลกสีเขียว ร่วมมือกับ ปตท.ปลูกป่านับร้อยไร่บนเขาแม่กะทู้
อีกมากมาย ที่เราทำงานอนุรักษ์ป่าที่นั่น งานหลักนั้นคือการพัฒนาคนตามแนวชายป่าห้วยขาแข้ง ผมไปตั้งกลุ่มออมทรัพย์ตามหมู่บ้านต่างๆ ทราบว่ากลุ่มยังคงอยู่
ทั้งหมดนี้เป้าหมายที่ซ่อนอยู่ในวัตถุประสงค์ของโครงการคือการสนับสนุนอุดมการณ์พี่สืบ..
แต่ “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน” วันหนึ่ง พี่สมพงษ์ เรียกผมไปเล่าให้ฟังว่าเฮ้ย ไอ้บู๊ด มาหาพี่หน่อย พี่พงษ์กรึบเหล้าแม่โขงประจำยกแก้วกระดกเข้าปากหายไปหมดแก้วเลย พี่จะเล่าให้ฟัง สืบน่ะเขาทุ่มเทชีวิตให้กับงานของเขาจริงๆ คนอะไรเข้มแข็ง เอาเป็นเอาตายกับการอนุรักษ์ป่า ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไอ้บู๊ด เองรู้ไหม คืนก่อนที่สืบเขาจะฆ่าตัวตายนั้น เขามากินเหล้ากับพี่ที่นี่ เขาเสียใจมากที่รู้ว่า คนของสืบเองนั่นแหละเป็นคนแอบตัดไม้ในป่า สืบเขาไม่รู้เลยว่าลูกน้องเขาบางคนเป็นเสียเอง ทั้งที่เขาสู้กับเรื่องนี้มาตลอดชีวิต สืบเขาเสียใจมาก….
ผมไม่ได้เขียนบันทึกนี้เพื่อเปิดโปงอะไร แต่ด้วยคารวะพี่สืบ เข้าใจอุดมการณ์พี่สืบและทุกวันนี้ก็สืบสานอุดมการณ์พี่สืบต่อไป แม้ว่าผมจะทำไม่ได้เท่าขี้เล็บของพี่สืบ
เนื่องในวาระระลึกถึงพี่สืบที่ผ่านมา อุดมการณ์ของพี่สืบอยู่ในสำนึกของเราตลอดไป…