น้ำใจชาวลานฯ

46 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 19 เมษายน 2010 เวลา 10:08 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3259

เมื่อวันที่ 15-16เม.ย.ที่ผ่านมานี้เป็นวันดีและคนดีในลานฯของเราบวชค่ะ(ดร.เม้ง) พี่น้องชาวลานฯจากทั่วสารทิศก็ตั้งใจจะไปร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน แต่ด้วยความจำเป็นและมีเหตุขัดข้องสำหรับหลายๆท่านที่ได้ตั้งใจไว้ทำให้ไม่สามารถไปได้  พอถึงวันจริงก็มีตัวแทนได้ไปเท่าที่เห็นในภาพที่นำเสนอไปบ้างแล้วค่ะ การไปพร้อมหน้าของพี่น้องชาวลานฯทำให้โยมพ่อโยมแม่รู้สึกอบอุ่นและคงสัมผัสถึงความรักที่เรามีให้กัน วันกลับท่านมาส่งที่รถและท่านได้พูดกับป้าจุ๋มว่าขอขอบคุณและท่านปลื้มใจมากๆที่พี่น้องชาวลานฯมากันได้มากขนาดนี้ ก่อนจากท่านก็ได้มากอดลาตามธรรมเนียมชาวลานฯด้วยความสนิทสนมและด้วยสายตาและสีหน้าเปี่ยมสุขยิ่งค่ะ พลอยทำให้เราสุขใจไปด้วยและรู้สึกว่าเป็นบุญและดีใจจริงๆที่ได้ไปร่วมบุญในครั้งนี้ค่ะ วันนี้ขอนำเสนอภาพเก็บตกเพิ่มเติมค่ะ

ภาพนี้ขอถ่ายเมื่อพวกเราไปถึงใหม่ๆ แม่ลำดวนอิดเอื้อนยังไม่อยากถ่าย บ่นว่ายังไม่ส้วย ยังไม่ส้วย เพราะเตรียมงานมาแต่เช้ายังไม่ได้แต่งตัวส้วยเลย แต่ก็ทนความตื้อพวกเราไม่ได้ ก็เลยได้ภาพที่งดงามนี้มาค่ะ

นี่ก็ยกทีมสีเหลืองสวยอร่ามมาเลยค่ะ ครอบครัวแสนหวานและอบอุ่นด้วยไอรัก น้ำใจนี่ยิ่งกว่ามหาสมุทร และน่ารักเหลือเกินโดยเฉพาะหลานนิวค่ะ ป้าจุ๋มก็ขอให้ครอบครัวท่านมีแต่ความสุขสมหวังอบอวลด้วยไอรักและสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาตลอดไปค่ะ (ได้ข่าวว่าขับรถหลงทางกว่าจะมาถึงก็มืดเลยเพราะมัวเถียงกับGPSค่ะ)

นี่ก็มาครอบครัวเช่นกันค่ะอ.Handy ซึ่งตอนแรกบอกว่าเสียใจคงมาไม่ได้เพราะจะติดธุระอยู่เมืองเหนือแต่แล้วก็มาได้ค่ะ ป้าจุ๋มเลยได้กอดหลานWebได้คลายความคิดถึง ตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดีนะจ๊ะหลานรัก ไว้มีโอกาสป้าจะไปเยี่ยมจ้า ขอให้อ.Handyนำพาครอบครัวไปด้วยดีและจะคิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ทุกอย่างค่ะ

คนกลางคือลุงพูนค่ะ ที่มีเฮที่ไหนถึงตัวไปไม่ได้ก็มีของฝาก วันนี้ลุงพูนก็มาพร้อมสบู่ทำเองมาแจกพวกเราเช่นเคยค่ะ ขอให้คนน้ำใจงามอย่างลุงพูนมีแต่ความสุขนะคะจะคิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมประสงค์ในทุกสิ่งค่ะ

ดูหน้าก็รู้ว่าหนุ่มบุญหนักคนนี้ชื่อโสทร กัดฟันมุ่งมั่นว่าต้องทำให้ได้เพื่อนรักบวชทั้งที บอกว่าเคยแบกปุ๋ยหนักกระสอบละ 50 กิโลเป็นประจำ แต๋โถพ่อหนุ่มน้อยจ๋า…ท่านนาคหนักแค่ 78 กิโลกรัมเท่านั้นแถมยังเดินช้าๆอีก บุญนี้หนักจริงๆ ได้ข่าวว่าได้รับผลบุญแบบเต็มๆไปแล้วและรับแบบตรงเลย(บอกว่าระบมทั้งตัวเลยครับ)ก็เล่นรับบุญหนักกว่าใครๆก็เป็นอย่างนี้แหละ

ไม่เท่านั้นนะคะพ่อหนุ่มใจงามคนนี้อาสาบริการรับ-ส่งน้องเบิร์ดที่บินลัดฟ้ามาจากเชียงราย(นี่ก็อีกคนspiritแรงมั๊กๆๆค่ะ)และพาไปกินของดีเมืองตรัง แถมยังมีน้ำใจห่อมาฝากพวกเราได้อร่อยกันทั่วหน้าจ้า ขอผลบุญนี้ส่งผลให้โสทรคนดีคนนี้จงประสพแต่ความสุขสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนานะจ๊ะ

หมูย่างที่อร่อยที่สุดของเมืองตรัง-ปลาหมึกย่างและข้าวยำปักษ์ใต้ค่ะ (นำภาพมาให้ดูเฉยๆไม่ต้องการให้ใครอิจฉาค่ะ)

ทางซ้ายมือสุดคือน้องเบิร์ดคนเก่งน่ารักและspiritแรงบินลัดฟ้ามาจากเชียงรายค่ะและสาวคนกลางคือหนิงกลิ้งที่น่ารักของชาวลานฯที่หายหน้าหายตาไปนานก็อุตส่าห์บินลัดฟ้ามาจากมหาสารคามค่ะไม่ยอมแพ้น้องเบิร์ด ก็ขอปรบมือให้ทั้งสองคนค่ะ น้องหนิงยังคงความสมบูรณ์ไว้อย่างสม่ำเสมอ น่ารัก น่ากอดเช่นเดิมค่ะ คราวนี้ทิ้งคุณแม่บินเดี่ยว ประมาณว่าจะมาหาคู่หูเอาข้างหน้า..อิอิ

 

 นี่ก็ไม่ใช่ใคร…หลานรักอาคอนคนหนึ่ง ป้าจุ๋มเป็นห่วงถามว่าทำไมต้องเอียงคอแทบหักขนาดนั้น ก็ได้รับคำสารภาพว่าความจริงอยากนั่งชิดอาคอนมากกว่านั้น แต่เป็นห่วงในความปลอดภัยของชีวิต ด้วยเกรงว่าจะมีคนเข้าใจผิด!!! เลยต้องเอียงคอเพื่อให้ใกล้อาคอนอย่างที่เห็นค่ะ  หายหน้าไปนานมัวไปตั้งใจเรียน เทอมนี้ลงไป 10 วิชา  กินมดเสีย 8 ตัวหน้าตาก็เลยเป็นอย่างที่เห็นค่ะ…อิอิ(น่ารักเหมือนเดิมค่ะ)

ภาพนี้แหละที่น้องเบิร์ดสงสัยว่าพระองค์ที่ถือกล้องใหญ่อยู่นั้นทำไมผมดำจัง ดูไปดูมาอ๋อไม่ใช่ใคร???ไม่เฉลยให้ทายกันเองค่ะ

 

 เนื่องจากกลุ่มเรานั่งหลบมุมอยู่หลังโบสถ์ค่ะ ป้าจุ๋มนั่งกอดหลานwebค่ะ

ขอมอบบุญกุศลและความสุขที่พึงได้พึงมีจากการร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้จงมีแด่ชาวลานฯทุกท่านค่ะ

 ะ

สุดท้ายบันทึกนี้ป้าจุ๋มขอฝากดอกเล็บมือนางสวยๆหอมๆน่ารักๆจากสวนในบ้านป้าจุ๋มเอง ช่วงนี้กำลังออกดอกและบานสะพรั่งหอมอบอวลไปทั่วบริเวณบ้านค่ะ


นับว่าบุญบันดาล

344 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 18 เมษายน 2010 เวลา 23:58 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 8250

หลังจากทราบข่าวถึงความตั้งใจที่จะบวชของดร.สมพร ช่วยอารีย์(ดร.เม้ง ของชาวลานฯ) ก็รู้สึกศรัทธามากและตั้งใจไว้เลยว่าถึงอย่างไรก็จะไปร่วมอนุโมทนาบุญกับดร.เม้งให้ได้…เริ่มจากการเตรียมทำดอกไม้ห่อเหรียญเอาไว้ไปหว่านตอนที่ออกจากโบสถ์หลังทำพิธีเสร็จแล้วเป็นพระแล้วค่ะ(ภาคใต้เรียกว่า “กำพฤกษ์” ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่าค่ะ) ดอกไม้ต้องเตรียมเนิ่นๆเพราะทำสวยๆอย่างนี้ทำช้าค่ะ…ต้องใช้เวลา

พอใกล้ถึงวันแผนที่วางกันไว้ถูกยกเลิก!!! เอาละสิ  ถ้าไปรถประจำทางก็คงลำบากมากเพราะเป็นช่วงเทศกาลพอดี  ตั๋วเครื่องบินก็ไม่มี…อดไปแน่เลย จะขับรถไปกันเองก็ดูจะไกลไปหน่อย คงจะขับกันไม่ไหว…จะทำอย่างไรดี…แต่สุดท้ายอาจด้วยบุญบันดาล… คุณLogosตัดสินใจขับรถไปเอง(เพราะมีความตั้งใจมากกว่า) ป้าจุ๋มและน้องจิเลยโชคดีได้ไปสมความตั้งใจ…แต่ได้วางแผนแบ่งระยะขับว่าวันแรกพักที่ชุมพรจะได้ไม่เหนื่อยมากเกินไป เช้าไปร่วมงานปลงผมและทำขวัญนาคทัน  คืนที่สองนอนที่ทุ่งสงจะได้ตื่นเช้าไปร่วมพิธีบวชทัน และขากลับก็มาค้างที่ชุมพรก่อนตียาวเข้ากรุงเทพฯ ในที่สุดทุกอย่างเป็นไปตามแผนอย่างดี  ได้พบได้กอดพี่น้องชาวลานฯหลายท่าน…สุขและสมหวังอีกเช่นเคยค่ะ…พวกเราก็ได้อิ่มบุญกลับบ้านด้วยความปลอดภัย…ขอนำบุญฝากพี่น้องชาวลานฯทุกท่านด้วยค่ะ

ดอกไม้สำหรับกำพฤกษ์

                     ดอกไม้สวยที่ป้าจุ๋มเตรียมไปไว้สำหรับกำพฤกษ์(พระใหม่หว่านโปรดบุญให้ผู้มาร่วมงาน)

เช้าวันที่15เม.ย.ทีมจากกรุงเทพฯไปถึงบ้านดร.เม้งราว 11 โมงเช้าค่ะ

ไปทันเวลาที่น้องจิได้กอดอาเม้งค่ะ(อาเม้งบอกน้องจิไว้ก่อนว่าถ้าอาโกนผมแล้วกอดไม่ได้น๊ะ) เช้านั้นน้องจิเลยเร่งอาคอนให้ขับรถเร็วๆจะได้ทันเวลา อาคอนก็ใจดีจัดให้ค่ะ(เรื่องspeedนั้นอาคอนถนัดอยู่แล้ว)…

ลุงพูนก็มาและนำสบู่ที่ทำเองมาแจกอีกแล้วค่ะน้องโสทรก็เอาหมูย่าง ปลาหมึกย่าง ข้าวยำปักษ์ใต้แสนอร่อยมาฝากค่ะ

น้องเบิร์ดเป็นตัวแทนทีมบก.ไผ2มอบหนังสือค่ะ

      ไผเป็นไผก็ดูเองค่ะ                                         ดร.เม้งและพ่อลำดวน-แม่เอียด

          

                                          เป็นนาคแล้วก็มาถ่ายภาพกับพี่น้องชาวลานฯได้ปลื้มกันค่ะ    

           

พี่น้องชาวลานฯที่น่ารักค่ะ นาคเม้งกับดร.วัฒนา กานบัว นางคว้า(ฟ้า)ผู้ถือพานกำพฤกษ์

       

          ป้าจุ๋มช่วยโยมแม่ประคองพานผ้าไตร                 ถ่ายภาพหมู่กับท่านกตปุญโญ 

  

        ท่านกตปุญโญกับโยมพ่อ-โยมแม่ค่ะ

 ขอแสดงความยินดีกับพ่อลำดวน-แม่เอียดด้วยค่ะ

          


ขอคุณพระได้โปรดคุ้มครองประเทศไทย

166 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 11 เมษายน 2010 เวลา 4:09 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4244

                                                            พระพุทธรัตนประทีป

“ขออำนาจแห่งพระพุทธรัตนประทีปได้โปรดคุ้มครองคนไทยและประเทศไทยด้วยเถิดค่ะ” 

 วันนี้นอนไม่หลับคะ…เอเรียกว่าหลับไม่ลงน่าจะถูกกว่า แต่ความจริงก็ได้หลับไปแล้วหนึ่งตื่นอันเนื่องมาจากเพลียและง่วงค่ะ มาตื่นเอาตอนราวตีสองครึ่งเพราะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์วิ่งที่ถนนใกล้ๆบ้าน เสียงบิดกันอย่างบ้าคลั่ง วิ่งไปไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าจนป่านนี้ก็ยังวิ่งอยู่ค่ะนี่มันเกิดอะไรผิดปกติขึ้นหรือเปล่าหนอ??? ขอภาวนาอย่าได้เกิดเลย…

     ช่วงนี้ก็ทำอะไรไม่ค่อยถูกเพราะใจกังวลและว้าวุ่น  จากการที่ได้ติดตามข่าวความเป็นไปของบ้านเมือง ก็มานั่งตรึกตรองดูว่าอะไรหนอเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งในยุคนี้ถึงได้เอาแต่ใจตัวเอง จะเอาอะไรก็จะเอาให้ได้  เหี้ยมโหด เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว จ้วงจาบหยาบคาย จะเอาอะไรก็ต้องเอาให้ได้เดี๋ยวนั้น ไม่คิดถึงคนอื่นเลย ทำจนดูเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง คำว่า  “ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์” เอาไปเก็บไว้ที่ไหนกัน อย่างนี้แล้วต่อไปประเทศเราจะเป็นอย่างไรและคนไทยเราจะอยู่รวมกันได้อย่างไร???   ความสงบสุขอยู่ที่ไหน????    ความเป็นคนไทยที่เคยรักสงบ มีความรักความเอื้ออารีย์ต่อกันหายไปไหนหมด???

     มานั่งวิเคราะห์ดูสาเหตุว่าทำไมคนกลุ่มหนึ่งถึงได้เป็นอย่างนี้ สาเหตุแรกคงต้องโทษ

1.พ่อ-แม่ที่รักลูกมากเกินไป รักสุดหัวใจ อยากได้อะไรก็ทูลหัวหามาให้ และให้ได้ดั่งใจ สิ่งเหล่านี้จะมาหล่อหลอมให้ลูกมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง  เห็นแก่ตัว จะเอาอะไรก็ต้องได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ไม่เคยนึกถึงคนอื่นเลย

2.โทษสังคมสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ความเจริญทางวัตถุจนลืมรักษาความเจริญทางจิตใจที่คนไทยมีอยู่แล้วก็ค่อยหายไป ที่จริงแล้วที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ได้เพราะยังมีคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังมีและรักษาสิ่งดีๆเหล่านี้ไว้   คือคนไทยส่วนใหญ่ยังทำอะไรก็ยังระลึกถึง “ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์”ถึงทำให้ประเทศเราสงบสุขอยู่มากันได้ทุกวันนี้

     เชื่อเถอะค่ะไม่มีที่ไหนที่น่าอยู่เท่าบ้านเราอีกแล้ว ถ้าเราเผาบ้านเราแล้วเราจะอยู่อย่างไร???

ขอภาวนาและอธิษฐานจิตให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีอย่ามีเหตุร้ายอันใดเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองเลย คนไทยด้วยกันทั้งนั้น

 ท้ายนี้ขอมอบดอกดาหลาสวยๆเพื่อความชื่นใจแด่พี่น้องชาวลานฯทุกท่านค่ะ(จากสวนหลังบ้านที่ตูมวันก่อนแต่วันนี้บานแล้วค่ะ) 

               

 

    


รดน้ำกลางแดดเปรี้ยง!!!

2656 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 9 เมษายน 2010 เวลา 19:01 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 17686

ดอกมะเฟืองและดอกมะแว้งไม่เห็นเป็นอะไร(ให้น้ำกลางวันเหมือนกัน)

(ยอดชมพู่มะเหมี่ยวเมื่อถูกพ่นน้ำให้ช่วงกลางวันแดดเปรี้ยงค่ะ)

ในภาวะที่อากาศร้อนมากและแห้งอย่างนี้   การให้น้ำต้นไม้น่าจะมีความสำคัญมาก  ช่วงนี้อยู่บ้านทุกวันเพราะไม่อยากออกไปไหนด้วยมีความร้อนหลายอย่างมาประทะกัน…เมื่ออยู่บ้านตอนกลางวันก็มองไปรอบๆบ้าน…เห็นต้นไม้แล้วก็เกิดความสงสาร หลายต้นยืนเหี่ยวเห็นๆอยู่ก็อดไม่ได้เปิดสายยางฉีดพ่นไปบนต้นเลย คิดว่าเพื่อช่วยคลายร้อนให้ต้นไม้ ความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีเรื่องการให้น้ำต้นไม้โยนทิ้งหมดค่ะ พอทำได้ 4-5 วัน บางต้นก็ไม่มีปัญหา ดันมามีปัญหากับต้นที่หวานใจเขาประคับประคองมาตลอด คือต้นชมพูมะเหมี่ยวค่ะ ตอนแรกใบก็ดูมันสวย แต่พอเจอน้ำพ่นบนใบช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ ผลก็เป็นอย่างนี้ สามีถามว่าใครเอาอะไรมาพ่นต้นไม้เขาจึงเป็นแบบนี้ ก็เปล่าน๊ะ พ่นน้ำเฉยๆช่วงเที่ยง บ่ายๆเท่านั้นเอง  ก็ยังงงเป็นไก่ตาแตกว่าเป็นอะไร จนกระทั่งคุณLogosลงบันทึก”รดน้ำกลางแดดเปรี้ยง อาจเกิดไฟไหม้ได้” ก็เลยรีบเข้าไปอ่านและค้นเพิ่มเติมอีกก็ได้ความตรงกัน บางบทความบอกว่าในป่าบางแห่งหยดน้ำค้างที่ยังคงรูปเป็นหยดน้ำ เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมากลายเป็นเล็นส์เล็กๆรวมแสงกลายเป็นความร้อน หลายๆหยดเข้าเกิดไฟไหม้ป่าได้ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าน้ำจะเป็นจุดกำเนิดไฟได้

และยังพบต่อไปว่าสำหรับพืชแต่ละชนิดจะต่างกัน พืชบางชนิดอาจไม่เป็นไร  แต่ถ้าพืชชนิดใดที่ใบมีwaxเคลือบก็จะมีปัญหามากกว่า ก็โป๊ะเชะเลย ว่าเจ้าต้นชมพู่มะเหมี่ยวก็สังเวยความโง่ของป้าจุ๋มไปเสียแล้ว ผลก็อย่างที่เห็นค่ะ   (แต่ก่อนๆคนเรายังโง่   แต่เดี๋ยวนี้ก็ยังโง่อยู่…อิอิ) แต่หวังว่าคงไม่ตายนะคะ  (เป็นมา 2-3 ครั้งแล้วแต่ไม่เอะใจค่ะ)  ถือว่าเป็นบทเรียนและจะจำไว้ว่าจะไม่รดน้ำต้นไม้กลางแดดเปรี้ยงอีกแล้ว และไม่ต้องสงสารต้นไม้ด้วย เพราะเขามีระบบปิดเปิดปากใบโดยธรรมชาติอยู่แล้ว หากรักต้นไม้ก็ให้ตื่นมารดน้ำตอนเช้าๆแทนจ้า…


ท้องฟ้าสวย

1398 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 4 มีนาคม 2010 เวลา 23:58 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 8647

ท้องฟ้าสวยใกล้พระอาทิตย์ตกดินที่ขลุง จันทบุรี วันมาฆะบูชา

ท้องฟ้าสวยย่ำค่ำที่ร้านRimpha Larin ชลบุรี

ท้องฟ้าสวยย่ำรุ่งที่สวนนงนุช

สืบเนื่องมาจากท้องฟ้าสวยของคุณบางทราย(ที่สวยจริงๆค่ะ) ทำให้ป้าจุ๋มอยากนำภาพท้องฟ้าสวยมาอวดบ้าง(เกือบสวย…อิอิ) ภาพเหล่านี้เพิ่งถ่ายมาในช่วงวันมาฆะบูชาค่ะ ในรายการพาลูกรักตระเวณกินอาหารทะเลให้หายอยากค่ะ…ความจริงของจริงสวยซึ้งมากแต่ถ่ายมาอวดได้สวยแค่นี้เองค่ะ


เมื่อลูกรักหนีหนาวกลับบ้าน(ตอนที่2)

139 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 2 มีนาคม 2010 เวลา 17:26 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2897

เมื่อรู้ข่าวแน่แล้วว่าลูกรักจะกลับมาแม่ก็เตรียมตัวเตรียมบ้านเพื่อให้ดูดี(เพราะบ้านหลังใหม่เขาเป็นผู้ออกแบบให้ และยังไม่เห็นบ้านตอนสร้างเสร็จแล้วค่ะ) และยังเตรียมต้นไม่รอบๆบ้านพยายามเร่งบำรุงและจัดการใส่ปุ๋ยเพื่อให้เขาได้ออกดอกช่วงที่ลูกกลับมา ดูเหมือนต้นไม้จะเล่นด้วย ก็พยายามมาออกดอกตอนนี้ให้ได้สดชื่นกันค่ะ ดอกจำปีสีนวลข้างบ้านต้นโตตั้งนานแล้วไม่ยอมออกดอก จนหวานใจบ่น แต่ตอนนี้ออกดอกเต็มต้นเลยค่ะ และที่แปลกค่ะคือมีดอกเข้าพรรษาปกติจะออกดอกช่วงก่อนเข้าพรรษา แต่นี่จนออกพรรษาจะเข้าอีกรอบแล้วยังออกดอกอยู่เลยค่ะ แปลกแต่จริงค่ะ(ภาพที่อยู่ใต้ดอกบัวค่ะ)  ส่วนแม่เอหยีก็รู้ว่าคุณกุ้งรักหมาในวันที่คุณกุ้งจะมาถึงก็จับเจ้า 3 ตัวมาอาบน้ำแชมพู เป่าผม หวีผมเสียหอม ดูน้องหมาๆก็ให้ความร่วมมือดีเช่นกัน ยืนให้เกาให้ถูอย่างดีแล้วเอหยีสั่งห้ามไปซนๆด้วยเดี๋ยวจะมอแม(หมายถึงมอมแมม…แต่เอหยีพูดมอแมค่ะ…)

ภาพข้างบนคือดอกจำปีที่ต้องถูกบ่นจึงออกดอกแต่ก็ออกเต็มต้นเลยค่ะกลิ่นหอมมากค่ะ ยังมีดอกแก่นตะวันที่อ.แป๋วให้นานแล้วก็หลบอยู่นานตอนแรกคิดว่าตายแล้ว แต่แล้วก็มาขอออกดอกด้วย ดอกเขาน่ารักมากค่ะ มีดอกช้องแมวนี่เป็นสมุนไพรค่ะ(ผลของเขานะคะเมื่อแก่หรือสุกนำมาเชื่อมกับน้ำตาลกรวดเป็นยากัดเสมหะในลำคออย่างดีค่ะ) และอีกชนิดคือดอกกาหลงสามสี ดอกเขาเปลี่ยนสีจากแรกแย้มเป็นสีขาว แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตอนแก่เป็นสีม่วงค่ะ มองไปทั้งต้นรวมๆแล้วมี3สีพร้อมๆกัน  คิดว่าหลายท่านคงมีปลูกไว้บ้างแล้ว


เมื่อลูกรักหนีหนาวกลับมาบ้าน(ตอนที่1)

111 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 2 มีนาคม 2010 เวลา 10:28 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2710

เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้ไปเยี่ยมลูกรักพร้อมทั้งเข้าร่วมในพิธีรับปริญญาโอกาสที่เรียนจบด้วย ก็ชื่นใจกันทั้งบ้านค่ะ ช่วงนี้อากาศที่นั่นหนาวมากแม่ก็เลยยุส่งเลยว่ากลับมาบ้านเราดีกว่า ทุกคนเห็นดีด้วยก็เลยมีวันนี้ค่ะคือลูกได้กลับมาเยี่ยมบ้านตามที่แม่หวังไว้ค่ะ

 

 


“พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว”

132 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 13 กุมภาพันธ 2010 เวลา 19:00 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3739

“พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ตั้งอยู่ในหมู่บ้านทางแดง ต.แค้มป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เริ่มก่อสร้างราวปี 2547 ค่ะ ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีภูเขาสูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโดยรอบ ที่มาของคำว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีว่าชาวบ้านทางแดงมักเห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้าและลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา ถือว่าเป็นสถานที่ที่เป็นมงคล มีความศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาก็เรียกตามๆกันว่า “ผาซ่อนแก้ว”  พุทธสถานนี้ตั้งอยู่ในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงได้ชื่อว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว”ค่ะ

พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้วนี้ เป็นที่วิเวกสงบโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งความเบิกบานของธรรมชาติจะเป็นแรงบันดาลใจให้เกดสมาธิ เรียกว่าความสุขทำให้เกิดสมาธิ สมาธิจะทำให้เกิดปัญญา สถานที่นี้จึงเหมาะต่อการปฏิบัติธรรม  หลักการปฏิบัติธรรมที่นี่จะเน้นความเรียบง่ายเป็นหลักเพื่อให้รู้จัก”ฐานที่ตั้งของสติ” ตั้งแต่กาย ซึ่งเรียกว่ารูปธรรม และนามธรรม ตั้งแต่ อารมณ์ จิตใจ ซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลา ดังนั้นคำสอนหลักของการปฏิบัตฺธรรมที่พุทธธรรมสถานฯนี้เน้นเพื่อให้รู้จักหลักของการเจริญสติปัฏฐาน 4 เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

สถานที่สำคัญมี 1. เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชธรรมนฤมิตร วัตถุประสงค์การสร้างเจดีย์นี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี มีพระพุทธรัตนประทีปที่งดงามมากประดิษฐานอยู่ค่ะ 2. ศาลาปฏิบัติธรรม(ศาลาพระหยกเขียว)หรือพระพุทธเลิศรัตนโชติมณี เป็นพระพุทธรูปหยกปางมารวิชัย เป็นศิลปสมัยเชียงแสนที่งดงามมาก 3.พระพุทธรัตนสัมฤทธิ์ผล หรือพระหยกขาว เป็นพระพุทธรูปปางขัดสมาธิเพชร สร้างตามรูปแบบคันธาระ งดงามมากอีกเช่นกัน 4.ลานพระสิวลี 5. ลานโพธิ์ มีต้นศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยาประเทศอินเดีย

ยังมีธรรมชาติที่งดงามอีกมากที่ไม่สามรถบรรยายได้หมดค่ะ การที่ป้าจุ๋มมีโอกาศดีมาปฏิบัตฺธรรมในครั้งนี้นับเป็นบุญค่ะ ในช่วงสนทนาธรรมกับพระอาจารย์อำนาจ โอภาสี เป็นช่วงที่มีคุณค่ามาก ท่านเป็นศิลปินที่ยิ่งกว่าอัจฉริยะ สามารถนำศิลปมาประยุกต์กับศาสนาได้อย่างแยบยล ท่านมีวิธีอธิบายธรรมะที่ใช้ได้ตรงกับชีวิตจริง  บางอย่างตรงกับชีวิตจริงของตัวเอง อย่างคำว่า “สัจจอธิษฐาน” ในสิ่งที่ชอบธรรม  หากจะอธิษฐานต้องมีสัจจะที่จะทำในสิ่งที่ได้อฐิษฐานไว้ให้สำเร็จและอย่าท้อแท้ อย่าละความพยายามก็จะสำเร็จ มีหลายอย่างในชีวิตที่ผ่านมาได้ปฏิบัติธรรมะโดยไม่รู้ตัว ทำไปตามธรรมชาติที่คิดว่าดี มีปัญหาก็อดทนหาวิธีแก้ปัญหาด้วยเหตุผลและทางออกที่ถูกต้อง  มีหลายอย่างที่สำคัญก็สำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้  มานั่งนึกดูสิ่งที่ผ่านมานั้นได้บทเรียนจากคนใกล้ตัวที่สุดคือพ่อ-แม่  ปู่-ย่า  ตา-ยาย โชคดีตอนเด็กๆได้ใกล้ชิดได้เห็นตัวอย่างที่ดีจากการปฏิบัติจริงของท่าน พอจำได้บ้างพอเราเจอปัญหาก็นำมาประยุกต์ใช้    อยากให้ทางการศึกษาตั้งแต่ประถมจนถึงระดับอุดมศึกษาได้บรรจุหลักสูตรวิชาธรรมะศึกษาเข้าไปด้วย ให้เด็กได้ซึมซับตั้งแต่เด็กจนโต ปัญหาในบ้านเมืองคงจะไม่มีมากมายเช่นทุกวันนี้

  ธรรมะที่พระอาจารย์อำนาจท่านสอนนั้นตกผลึกจากชีวิตจริงทั้งหมด ท่านจึงสอนได้ชัดเจน แม่นยำและมั่นใจ ได้สติและปัญญาเกิดขึ้นหลายอย่าง นับเป็นบุญที่ได้ไปปฏิบัตฺธรรมที่ผาซ่อนแก้วในครั้งนี้ ขอกราบพระอาจารย์อำนาจ โอภาสีด้วยความเคารพค่ะ และขอกราบพระอาจารย์อุทัย(พระครูสุวิมลกาญจนวัฒน์)ด้วยความเคารพเช่นกันค่ะ สุดท้ายขอบคุณนพ.สุธี ตระกูลฮั่น และขอขอบคุณเทศบาลนครพิษณุโลก ที่ช่วยให้ป้าจุ๋มได้ไปปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ค่ะ ขอให้บุญกุศลที่ได้จากการไปปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ได้ส่งผลให้ทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตทุกท่านค่ะ


ห่วงใยสุขภาวะคนไทย(ตอน1.สารพิษตกค้างในผัก ผลไม้นำเข้า)

119 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 22 ธันวาคม 2009 เวลา 11:44 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3236

-ระยะหลังนี้คนไทยให้ความสนใจด้านสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดี เพราะอย่างไรเสียการดูแลตัวเองไม่ให้มีสุขภาพดีไม่ให้เจ็บป่วยนั้นย่อมดีกว่าการรักษาแน่นอนค่ะ แต่คนไทยเรานั้นบางครั้งเมื่ิอฮิตอะไรขึ้นมาแล้วมักจะทำแบบว่าสุดโต่งเลยทีเดียว จนบางครั้งเรียกว่าขาดสติไปเลยก็ได้ อย่างช่วงที่ฮิตกินผักเพื่อสุขภาพก็จะกินจำเจซ้ำซากจนน่าเป็นห่วงว่าจะมีการขาดอาหารในภายหลัง แต่ถ้ารอให้มีการแสดงอาการขาดอาหารก็เกือบสายไปเสียแล้ว จะอย่างไรก็ขอเตือนสติพี่น้องสักนิดค่ะว่าอย่าลืมหลักโภชนาการว่าในหนึ่งวันนั้นร่างกายเราต้องการอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเท่าใดด้วยเช่นคาร์โบไฮเดรท โปรตีน ไขมัน วิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ในอาหารแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันไปบ้างในเรื่องคุณค่า ดังนั้นถ้าเอาหลักกว้างๆคือพยายามหมุนเวียนกินอาหารและพืชผักผลไม้ให้หลากหลาย อย่าจำเจ ชอบอะไรก็กินแต่อย่างนั้นอาจมีอันตรายได้

-ที่กล่าวว่ามีอันตรายก็เพราะมีข้อมูลอยู่ในมือเป็นข้อมูลงานวิจัยฯ จึงน่าเชื่อถือและนำมาเป็นข้อเตือนใจได้ค่ะ เรื่องมีว่าภายหลังวันที่ 1 ต.ค.2546 ไทยเราได้ทำ FTA ไทย-จีน  ประเทศไทยก็มีการนำเข้า ผัก ผลไม้ในปริมาณสูงมากโดยเฉพาะจากประเทศจีน ถ้าดูตัวเลขแล้วน่าตกใจ ขอยกตัวอย่างให้ดูสัก 2 ปี แล้วช่วยกันคิดสักหน่อยค่ะ ปี 2546 ไทยนำเข้าผักจากจีน ปริมาณ 85,087.12 ตัน คิดเป็นมูลค่า 777.12 ล้านบาท  และในปี 2550 นำเข้าในปริมาณ 147,755.29 ตัน มูลค่า 2,705.02 ล้านบาท นำเข้าเพิ่มถึง 348.08 เปอร์เซ็นต์ ผักที่นำเข้ามามากได้แก่ แครอท เทอร์นิปสด พืชตระกูลกะหล่ำ กระเทียม ถั่วลันเตา พืชตระกูลถั่ว เป็นต้น ส่วนผลไม้สดที่มีการนำเข้ามากได้แก่ ท้อ องุ่น สาลี่ แอปเปิ้ล พลับ ทับทิม ลิ้นจี่ โดยมีการนำเข้าตลอดทั้งปีตามฤดูกาลของผลไม้(ที่มาหนงสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์ 9 พ.ค. 2551)  ในขณะเดียวกันกลุ่มงานวิจัยสารพิษตกค้าง สำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตรกรมวิชาการเกษตรก็ได้ดำเนินการไปสุ่มเก็บตัวอย่างพืชผักและผลไม้ที่นำเข้า ในปี 2551 เพื่อมาวิเคราะห์สารพิษตกค้าง โดยตรวจวิเคราะห์ผักและผลไม้ทั้งหมด 31 ชนิด มีกระเทียม กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีเจดีย์ กะหล่ำปลีม่วง คะน้า แครอท เซอเลอรี่ ถั่วปากอ้า ถั่วลันเตา ถั่วลันเตาหวาน ทับทิม บร๊อคโครี่ ปวยเล้ง ผักกาดกวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักกาดฮ่องเต้ พริกสด พลับ พุทธาจีน ยอดถั่วลันเตา รากบัว ส้ม สลัดแก้ว สลัดคอส สาลี่ หอมแดง หอมหัวใหญ่ องุ่น แอปเปิ้ล ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศจีนโดยไปสุ่มเก็บที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ด่านลาดกระบัง ด่านสุวรรณภูมิ และด่านเชียงแสน เก็บทั้งหมด 1,165 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้างเป็นจำนวน 422 ตัวอย่าง คิดเป็น 36.22 เปอร์เซ็นต์ และมีมากเกินค่Codex MRLs2 ตัวอย่าง(ค่าCodex MRLs คือค่ามาตรฐานสากลที่กำหนดร่วมกันว่าสารพิษจะพบเท่านี้หรือสูงกว่านี้ในอาหารไม่ได้ถือว่าเป็นอันตรายห้ามจำหน่ายและไม่ควรบริโภค)

-จะขอนำเสนอรายละเอียดข้อมูลที่กลุ่มวิจัยสารพิษตกค้าง ได้วิเคราะห์ไว้ดังนี้

ผลไม้ ที่ตรวจมี 7 ชนิด จำนวน 499 ตัวอย่าง พบสารพิษ  207 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ  41.5 ปริมาณที่พบไม่เกินค่าCodex MRLs   ตัวอย่างที่พบสารพิษตกค้างมากเมื่อคิดจากตัวอย่างที่พบคือ พุทธาจีน 83.3%  ส้ม 80.6% องุ่น 57.4 % สาลี่ 48.81% ทับทิม 45.8%และแอปเปิ้ล 27.2%

ผัก นำเข้าที่สุ่มตรวจมา  19 ชนิด จำนวน 641 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้าง 213 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 33.2 ของตัวอย่าง ตัวอย่างที่พบสารพิษตกค้างมากเมื่อคิดจากตัวอย่างที่พบมีดังนี้ ปวยเล้ง 74.1%  เซอเลอรี่ 71.0% สลัดคอส 63.6%ถั่วลันเตาหวาน 47.4% และถั่วลันเตา 47.1%

ส่วนตัวอย่างอื่นๆอีก 5 ชนิด ได้แก่ รากบัว กระเทียม ถั่วปากอ้า หอมแดง หอมใหญ่อีก 25 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้าง 2 ตัวอย่าง หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของตัวอย่าง

ชนิดของสารพิษที่พบ ได้แก่ cypermethrin 28.31%   chlorpyrifos 22.79%   cyhalothrin 9.74% omethoate 3.86%  และcabendazim 3.68%

อย่างไรก็ตามสารพิษตกค้างที่พบถึงแม้ในหลายตัวอย่างที่ตรวจพบว่ามีค่าไม่เกินตามที่Codex MRLs ได้กำหนดไว้ก็ตาม แต่หากเราบริโภคทุกวันหรือบ่อยๆอะไรจะเกิดขึ้น สารเหล่านี้เมื่อเข้าไปในร่างกายก็จะมีการสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกายแล้วแต่โครงสร้างของสารพิษเหล่านั้นว่าจะเหมาะไปเกาะอยู่ที่ใดของเซลล์ในร่างกายเรา…

ถึงเวลาที่เรามาย้อนดูว่าคนไทยเราควรระวังอะไรบ้างอย่าเอาแต่ง่าย สะดวก ไหนรัฐบาลคนที่คิดว่าเก่งเคยคุยโม้ว่าจะทำให้ประเทศไทยเป็นครัวโลกให้ได้  แหมคุย From farm to table …ถลุงงบประมาณแผ่นดินไปไม่รู้เท่าไหร่ ในที่สุดก็มาทำFTAเสร็จก็นำเข้าผัก ผลไม้เป็นการใหญ่  มันพูดอย่างทำอย่างตลอด แทนที่จะเอางบมาสนับสนุนให้เกษตรกรไทยตาดำๆได้ลืมตาอ้าปากบ้าง และที่สำคัญคือไม่ต้องนำเข้าผักผลไม้อย่างที่เห็นตัวเลขนำเข้า นับวันจะมากขึ้นทุกที ที่สำคัญผักผลไม้ที่นำเข้าและบริโภคกันอย่างเอร็ดอร่อยนั้นเป็นการ…ผ่อนส่งไหม  ตัวอย่างเช่นพุทธาจีนมีสรรพคุณดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่หากมีสารพิษมากมายจะยังคงดีและสมควรบริโภคไหม?   ปัจจุบันสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนไทยคือมะเร็งค่ะ  ลองจัดงบวิจัยให้ตามดูว่าคนไข้มะเร็งเหล่านั้นบริโภคอะไร ใช้ชีวิตอย่างไร

ตั้งใจจะนำข้อมูลนี้เสนอมานานแล้วแต่ก็ไม่ได้ฤกษ์เสียที จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วน้องเบิร์ดมาออกงานได้เจาะเลือดคนกรุงเทพฯดังที่ลงไว้ในblog น้ำฟ้าปรายดาว ก็เลยคิดว่ามีเหตุผลที่จะต้องนำข้อมูลมาเตือนใจพี่น้องให้ระมัดระวังด้วยค่ะ ไม่ต้องการให้ข้อมูลที่นำเสนอทำให้คนตื่นตระหนก  แต่ด้วยความห่วงใยก็ขอให้ตาสว่างขึ้นมาบ้างเท่านั้นค่ะ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพพลานามัยดีค่ะ  อโรคยา ปรมาลาภา เป็นสัจจธรรมอยู่คู่โลกตลอดกาลค่ะ


ดีใจที่มีวันนี้…

327 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 8 กุมภาพันธ 2009 เวลา 0:13 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 8363

ดีใจที่มีวันนี้…ไม่ใช่วันนี้ของป้าจุ๋มหรอกจ้า…เพราะป้าจุ๋มมีวันนี้มา 34 ปีแล้วค่ะ  แต่เป็นดีใจที่มีวันนี้ของท่านครูบาที่จะได้เป็นพ่อตาเสียที หลายท่านอาจจะงงๆ

ขอเล่าความเดิมว่าที่สวนป่าเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้วมีสาวนกยูงตัวหนึ่งมาจากไหนไม่ทราบได้พลัดหลงเข้ามาพึ่งใบบุญท่านครูบา ท่านก็เมตตารับเป็นบุตรสาวบุญธรรม เขาเชื่องมากกลางวันก็จะเดินเข้ามาในบ้านเลย ท่านครูบาก็สังเกตเห็นว่าลูกสาวบุญธรรมดูจะเหงาๆเศร้าๆ  ก็เลยปรารภกับพี่น้องเฮฮาฯว่าอยากให้ลูกสาวมีคู่ตุนาหงันเผื่อจะมีความสุขและหายเหงาไปบ้าง

ต่อมาน้องเบิร์ดก็แจ้งท่านครูบาว่าคุณน้าของน้องเบิร์ดยินดีจะหาลูกเขยให้  ในที่สุดก็สมหวัง ได้ว่าที่ลูกเขยตามที่ได้เคยปรารภไว้ หลังจากนั้นก็มีการวางแผนการขนย้ายเจ้าบ่าว ตามที่ได้เล่าบ้างแล้วในลานเจาะเเจ๊ะ เริ่มจาก 7โมงเช้าของวันที่ 6 คุณLogos ได้ไปรับเจ้าบ่าวมาจากบ้านแพ้ว สมุทรสาคร มาถึงบ้านป้าจุ๋มประมาณ 11 โมงเช้าที่บ้านป้าจุ๋มเมืองนนท์ ก็ให้พักและดื่มน้ำท่า  แล้วเปลี่ยนมาขึ้นรถป้าจุ๋ม ออกเดินทางประมาณเที่ยงกว่าๆแล้วพามาแวะคารวะอ.Lin Hui และพักประมาณ45 นาที ตอนที่พักที่บ้านอ.Lin Hui นั้นได้ยกเจ้าบ่าวมารับอากาศบริสุทธิ์นอกรถ(ที่สนามหญ้าใต้ต้นไม้)  ส่วนพวกเราก็ไปนั่งทานน้ำและผลไม้ในบ้าน

แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นทั้งเจ้าบ่าวและผู้ขนย้ายเจ้าบ่าว เพราะเจ้าปลาทองสุนัขแสนรักของอ.Lin Hui ได้มุดหัวเข้าไปทักทายเจ้าบ่าวในกล่อง  เคราะห์ดีที่คุณLogosออกมาเห็นทันเวลา  แต่ก็ทำเอาเจ้าบ่าวตกใจทีเดียว   ป้าจุ๋มแอบถ่ายภาพไว้ก็คงตกใจพอสมควรทีเดียว เพราะภาพที่ได้ตาเหลือกเล็กน้อย (คงตกใจ)ตามภาพข้างล่าง และหลังจากนั้นก็ลา อ.Lin Hui ออกเดินทางถึงสวนป่าโดยสวัสดิภาพ   พาเจ้าบ่าวเข้าเรือนหอ

ตื่นเช้ามาป้าจุ๋มก็ตื่นไปดูแต่เช้าปรากฎว่าเห็นสาวเจ้ามาแนะนำตัวแล้ว  เห็นตอนแรกต๊กกะใจคิดว่าเจ้าบ่าวออกมาได้อย่างไร แต่พอเข้าใกล้กลายเป็นว่าสาวเจ้ามาแนะนำตัวเสียแล้ว ก็ดีใจว่าถึงแม้จะคลุมถุงชนแต่ดูว่าเขามีทีท่าพอใจกัน  ก็โล่งใจไป  ภาพที่ 1 ระหว่างขนย้าย (ภาพนี้ถ่ายที่บ้านป้าจุ๋ม)หล่อไม่เบาเลยค่ะ

เมื่อเช้าที่รีบตื่นไปดูพบว่ามีเพื่อนๆสัตว์เลี้ยงแสนรักคือเป็ดเทศและไก่ต๊อกมารอแสดงความยินดี

ภาพข้างล่างที่เห็นคือเจ้าสาวปืนมาอยู่บนหลังคา ส่วนเจ้าบ่าวนี่เดินงุ่นงานอยู่ในเรือนหอออกมาหาสาวไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียง ก๊อกๆๆ เฮอ!!!เพิ่งได้ยินเสียงเจ้าบ่าว

ข้างบนเป็นภาพเจ้าสาวมายืนบนหลังคา เป็นผลทำให้เจ้าบ่าววิ่งพล่านในเรือนหอ…เพราะยังออกมาหาสาวเจ้าไม่ได้

ภาพที่เจ้าบ่าวงุ่นง่านที่ออกมาหาเจ้าสาวไม่ได้  ยังหรอกเดี๋ยวผิดผีจ้า…ใจเย็นๆๆๆ

แต่ท่านครูบาบอกว่าพรุ่งนี้แหละหนาจะเป็นวันวิวาห์แน่เอย…โปรดรอฟังรายงานต่อจ้า…



Main: 0.22526979446411 sec
Sidebar: 0.84420299530029 sec