ยิ้มก่อนนอนกับ To Do Tag

โดย สาวตา เมื่อ 10 ธันวาคม 2009 เวลา 19:36 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1618

หลังจากที่วงโรตี วงแรกเกิดขึ้น ทางกศน.ก็ขยับเดินหน้าสานต่องานดูแลสังคมเข้าสู่งานประจำของครู ตกลงกันว่าเมื่อไรครูลงมือ ขอเพียงกริ๊งมาบอกแค่นี้ก็จะได้ร่วมกันทำงาน  ในครั้งสุดท้ายที่ได้พบกับครูระดับผู้บริหารของกศน. เรื่องราวที่ตกลงกันในวงโรตีได้ถูกส่งต่อให้รู้กัน

ในระหว่างรอกศน.ซึ่งยังช้า่เพราะระบบราชการ วงโรตียังแข็งขันและเดินไปด้วยกันข้างหน้า สัปดาห์ที่แล้วได้มีการเจอกันเป็นครั้งที่ 2 ขึ้น สมาชิกในวงที่ยังเหนียวแน่นติดหนึบก็คือสาวน้อยคนชวนให้ตั้งวง ครานี้มีสมาชิกใหม่เพิ่มมา 5 คน คนไทย 2 คน ต่างชาติ 3 คน

3 คนหลังเป็นอาสาสมัครจากอเมริกา ออสเตรเลีย สวีเดน  2 คนหลังเป็นคนวัยทำงาน หนึ่งนั้นเป็นชายทำงานมูลนิธิแห่งหนึ่งในกระบี่ ซึ่งมีเด็กที่พบกับภัยสึนามิอยู่ในอุปการะเป็นร้อยคน อีกหนึ่งเป็นหญิงทำงานในสังกัดองค์กรท้องถิ่นดูแลศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่งอยู่ในอำเภอเมืองกระบี่

ชักเข้าเค้าว่าเป็นไปได้กับการมีเครือข่ายที่มีผู้คนเชื่อมโยงเข้ามาแบบหลากหลายอย่างนี้  ในการพบปะกันครั้งนี้จึงเป็นการชิมลางของการสานต่อเพื่อนำสู่การสานสัมพันธ์ต่อเนื่องกับผู้ย่างก้าวเข้ามาใหม่ในวง บรรยากาศของวงจึงได้เพียงแค่บรรยากาศแบบสภากาแฟแค่นั้นเอง  แต่อย่างน้อยก็ได้รับรู้ว่าบรรดาคนที่มามีไฟของจิตอาสากันอยู่

เมื่อสมาชิกใหม่ทั้ง 5 แยกตัวกลับ สุนทรียสนทนาระหว่างคน 2 คน ได้เริ่มขึ้น สาวน้อยมีประเด็นของการเรียนรู้เพื่อการปรับตัว ปรับชีวิตมากมาย  ได้เรียนรู้ความสับสนและหวั่นไหวกับชีวิตที่เกิดตามมาหลังจากการตัดสินใจปรับเปลี่ยนชีวิตกลับมาอยู่เคียงข้างผู้คนในครอบครัว

ค่ำคืนนั้นฉันได้เรียนรู้ว่าการชั่งใจระหว่างความกตัญญูและผลกระทบจากสังคมรอบข้างที่เปลี่ยนไปก่อความทุกข์ของผู้คนที่มีพลังของจิตอาสาขึ้นได้อย่างไร  โชคดีที่สาวน้อยได้สัมผัสกับสุนทรียสนทนาจนเข้าใจตัวเอง ดังนั้นในวันนี้เธอจึงมีความสุขกับสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปมากโขอยู่

เมื่อต่างคนต่างแยกจากกัน ความสุขได้เกิดขึ้นกับคน 2 คน เป็นความสุขของการได้แลกของขวัญ “การฟัง” ให้แก่กัน “ให้กำลังใจ”กับการได้ลงมือทำงานของชีวิตต่อของสาวน้อยกับคนที่บ้าน

อย่างที่เล่าไว้แล้วในคราตั้งวงว่า  แค่ “ส่งเสียงมา วงก็เกิด” สบายๆแบบเบิร์ดๆเชียว  ในยามบ่ายของวันนี้ ก็มีเอสเอ็มเอส ส่งสาส์นมาบอกว่า คืนนี้เจอกัน

การเจอกันเป็นครั้งที่ 3 มีเรื่องให้เซอไพร๊ท์อีก  เมื่อไปถึงสถานที่นัดพบ..อ้าว..ไหงมีเด็กวัยรุ่น 2 คนมาร่วมด้วย สาวคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วนั้นเป็นคนเดียวกัับที่เจอกันในครั้งที่ 2  เมื่อเห็นเด็กมาด้วยกับตัวเธอ…เอ๊ะว่า….เธอเข้าใจอย่างไรกับการนัดหมายในคืนนี้ หรือในใจเธอกำลังสนใจอะไร จึงนำพาหนีบเด็กวัยรุ่นทั้ง 2 ติดมาด้วย ส่วนตัวสาวน้อยคนชวนตั้งวงนั้น เธอส่งข่าวว่ากำลังเดินทางมาร่วม

มีเด็กวัยรุ่นมาด้วยอย่างนี้ ก็ไม่ว่ากันอยู่แล้วคุยกันได้  รู้สึกแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ก่อนจะคุยกับใครต้องเล็งๆ ไม่รู้จักเท่าไรไม่คุยด้วยหรอก เดินหนีเลย แต่ว่าค่ำคืนนี้เข้าไปนั่งร่วมโต๊ะเฉยเลยกับสาวคนนี้

สาวที่มารออยู่ก่อนแนะนำเด็กให้รู้จัก  คนหนึ่งยังเรียนอยู่มัธยมมีงานยามว่างเป็นผู้กระจายข่าวของวิทยุชุมชน  อีกคนจบปริญญาตรีแล้วโยกย้ายมาจากนราธิวาสเพื่อทำหน้าที่ดูแลพ่อแม่ในครอบครัวประสบภัยสึนามิแทนลูกสาวตัวจริงของครอบครัว  ที่ได้ฟังแล้วแปลกก็คือเธอมาทำหน้าที่แบบจิตอาสาโดยไม่มีความสัมพันธ์เดิมแต่อย่างไรกับครอบครัวที่เธอมาดูแล

เมื่อนั่งลงแล้วก็มีคำถามถูกป้อนมาจากสาวผู้สูงวัยกว่า  ให้คุยเรื่องสุนทรียสนทนาให้เด็กทั้งคู่ฟัง

ฉันชวนเด็กๆคุยเล่าอะไรบางอย่างเรื่องของตัวเอง  โยนคำถามชวนคุยให้สะท้อนความรู้สึกของเขาทั้งสองในฐานะผู้รับผลจากสังคม ไม่คาดว่าเรื่องเล่าที่หลุดออกจากปากของเด็กมัธยมจะเป็นเรื่องที่ได้ยิน เรื่องของเธอเป็นประเด็นความรู้สึกที่มีต่อครูในโรงเรียนของเธอ ความรู้สึกนั้นถูกส่งออกมาผ่านคำพูดเชิงคำถามที่แสดงความคับข้องใจอยู่อย่างมากมาย

เ็ด็กอีกคนไม่ได้สะท้อนอะไรให้ได้ยินในตอนแรก ดูเหมือนเธอกำลังทำความเข้าใจแล้วแปลเป็นคำถาม เมื่อเข้าใจว่าเป็นการสนทนาไม่ใช่การตอบคำถาม เธอสะท้อนความรู้สึกต่อมุมมองของคนพุทธที่ไม่เข้าใจคนอิสลามออกมาให้ได้ยินแฮะ

คุยกับเด็กไปได้สักครู่ ก็มีผู้คนมาสมทบ เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เคยพบปะเมื่อคราตั้งวงครั้งที่ 2  สาวน้อยผู้นัดหมายมาถึงก่อนหน้าเขาเพียงเล็กน้อย  หลังการอุ่นเครื่องสนทนาทำความรู้จักกันระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ สักครู่ก็มีชายหนุ่มอีกคนมาสมทบ คนหลังนี้เป็นครูในระบบคนหนึ่ง เพิ่งพบหน้ากันในค่ำคืนนี้เป็นครั้งแรกค่ะ

คุยกันไปแลกเปลี่ยนกันไปจนกลายเป็นการวางแผนร่วมกันไปเลยแฮะ ผลของการสนทนาลงเอยด้วยวัน เวลาและสถานที่จัดกิจกรรมเรียนรู้ร่วมกันเพื่อทำความรู้จักกับบรรยากาศของสุนทรียสนทนาไปได้  เป็นประสบการณ์ที่แปลกดีกับการวางแผน จึงถอดบทเรียนมาเพื่อเล่าสู่กันฟัง แค่มีความสนใจอยู่ที่เรื่องเดียวกัน “จิตอาสา”  และ  มี “ความวางใจกันและกัน ” แค่นี้ก็ทำให้เกิดอะไรๆที่ดีๆตามมาได้

ที่นำเรื่องนี้มาเล่าก็เืพื่อจะตอบว่า ได้รับ To Do Tag ที่ส่งต่อมาจากน้องหนิงแล้ว

รับเรื่องมาแล้วก็คิดอยู่นานจะบอกเรื่องอะไรดีด้วยว่ามีสิ่งที่คิดจะทำอยู่หลายเรื่อง เอาเป็นว่าขอบอกแค่เรื่องของการทำประโยชน์ต่อสังคมเพื่อถวายแด่พ่อของแผ่นดินก็แล้วกันนะคะ

ใจมันอยากลองดูสักตั้งกับการเชื่อมเครือข่ายครูต่างระบบเข้ามาทำงานเชิงสังคมแบบร่วมด้วยช่วยกัน ครูต่างระบบที่ว่านี้ คือ ครูในสังกัดต่างกรม ต่างกระทรวงของภาคการศึกษาค่ะ (กศน.+กรมอาชีวศึกษา+อปท.) อีกความหวังของความตั้งใจครั้งนี้คือเครือข่ายนี้จะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครูไทยพุทธและครูอิสลามเกิดขึ้น แล้วส่งผลให้ของขวัญเหล่านี้ได้ถูกส่งมอบให้กันและครูส่งมอบให้เด็กๆค่ะ

เริ่มคิดเรื่องนี้ตั้งกะปีที่แล้ว ปีนี้จะเริ่มลงมือแล้ว ถือว่าวันนี้รายงานความก้าวหน้าก็แล้วกันนะคะ….

ส่วนเรื่องการทำอะไรส่วนตั้วส่วนตัวที่ไม่ง่ายนั้น….ขอกำไว้ก่อนยังไม่แบให้ดูค่าาาาาาาาา…มันไม่รวมอยู่ในหลายเรื่องที่ว่าข้างบนค่ะ….ยังถามใจตัวเองอยู่…อยากทำอะไรส่วนตั๊วส่วนตัวบ้าง….อิอิ

ด้วยกติกาป๋าดันบอกให้ Tag ต่อไปอีก 2 คน….มองๆไปรอบลาน….

อืม…..พี่ตึ๋งนั้นเบิร์ด tag ไปแล้วแต่ไม่ยอมรับลูก….

Tag น้องอึ่งอ๊อบดีหรือไม่…อืม…อาจารย์ไม่ยอมรับลูก…ลูกศิษย์ก็คงคือกัน….ไม่ Tag ดีกว่า….(เดาใจถูกหรือเปล่า…อิอิ)

เอ…แล้ว tag ใครดีหว่า…เอาเป็นว่า…Tag ต่อไปที่น้องครูอาราม กับ คุณ nothing ก็แล้วกันค่าาาาาาาาาาาา

9 ธันวาคม 2552

« « Prev : ไม่รอแล้วนะ..ทำได้ทุกวัน…วันละหลายหน..เลือกได้..เลือกได้

Next : โอ๊ยๆๆๆ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 ธันวาคม 2009 เวลา 22:25

    บางทรายเรียนโลกไปตามหมอเจ๊

  • #2 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 ธันวาคม 2009 เวลา 15:13

    เมื่อย้อนมองประสบการณ์ของค่ำคืนนี้ น้องได้มุมมองบางอย่างที่ควรสังเกตในเชิงสังคมของวัยรุ่นต่อไปด้วยค่ะพี่

  • #3 นักการหนิง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 ธันวาคม 2009 เวลา 20:59

    พี่หมอเจ๊ทำเรื่องที่น่ารักมากๆ ค่ะ …. รอติดตามนะคะ

  • #4 aram ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 ธันวาคม 2009 เวลา 22:42

    มารับไม้ต่อนะครับ

  • #5 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 ธันวาคม 2009 เวลา 23:08

    น้องหนิงจ๋า เรื่องที่คิดจะทำนี้ไม่ง่ายๆแต่ก็เป็นเรื่องที่อยากทำลองดูสักตั้ง แค่เพียงได้ผลว่าเหล่าครูเขาได้มาพบปะรู้จักกัน และมีกิจกรรมร่วมกันต่อเนื่องที่เกิดขึ้นตามมา พี่ก็พอใจแล้วเพราะรู้ว่าผลที่ได้มีแต่ความก้าวไปข้างหน้า ไม่มุมใดก็มุมหนึ่งค่ะ

  • #6 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 ธันวาคม 2009 เวลา 23:09

    น้องอาราม รอดูพระที่แกะเน้อ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.63634419441223 sec
Sidebar: 0.52236294746399 sec