หนามยอกอก???

โดย สาวตา เมื่อ 19 กุมภาพันธ 2010 เวลา 0:27 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1479

เมื่อเสร็จภารกิจจากการต้อนรับทีมสรพ.ที่เข้ามาเยี่ยมสำรวจการพัฒนาคุณภาพของร.พ.ฉัน อีก ๒ วันต่อมาก็เป็นวาระของการนำพาครูกศน.ให้เข้าไปสัมผัสการเรียนรู้โลกภายในของเขาผ่านกระบวนการจิตตปัญญาศึกษา

ในครั้งนี้ของการนำพา ผู้ที่ได้มาช่วยกันทำงานกระบวนกรมีทีมนครสวรรค์(ครูณา ครูนก ครูอ้อ และครูเอก)แล้วยังมีครูเหล่นจากโรงเรียนเพลินพัฒนาที่ครูณาไปทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ จับพลัดจับผลูได้ตัวมาร่วมงาน ตัวฉันลงมือแค่ช่วยประสานทีมกระบวนกรกับทีมบริหารของกศน.ให้จูนตรงกัน

กิจกรรมที่นำพาในครั้งนี้ใช้เวลารวมทั้งสิ้น ๓ วันเต็มๆ การฝึกตนดำเนินไปอย่างช้าๆในแต่ละวันตั้งแต่เช้าจดค่ำ สำนักงานกศน.จังหวัดคือสถานที่ฝึก บรรยากาศที่สัมผัสในระหว่างกิจกรรมดำเนินไปบอกให้รู้ว่า เวทีของการนำพาครูกศน.เข้าไปเรียนรู้โลกภายในนั้น กระบวนกรพึงมีทักษะของการนำพาอย่างเข้าใจและมีสติอย่างยิ่งยวด สติขาดผึงลงไปเมื่อไรพาใจจนได้ในพลันเลยเชียว

เมื่่อเบื้องหลังของความเป็นไปแห่งโลกภายในของบรรดาผู้ที่มาเข้าร่วมได้เปิดซอกหลืบออกมาให้เจ้าตัวรับรู้ ฉันก็ได้มองเห็นอีกแง่มุมหนึ่งของวิธีเรียนชีวิตของผู้คนอีกครั้ง

ได้เรียนรู้ในครั้งนี้ว่าความยากอย่างยิ่งของการนำพาให้เรียนมิได้เกิดจากผู้คนไม่ยอมเรียน หากแต่บทเรียนหลายๆบทที่ซ่อนเร้นอยู่นั้นพามาซึ่งความกลัวจนไม่กล้าเปิดบทเรียน ถึงแม้ความปรารถนาภายในของเจ้าตัวจะอยากจัดการแก้โจทย์ตามบทเรียนนั้นให้เรียบร้อยและงดงาม

การได้อยู่ร่วมเรียนรู้ ทำให้แตะได้ว่ามีบทเรียนชีวิตบางบทที่ผันผ่านมาของผู้คนเป็นเหมือนหนามแหลมที่ยอกอยู่ในอกของพวกเขา ความเจ็บที่อยู่ในความทรงจำปลุกให้”คุณกลัว”ในตัวเขาทรงอิทธิพลจนทำให้ผู้เป็นเจ้าของอกไม่กล้าพอที่จะเปิดบทเรียนเพื่อเรียน

ยิ่งหนามนั้นปักลึกหรืออ่อนโอนมากเท่าไร ความเจ็บปวดที่เกิดจากมันก็ชะลอความกล้าของผู้คนที่จะลงมือไปแตะต้องเพื่อดึงมันทิ้งไป ถึงแม้จะรู้ว่าหนามเหล่านั้นสร้างความยอกความเจ็บให้แก่ตนมาเนิ่นนาน

ที่จริงความปรารถนาที่จะดึงมันทิ้งมีซ่อนเร้นอยู่ แต่ว่าผู้คนก็ไม่กล้าพอที่จะลงมือดึงมันทิ้งไปเมื่อพบเห็นซ้ำ สิ่งที่ได้เห็นจึงพบว่ามีการหลีกเร้นของผู้คนในรูปของการสร้างพฤติกรรมต้าน เฮี้ยว แซว

จะว่าไปครั้งนี้บรรดาครูที่เข้ามาร่วมต่างได้สอนฉันให้เข้าใจภาษาธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีกหลายมุม สิ่งที่ครูสอนนั้นคือเมื่อใจคนเริ่มพลิกบทเรียนชีวิตแห่งโลกภายใน หลากรูปแบบของพฤติกรรมได้สะท้อนออกมาให้เห็นอย่างน่าสนใจทีเดียว

การชวนคนข้างตัวสนทนาจุ๊กจิ๊กๆ พาตัวหนีออกจากห้องแบบลุกเข้าลุกออกบ่อยๆ คำที่มักกล่าวว่าสับสนหรือสะท้อนมุมมองว่าจะสนใจทำไมไม่มีประโยชน์ ภาษากายที่บอกว่าปวดหัวมากๆ สีหน้าที่เปลี่ยนเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้รู้ว่าพวกเขาเริ่มลงมือเรียนและเปิดโจทย์ในบทเรียนขึ้นมากันแล้ว

เมื่อโลกภายในทำงานของมันไปจนถึงวาระที่จิตใต้สำนึกของครูเริ่มตื่น บทเรียนชีวิตบทแรกๆที่พวกเขาเอื้อมมือไปเปิดทำให้พวกเขาสะดุ้งและมีปฏิกิริยาเตรียมถอยหนีเสมือนความรู้สึกของการไปสะกิดเอาหนามที่ตำอยู่ในเนื้อ พฤติกรรมหลบเลี่ยงหรือหลีกหนีที่สื่อออกมาเป็นสัญญาณที่ฉันสัมผัสว่ามีการขยับตัวของหนามหรือการเริ่มคลอนของหนามเกิดขึ้นแล้ว ช่วงตรงนี้แหละที่ฉันเชื่อว่าคุณเอ๊ะในตัวเขาเริ่มตื่นขึ้นแล้วและเป็นจังหวะที่พึงเก็บเกี่ยวข้อสังเกตไว้เพื่อเลือกใช้เครื่องมือสำหรับชวนให้พวกเขายอมท่องเที่ยวโลกภายในในสไตล์ที่ลงตัวกับตัว

หลังจากนั้นการเปิดโลกภายในเพื่อเรียนก็อาจจะเกิดการดึงรั้ง ในครั้งนี้ได้เห็นการดึงรั้งกันและกันระหว่างกระบวนกรกับผู้เรียนที่เป็นการดึงรั้งแบบช่วยเสริมแรงมากกว่าทำให้ล้มเหลว

ขออธิบายความรู้สึกต่อการดึงรั้งที่เห็นว่าดูๆไปคล้ายการดึงรั้งระหว่างพรานเบ็ดกับปลายังไงยังงั้น แล้วพรานเบ็ดที่กำลังทำงานอยู่ก็มีฝีมือดีทีเดียวเชียว คอยผ่อนสายเบ็ดในมือจนปลาที่ติดเบ็ดไม่รู้ตัวว่าติดเบ็ดซะแล้ว ความรู้สึกต่อแรงเบ็ดของปลาก็เพียงแค่เป็นระดับสะกิดเนื้อเบาๆว่าโดน ปลาจึงยังคงอ้าปากหายใจและประคองตัวว่ายน้ำต่อไป

การช่วยเสริมแรงที่พรานเอื้อลงไปเต็มความสามารถอย่างถนอมปลาไม่ให้บาดเจ็บ ได้ช่วยปลาทุกตัวให้ไปสู่น้ำใหม่ได้สำเร็จชวนชื่นชม

ฉันมั่นใจว่าความสำเร็จที่มองเห็นได้ส่งผลให้บรรดาครูที่เข้ามาเรียนเริ่มสนใจจะดูแลโลกภายในของตนให้เติบโตต่อไปกันแล้ว อานิสงค์แห่งความสนใจนี้จะส่งผลต่อแบบลูกระนาด ส่งแรงต่อไปสู่การดูแลบุตรของครู การดูแลครอบครัวตนเองของครู และส่งต่อไปสู่ลูกศิษย์ของครูในที่สุดค่ะ

ขอบคุณคุณครูผู้่เป็นศรีแห่งกศน.ที่พาตัวเข้ามาเป็นครูสอนให้ฉันได้เรียนรู้โลกภายในของคนอีกครั้ง

ขอบคุณในพลังและแรงใจที่ครูทั้งหลายได้มอบให้ต่อการดูแลลูกศิษย์ “เหลือขอ” ที่โรงเรียนในระบบส่งต่อมาขอความช่วยเหลือให้ได้เรียน

ขอบคุณความเป็นกศน.ที่สร้างโอกาสและพื้นที่แห่งการเรียนรู้แบบธรรมชาติให้กับผู้คนในสังคม

ขอบคุณในความตั้งใจและคำตอบรับอย่างเต็มใจของครูและผู้บริหารกศน.ต่อการร่วมมือกันสร้างสังคมกระบี่ให้งดงามต่อไป

ดีใจที่ฉันได้ปลูกรักไว้ในดวงใจครูที่เป็นศรีของสังคม ๖๐ ดวงได้สำเร็จในเดือนแห่งความรักนี้

ดีใจที่ ณ วันนี้ฉันได้เครือข่ายครูกศน.มาร่วมทางและเดินไปด้วยกันในเส้นทางแห่งการดูแลคนได้สมใจแล้วค่ะ

ดีใจที่ to do tag ที่ตั้งใจได้ก้าวเดินไปข้างหน้าอีกก้าวเดินแล้ว

ขอบคุณต่อกระบวนการจิตตปัญญาศึกษาหรือปัญญาปฏิบัติที่ทำให้ฉันก้าวเดินมาจนถึงวันนี้และเป็นอย่างทุกวันนี้

๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

บันทึกอื่น

๑. เมื่อครูเริ่มตีระฆัง

๒. เง้ง…เง้ง…ระฆังยกหนึ่งดังขึ้นแล้ว

๓. ใจคนนั้นซับซ้อน..แม้แต่เจ้าของใจ…ยังไม่ใคร่รู้จักมันเท่าไรเลย

« « Prev : ร่วมเรียนรู้และก้าวเดินไปด้วยกัน

Next : เสียงดังทำไม » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "หนามยอกอก???"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.54572176933289 sec
Sidebar: 3.691474199295 sec