เมื่อครูเริ่มตีระฆัง

โดย สาวตา เมื่อ 24 มกราคม 2010 เวลา 22:53 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1538

เรื่องราวบอกเล่าถึงความคิด   เรื่องราวบอกทิศที่กำลังเดิน   เรื่องราวบอกทิศที่เคยผ่าน  เรื่องราวบอกความหวังที่มี  เรื่องราวบอกความคาดหวังที่ฝัน  เรื่องราวบอกอะไรอีกหลายอย่าง

หลังจากที่ฉันได้ไปร่วมประชุมกับครูกศน.ในวันที่ 6 พ.ย. แล้ว ข่าวคราวจากครูก็เงียบหายไปราวๆเดือนหนึ่ง เพิ่งมารู้ว่าเหตุที่เหล่าครูเงียบหายกันไปนั้นเป็นเพราะมีเรื่องให้ครุ่นคิดกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆของวงการศึกษาที่เพิ่งได้รู้ เรื่องราวที่รับมาใหม่มีผลกระทบต่อการให้น้ำหนักกับเรื่องราวต่างๆที่ไปเกี่ยวข้องกับบริหารงบประมาณในมือมากพอดู

ในช่วงเย็นของวันหนึ่งในเดือนธันวาคม ขณะกำลังจะเตรียมตัวกลับบ้าน เสียงแจ้วๆแหลมหวานของครูตุ๋ย ครูกศน.คนหนึ่งที่ได้ผ่านการเรียนรู้ที่นครสวรรค์แล้วก็ดังผ่านโทรศัพท์มาเข้าหู เธอโทรมาเพื่อชวนฉันไปร่วมกันทำกิจกรรมให้ชาวบ้านในพื้นที่เป็นเวลา 2 วัน และแลกเปลี่ยนเพื่อตัดสินใจกับการทำกิจกรรมว่าควรเป็นทิศทางอย่างไร

ฉันแลกเปลี่ยนไปว่าเรื่องเวลานั้นฉันไม่ขัดข้อง การมีส่วนร่วมให้เธอนัดหมายเวลาไปคุยกันก่อนการทำงานจะได้ทำงานเข้าขากันได้ น่าจะดีกว่ามั๊ย เมื่อไรก็เมื่อนั้นสามารถส่งเสียงมาถึงฉันได้เมื่อเธอได้ตัวครูในสังกัดกศน.มาเป็นทีมของเธอครบถ้วนตัวคนแล้ว  ในส่วนของฉันขอความเอื้อเฟื้ออยู่ก็เพียงว่า ฉันขอพาคนไม่กี่คนไปร่วมเรียนรู้ด้วย จะให้เขาช่วยเป็นลูกมือทำงานอะไรแลกเปลี่ยนก็ได้ไม่เกี่ยงกันหรอกนะ ขอเพียงแต่ให้บอกเงื่อนไขที่ต้องการให้ร่วมด้วยช่วยกันมาให้รู้ จะได้ดูว่าจะเลือกใครบ้างจากส่วนของฉันไปช่วยงาน

หลังจากตกลงคร่าวๆไปดังข้างต้นแล้ว ครูตุ๋ยบอกความตั้งใจว่าจะจัดกิจกรรมในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ ไม่ขัดข้องที่ฉันจะนำพาผู้คนที่เห็นควรไปร่วมกิจกรรมด้วย  ต่อจากนั้นข่าวคราวจากเธอก็เงียบหายไปอีกระยะหนึ่ง จึงได้ข่าวว่าเธอจำเป็นต้องเลื่อนเวลาของกิจกรรมออกไปเป็นเดือนมกราคมด้วยเหตุอันเนื่องมาจากขั้นตอนของการเสนอขอใช้งบประมาณและการประสานทีมงานไม่ทันการตามเวลาที่ตั้งใจไว้

เมื่อครูตุ๋ยตัดสินใจเลื่อนเวลาของการทำกิจกรรมออกไปนั้น ยังไม่มีเวทีของการทำความเข้าใจกันในเรื่องเป้าหมายของกิจกรรมให้รู้ ฉุกใจว่าถ้ายังไม่รู้เลยว่าครูตุ๋ยต้องการผลอะไรจากกิจกรรม การนำพาผู้คนเข้าไปร่วมกิจกรรมของเธอในวันทำงานจริงอาจจะทำให้เกิดความไม่ลื่นไหลได้  ในวันหนึ่งของวันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ฉันจึงพาตัวไปพบครูตุ๋ยเพื่อจับเข่าคุยให้เข้าใจตรงกันซะก่อนนำเรื่องไปเชื่อมโยงให้ครูในวงโรตีที่หวังไว้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้

เช้าวันหนึ่งของวันทำงานในสัปดาห์หลังจากวันที่ได้คุยกับครูตุ๋ย ขณะที่ฉันยังเดินทางไปไม่ถึงที่ทำงานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นครูตุ๋ยที่โทรมาชวนให้ไปประชุมด้วยที่กศน.จังหวัดในเช้าวันนั้น รับปากว่าจะตามไปในไม่ช้าขอเคลียร์งานก่อน  ไม่ได้คิดว่ามีอะไรมากมายนอกจากการประชุมเพื่อวางแผนการทำงานด้วยกันเหมือนครั้งที่แล้ว

เมื่อไปถึงสำนักงานของกศน.จังหวัดก็เจอหน้าผอก.จังหวัดยิ้มรับอยู่ แถมด้วยครูกศน.อีกหลายคนนั่งรออยู่ในห้องประชุม มองเหลียวหาไม่เห็นทีมครูที่เคยไปนครสวรรค์สักคนนอกจากครูตุ๋ย  นึกสงสัยวันนี้มาผิดเวทีหรือเปล่าก็ไม่รู้  รอๆอยู่เหล่าครูก็ชวนกันเดินขึ้นไปที่ชั้นบน เอ๊ะยังไง วันนี้ผอก.จังหวัดจะนั่งประุชุมด้วยงั้นหรือ

เดินขึ้นชั้นบนก็เจอบรรดาครูที่ไปนครสวรรค์มารออยู่ 2-3 คน ได้ยินแว่วๆว่าเดี๋ยวไปนั่งประชุมกันที่ห้องชั้นล่างก็แล้วกัน ห้องตรงนี้ประเดี๋ยวผอก.ทั้งหลายเขาจะใช้ประชุมด้วยกัน ฉันจะเดินลงมาปรากฏว่าผอก.จังหวัดเชิญให้เข้าห้องประชุมด้วย แปลกใจมากที่ได้รับเชิญให้อยู่ประชุมด้วย

เมื่อเริ่มประชุม คนหัวโต๊ะก็เกริ่นเรื่องของการพัฒนาคนที่ส่งไปที่จังหวัดนครสวรรค์แล้วมีคนที่เปลี่ยนแปลงให้เห็นอย่างไม่คาดฝัน โยนคำถามให้่ครูที่ไปนครสวรรค์ซึ่งนั่งอยู่ในที่ประชุมด้วย 2 คนว่า เป็นยังไง ไปแล้วได้อะไรมาจึงมีการเปลี่ยนแปลงของชีวิตเกิดขึ้น ขอให้เล่าให้ที่ประชุมฟังเพื่อการเรียนรู้ร่วมกันสักหน่อย

ไม่ชัดเจนกับวัตถุประสงค์ที่ผอก.จังหวัดให้ฉันอยู่ร่วมประชุมในวันนี้สักเท่าไร ฉันจึงนั่งฟังครูตุ๋ยและผู้บริหารจากอำเภอเกาะลันตาผู้่เคยไปนครสวรรค์เล่าให้ที่ประชุมฟังอย่างเงียบๆ  ครูตุ๋ยเธอเล่าเรื่องราวชีวิตที่เพิ่งแก้ปัญหาไปให้ได้ยินได้ฟัง  ผู้บริหารจากเกาะลันตาเล่าให้ฟังว่าไปเจอการประชุมที่แปลกเปลี่ยนไปพร้อมสรุปว่ามีประโยชน์สำหรับการศึกษาสั้นๆแค่นั้นเอง

เมื่อผู้บริหารจากเกาะลันตาและครูตุ๋ยเล่าเรื่องจบลงแล้ว  ผอก.ผู้บริหารระดับอำเภอคนหนึ่งได้ตั้งคำถามว่า ผมไม่เข้าใจหรอกเรื่องชีวิตของครูตุ๋ยมาเกี่ยวกับประโยชน์ของการจัดกิจกรรมอย่างไร  ผู้นั่งหัวโต๊ะได้ขอให้ฉันช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเพื่อทำความเข้าใจ รับลูกไว้แล้วจึงถึงบางอ้อว่าทำไมผอก.จังหวัดจึงชวนฉันเข้ามานั่งด้วย ที่แท้มีเรื่องที่ต้องการให้ฉันสื่อสารให้ครูระดับผู้บริหารอำเภอเข้าใจประโยชน์สำหรับการทำงานในภาคการศึกษาแทนตัวเขานี่เอง

เมื่อเข้าใจว่าผู้บริหารกศน.ต้องการอะไร ฉันก็ทำหน้าที่ให้ซิ จะเป็นไรไป แลกเปลี่ยนไปว่าการเรียนรู้ตลอดกระบวนการที่ฉันสัมผัสมาก่อนเมื่อเริ่มเรียนรู้และลงมือจัดให้กับคนในร.พ.ไปแล้วนั้นคือการฝึกคนให้พัฒนาตนโดยไม่มีตำราเรียน ด้วยตำราเรียนมีอยู่ในตัวตนของผู้เข้ามาเรียนทุกคน เรียนไปแล้ว ทุกคนที่ลงมือปฏิบัติก็จะได้ความรู้บางอย่าง เป็นความรู้ที่ตัวผู้เรียนได้คำตอบเองเมื่อเรียนโดยผู้สอนไม่จำเป็นต้องตั้งคำถาม ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องของการปฏิบัติธรรมหรอกนะคะ อ้อ บอกด้วยว่าฉันมองเห็นว่าเรื่องราวเกี่ยวข้องกับพัฒนาการของคนตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีวิธีเรียนที่เหมือนหลักการใช้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่ครูใช้กันอยู่นี่เอง

เมื่อจบคำที่ฉันบอกเล่าแลกเปลี่ยนก็ไม่มีใครถามอะไรอีก ผอก.จังหวัดยิ้มอย่างถูกใจทีเดียวเชียว ฉันเพิ่งรู้ว่าผอก.จังหวัดตั้งใจจะใช้เวทีประชุมวันนี้ลงความเห็นเรื่องการใช้งบประมาณพัฒนาครูให้เป็นกระบวนกรซึ่งผอก.เห็นควรให้นำเข้าสู่โครงการพัฒนาครูไปแล้ว แต่ยังอยากให้ผู้บริหารระดับอำเภอทุกคนร่วมตัดสินใจด้วยตัวเองเพื่อให้ได้ความเห็นร่วมอย่างแท้จริง

ฉันนั่งฟังต่อก็ได้ความรู้ว่าพวกเขากริ่งเกรงกับการมีงบประมาณไม่พอจัด การตัดสินใจจ่ายค่าตัวของวิทยากรซึ่งเกินอัตราราชการอยู่หลายเท่า  ความเป็นไปได้ของสถานที่จัดกิจกรรมที่ตั้งใจไว้ หรือแม้กระทั่งจำนวนของครูที่จะเข้าอบรมว่าควรเป็นอย่างไร เหล่านี้คือเรื่องที่ฉันเพิ่งกระจ่างแล้วเริ่มเข้าใจถึงเหตุที่ทำให้การขยับตัวของครูเงียบหายไปในช่วงหนึ่งที่ผ่านมา

ในที่สุดที่ประชุมก็มีข้อสรุปเรื่องของการจัดการที่ลงตัวได้ ได้ความว่าเปลี่ยนความตั้งใจที่จะสร้างครูแบบแม่ไก่ลูกไก่เป็นพัฒนาครูกศน.ทั้งหมดรวมผู้บริหาร  กำหนดให้ใช้สถานที่ของตนปรับใช้แทนการไปจัดที่โรงแรมหรูๆ  ดูแลวิทยากรแบบให้ค่าตัวเป็นทีมผ่านวิทยากรหลัก 2 คนเหมาจ่ายทั้งหลักสูตรในอัตราราชการ  ดูแลค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางโดยเครื่องบินของวิทยากรหลักเพียงแค่ 2 คน ถ้าหากวิทยากรนำทีมมาเป็นผู้ช่วยก็จะดูแลค่ายานพาหนะในอัตรารถทัวร์ไม่เกิน 2 คน ที่พักและอาหารดูแลกันไปตามเนื้อผ้า กำหนดเวลาจัดกิจกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ตามที่ครูณาได้ให้เวลาไว้ เวลาของการทำกิจกรรมรวม 3 วัน มีช่วงกลางคืนด้วย  สถานที่จะจัดอย่างไรก่อนวันมีกิจกรรมให้ทีมวิทยากรมาชี้บอกให้แล้วค่อยจัดการ

ฉันได้พาตัวออกจากที่ประชุมหลังจากร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับระเบียบราชการการจัดอบรมไว้เป็นข้อเปรียบเทียบของครูแล้ว ข้อสรุปข้างต้นได้เกิดขึ้นแล้วก่อนพาตัวออกมาจากห้องพร้อมครูตุ๋ย เราพากันไปทำงานแบบสหเฮดเตรียมงานกับครูอื่นๆที่รออยู่ที่ห้องประชุมชั้นล่าง

พอเริ่มคุยครูตุ๋ยก็บอกว่าขอยกบทวิทยากรหลักมาให้ฉัันทำให้อึ้ง นึกในใจว่า เ้ฮ้ย งานนี้งานของครูนะ ไม่ใช่งานของฉัน เรื่องราวต้องการผลการเรียนรู้อย่างไรก็เป็นครูที่อยากทำ ไหงจึงโยนมาให้ฉันเป็นวิทยากรหลักกันไปได้เล่า  พอเฮ้ยก็ปิ๊งแวบขึ้นมาได้ว่า สงสัยว่าครูเขาเกรงใจหมอนะ เวลาหมอเข้ามาเกี่ยวกับเขา เขาจึงให้เกียรติเสมอ รู้แล้วก็เลยบอกกลับครูตุ๋ยไปว่า เอาอย่างนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะช่วยกันทำอะไรได้ อะไรที่ครูไม่มั่นใจเพราะไม่เคยทำมาก่อน ฉันนั้นยินดีที่จะลงมือช่วยทำให้ ตกลงกติกาว่าโยนไมค์ให้กันได้ เมื่อเกิดไม่แน่ใจว่าจะเดินกระบวนการต่อไปอย่างไรจะดีกว่าสำหรับทุกๆคน

สังเกตว่าเมื่อบอกไปอย่างนี้ครูตุ๋ยและครูทุกคนโล่งใจกันนะ แล้วเราก็ช่วยกันแบ่งเวลาแบ่งช่วงของกิจกรรมตามตารางกิจกรรมที่ครูตุ๋ยร่างเป็นตุ๊กตาไว้แล้ว ร่างนี้ถอดพิมพ์มาจากกิจกรรมที่ผ่านจากนครสวรรค์เท่าที่จำได้เป็นส่วนใหญ่ ตกลงแบ่งกันตามความถนัดเดิมที่แต่ละคนมีผนวกด้วยใช้ความเข้าใจที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของแต่ละคนเป็นหลักในการจ่ายงานให้ร่วมทำ

สรุปว่าได้ตัวของครูพร ครูวิ ครูย๊ะ ครูตุ๋ยเป็นทีมหลัก ครูหลิว ครูจิต 2 คนเป็นทีมผู้ช่วย ในส่วนของฉันจะนำทีมไปร่วมช่วยเป็นลูกมือตอนเข้ากลุ่มไม่เกิน 4 คนรวมตัวฉันด้วยเป็น 5 คน เวลาลงมือทำงานคือวันที่ 21-22 มกราคม ใช้ห้องประชุมร.พ.อ่าวลึกเป็นที่นัดหมาย  แบ่งงานแล้วก็ช่วยกันคิดว่ามีวัสดุอะไรบ้างที่ต้องการใช้ประกอบกิจกรรม แล้วมอบงานนี้ให้ครูตุ๋ยไปเตรียมความพร้อมให้กับทีม

เมื่อได้ข้อมูลจากครูๆทั้งหลายรวมทั้งงานที่แบ่งงานกันมาแล้ว ฉันก็แจ้งข่าวให้ผู้คนในวงโรตีรู้วัน เวลาลงมือทำกิจกรรม สะหน้าและหนับอาสาที่จะเข้ามาช่วยเหลือและร่วมเรียนรู้ บังหลาและครูอีกคนไม่ได้เจอกันจึงไม่ได้ส่งข่าวให้รู้

หลังจากรับรู้ข่าวแล้ว สะหน้าก็โทรมาหาฉันในตอนรุ่งเช้าของวันหนึ่ง ขอให้ครูตุ๋ยส่งหนังสือเชิญไปถึงต้นสังกัดหน่อย เธอจะได้สะดวกในการไปร่วม มีหรือที่ฉันจะปฏิเสธรับปากแล้วก็จัดให้ในทันทีนั้นเอง

เรื่องราวที่เล่ามานี้ นับเป็นความก้าวหน้าอีกก้าวของ to do tag ที่ตั้งใจไว้ค่ะ

3 มกราคม 2553

บันทึกอื่น

1. เมื่อครูลงมือ

2. ยิ้มก่อนนอนกับ to do tag

3. เชื่อมโยงความตั้งใจ

« « Prev : ๗ วันผ่านไปแล้วเร็วจริงๆ

Next : เง้ง..เง้ง…เง้ง…ระฆังยกหนึ่งดังขึ้นแล้ว » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "เมื่อครูเริ่มตีระฆัง"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.045210838317871 sec
Sidebar: 0.12569403648376 sec