งอม
ในช่วงเวลาที่คนกรุง คนภาคกลางงอมจากน้ำท่วม งอมจากเหตุการณ์ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปรกระทันหัน ความงอมก็เข้ามาครอบครองตนไปด้วย
โดนคร่อมต่อยด้วยอารมณ์แบบว่าปล่อยให้อีกฝ่ายทุบเอา ทุบเอา ทุบเอา ต่อยเอา ต่อยเอา ต่อยเอา ตามชอบใจ
อยากจะยกตัวทุ่มลงบนเวทีก็ปล่อยไป ย้อนไปมองก็เห็นสภาพที่ปล่อยตัวให้ยกทุ่มตามแต่อีกฝ่ายอยากจะกระทำ
ตื่นขึ้นมาทุกวันแม้จะได้สติขึ้นมาบ้างว่ากำลังถูกต่อย สติก็มีไม่มากพอที่จะสั่งให้ต้านขืน
อารมณ์กลายเป็นคู่ต่อสู้ที่ได้เปรียบ และเล่นงานเอาจนงอม แล้วความงอมก็เปิดช่องให้สัญชาตญาณโจรกลับมาเป็นเจ้าเรือนอีก
โชคดีที่ปล่อยตัวไม่ต่อสู้กับการยกตัวทุ่มของอารมณ์ โชคดีที่สัญชาตญาณโจรกลับใจไม่สมยอมเป็นพวกโจรแล้วต้านขืน
โชคดีที่ไม่อวดดีว่ามีแรงต้านการทุ่ม ยอมเจ็บตัวปล่อยให้ถูกทุ่มลงบนเวที แล้วเรียนรู้ผล
ในช่วงของการเรียนรู้จึงได้พบอีกมุมว่า ความสุขกับแรงจูงใจมีเอี่ยวกัน ความทุกข์กับการไม่พบคำตอบที่ค้นหามีเอี่ยวกัน
แรงจูงใจไม่มีใครสร้างให้ใครได้ แรงจูงใจเกิดขึ้นมาเองเมื่อคนรู้ว่าอะไรคือความสุขที่แท้ของตน
แรงจูงใจเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าคนบอกตัวเองไม่ได้ว่าอะไรคือความสุข
การค้นไม่พบซึ่งคำตอบที่ค้นหาสร้างความทุกข์
การค้นไม่พบซึ่งคำตอบโดยมีแรงจูงใจเป็นไฟคอยให้ความอบอุ่นสร้างความสุข
การฝืนใจยอมรับคำตอบที่ตนปฏิเสธทำลายแรงจูงใจของคนได้
การพบคำตอบที่ฝืนกับความจริงที่มองเห็นสร้างความสุขให้ก็ได้ สร้างความทุกข์ให้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเวลานั้นมี “สติ” หรือ “อคติ” เป็นคู่ต่อสู้กับอารมณ์
ในยาม “งอม” รู้ตัวเลยว่า พยายามไขว่คว้าหาที่พึ่ง เพื่อนคือเสียงแรกที่ได้ยิน เวลาที่มีให้กับตัวเองกลับเป็นรอง
แต่เมื่อตัดสินเลือกให้เวลากับตัวเอง ปล่อยตัวเองไปกับการเรียนรู้ผลของการถูกทุ่ม กลับกลายเป็นว่าสามารถหลุดพ้นจากการเป็นคู่ซ้อมของอารมณ์ได้…..แปลกจริง
วันนี้ถ้าความงอมเป็นเช่นผลไม้งอม ผลไม้ผลนั้นก็ปลิดหลุดจากขั้วร่วงสู่ดินแล้ว
บันทึกอื่น
2. เหยื่ออารมณ์
« « Prev : ตามลม(๘๙): แล้วก็ได้…ระบบบำบัดน้ำเสีย…ย่อส่วน…เกิดขึ้นมา
6 ความคิดเห็น
ตอนแรกผมอ่านรวกๆ
ได้ความว่า “งอน”
อ่านไปอ่านมาได้ความว่า
……..”งอม”
งอมกะงอน เนี่ย ผมว่า
มันมีความเชื่อมโยง (บูรณาการ)กันอยู่นะ
เพราะงอม จึง งอน
หรือเพราะงอน จึง งอม
น้ำที่ไหลบ่ามาคงรู้ดี
กว่า คน เราอีกนะ ….ผมว่า
เมื่อมันผ่านไปแล้ว พี่รู้สึกปิติด้วยใช่ไหมคะ
นึกว่ากล้วยงอม
นึกว่าฝนตกหนักกระบี่ตอนนี้จนงอม
นี่ก็งอมเหมือนกัน คือรู็สึกแก่จนงอม หุหุ
#1 ในยามที่ “งอม” อารมณ์เหมือนน้ำไหลบ่าเลยละค่ะอาจารย์ มีหลากหลายรสชาติ เมื่อไรงอมสุดๆ ใครแหลมเข้ามาแบบว่าทำให้ไม่ถูกใจ เป็นโดน ปรากฏการณ์ถูกทุ่มนี่แหละที่ทำให้กลายเป็นโจร(ร้าย)
เมื่อเช้านี้ลองจำแนกอารมณ์ตอนนั้นดู ก็พบว่ามีหมด งอน กลัว โกรธ รัก ก็ถือว่าเป็นโชคดีที่ปล่อยให้กระแสมันพัดผ่านไปแบบสบายๆ อยากผ่านมาก็ให้ผ่านมา รู้ว่ามันผ่านก็แค่ประคองตัวไม่ให้โดนทุ่มแรงๆ ก็ผ่านมาได้แบบชิวๆ และกลับมา…อิอิ…ได้ใหม่
#2 วันนี้ถือว่าความดุเดือดแบบโจรลดน้อยลงไปนะน้องสร้อย ตอนที่รู้ว่าปลิดขั้วร่วง เป็นความรู้ตัวว่าอารมณ์กำลังเป็นเจ้าเรือนมากกว่า และรับรู้ว่าอัตตาโดนท้าทายด้วยอารมณ์ พออัตตารับรู้อารมณ์ได้ ก็ได้สตินะ หลังจากนั้นความมีชีวาก็คืนกลับมา
#3 เวลาเจอคนไข้ที่มีอารมณ์ยามนี้ คำที่มักจะบอกญาติคนไข้ไปก็จะบอกว่า สงสัยฮอร์โมนหมด คำพี่ทำให้นึกไปถึงเรื่องนี้เลยค่ะ แก่แล้วลมเพลมพัดแล้วคนรอบข้างเป็นยังไง คราวนี้ก็ได้เรียนค่ะพี่