ณ วันนี้เมื่อปีที่แล้ว

125 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 23 เมษายน 2010 เวลา 13:34 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2458

ช่วงเวลานี้เมื่อปีที่แล้ว ป้าจุ๋มได้มาร่วมเสวนากันทีมนักศึกษาแพทย์จากรพ.ศูนย์แพทย์ชลบุรี ซึ่งนำทีมโดยพญ.สุชาดา พญ.ไข่มุกข์ และอีกหลายท่าน ทำให้การมาเรียนรู้ร่วมกันครั้งนั้นมีความหมาย สนุกและน่าจดจำ

   ใครเป็นใครดูเอาเองค่ะหล่อๆสวยๆน่ารักทั้งน้าน…

                ยังไม่ได้ตรวจหูอีกเลยค่ะนับจากวันนั้น…ปีนี้อดตรวจ คงต้องรอปีต่อไป…

                   (คุณหมอตรวจเก่งค่ะ ทุกคนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขค่ะ)

ปีนี้ป้าจุ๋มติดภาระกิจสำคัญในวันที่25เมย.(เพื่อนๆวัย 60 ยังแจ๋วนัดสังสรรค์กัน บางคนไม่เคยพบหน้ากันเลยตั้งแต่เรียนจบ ก็แยกย้ายกันไปทำงานและมีครอบครัวบ้างไม่มีบ้าง ถึงปีนี้ก็ราว43 ปีค่ะปีนี้  ก็เกรงว่าจะจำหน้าค่าตากันไม่ได้  นัยว่ามีคนรวบรวมภาพสมัยเอาะๆเอามาทำVDOฉายอวดกันด้วย แถมบอกว่าจะมีรางวัลประกวดคนที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดด้วย รศ.ดร.สุธาทิพย์ ขนาดเป็นเพื่อนรักยังอุบไม่บอกป้าจุ๋มเพิ่งแพลมมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าแอบไปfitness มาหลายเดือนแล้ว ดูดู๋เพื่อนรักทำอย่างนี้ได้อย่างไร แถมมาอวดด้วยว่าตอนนี้ไม่มีพุงเลย สงสัยป้าจุ๋มจะแพ้เพื่อนก็คราวนี้แหละ…อิอิ)

ไม่เป็นไรไม่ได้มาสวนป่าคราวนี้ก็ฝากของมาก็ได้ จำได้ว่าปีที่แล้วป้าจุ๋มทำอาหารมังสะวิรัติให้พวกเราได้ชิมกัน ปีนี้ตัวไม่มาก็ขอฝากอาหารมังสะวิรัติมา 2 รายการหวังว่าคงจะชอบกันค่ะ (คนรักกันต้องมอบของดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพให้กันค่ะ)

            เต้าหู้น้ำแดงค่ะ                                               ลาบเต้าหู้ใส่เห็ดหูหนูแซ๊บหลายจ้า

สำหรับของคาวก็ขอฝากแค่ 2 อย่างนี้คงจะพอนะคะ ทำเองได้ง่ายจัง อร่อย มีอาหารครบหมู่…เรียกว่าเพื่อสุขภาพจริงๆค่ะ

อ้อแถมอีกอย่างก็ได้ค่ะ ทั้งเต้าหู้น้ำแดง ทั้งลาบเต้าหู้มีถั่วเหลืองมากแล้ว ดังนั้นเครื่องดื่มก็เปลี่ยนมาเป็นน้ำกาบาข้าวบาร์เลย์ดีไหมคะจะได้มีความหลากหลายค่ะ นัยว่าสารกาบาanti-aging และป้องกันAlzheimer’s disease แถมช่วยให้หลับสบายด้วยค่ะ(ของป้าจุ๋มจะใส่งาคั่วผสมไปด้วยค่ะ เมื่อต้ม-ปั่น-กรองเสร็จพออุ่นๆจะเติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลกรวดให้มีความหวานเล็กน้อยก็พอค่ะ

เมื่อแช่จนงอกแลวระยะนี้เขาจะผลิตสารกาบาออกมาค่ะ       นำมาใส่เครื่องต้มและปั่นในตัว

 แค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มหอมอร่อยบำรุงสุขภาพค่ะ          รักและคิดถึงทุกท่านค่ะ


น้ำใจชาวลานฯ

46 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 19 เมษายน 2010 เวลา 10:08 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3258

เมื่อวันที่ 15-16เม.ย.ที่ผ่านมานี้เป็นวันดีและคนดีในลานฯของเราบวชค่ะ(ดร.เม้ง) พี่น้องชาวลานฯจากทั่วสารทิศก็ตั้งใจจะไปร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน แต่ด้วยความจำเป็นและมีเหตุขัดข้องสำหรับหลายๆท่านที่ได้ตั้งใจไว้ทำให้ไม่สามารถไปได้  พอถึงวันจริงก็มีตัวแทนได้ไปเท่าที่เห็นในภาพที่นำเสนอไปบ้างแล้วค่ะ การไปพร้อมหน้าของพี่น้องชาวลานฯทำให้โยมพ่อโยมแม่รู้สึกอบอุ่นและคงสัมผัสถึงความรักที่เรามีให้กัน วันกลับท่านมาส่งที่รถและท่านได้พูดกับป้าจุ๋มว่าขอขอบคุณและท่านปลื้มใจมากๆที่พี่น้องชาวลานฯมากันได้มากขนาดนี้ ก่อนจากท่านก็ได้มากอดลาตามธรรมเนียมชาวลานฯด้วยความสนิทสนมและด้วยสายตาและสีหน้าเปี่ยมสุขยิ่งค่ะ พลอยทำให้เราสุขใจไปด้วยและรู้สึกว่าเป็นบุญและดีใจจริงๆที่ได้ไปร่วมบุญในครั้งนี้ค่ะ วันนี้ขอนำเสนอภาพเก็บตกเพิ่มเติมค่ะ

ภาพนี้ขอถ่ายเมื่อพวกเราไปถึงใหม่ๆ แม่ลำดวนอิดเอื้อนยังไม่อยากถ่าย บ่นว่ายังไม่ส้วย ยังไม่ส้วย เพราะเตรียมงานมาแต่เช้ายังไม่ได้แต่งตัวส้วยเลย แต่ก็ทนความตื้อพวกเราไม่ได้ ก็เลยได้ภาพที่งดงามนี้มาค่ะ

นี่ก็ยกทีมสีเหลืองสวยอร่ามมาเลยค่ะ ครอบครัวแสนหวานและอบอุ่นด้วยไอรัก น้ำใจนี่ยิ่งกว่ามหาสมุทร และน่ารักเหลือเกินโดยเฉพาะหลานนิวค่ะ ป้าจุ๋มก็ขอให้ครอบครัวท่านมีแต่ความสุขสมหวังอบอวลด้วยไอรักและสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาตลอดไปค่ะ (ได้ข่าวว่าขับรถหลงทางกว่าจะมาถึงก็มืดเลยเพราะมัวเถียงกับGPSค่ะ)

นี่ก็มาครอบครัวเช่นกันค่ะอ.Handy ซึ่งตอนแรกบอกว่าเสียใจคงมาไม่ได้เพราะจะติดธุระอยู่เมืองเหนือแต่แล้วก็มาได้ค่ะ ป้าจุ๋มเลยได้กอดหลานWebได้คลายความคิดถึง ตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดีนะจ๊ะหลานรัก ไว้มีโอกาสป้าจะไปเยี่ยมจ้า ขอให้อ.Handyนำพาครอบครัวไปด้วยดีและจะคิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ทุกอย่างค่ะ

คนกลางคือลุงพูนค่ะ ที่มีเฮที่ไหนถึงตัวไปไม่ได้ก็มีของฝาก วันนี้ลุงพูนก็มาพร้อมสบู่ทำเองมาแจกพวกเราเช่นเคยค่ะ ขอให้คนน้ำใจงามอย่างลุงพูนมีแต่ความสุขนะคะจะคิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมประสงค์ในทุกสิ่งค่ะ

ดูหน้าก็รู้ว่าหนุ่มบุญหนักคนนี้ชื่อโสทร กัดฟันมุ่งมั่นว่าต้องทำให้ได้เพื่อนรักบวชทั้งที บอกว่าเคยแบกปุ๋ยหนักกระสอบละ 50 กิโลเป็นประจำ แต๋โถพ่อหนุ่มน้อยจ๋า…ท่านนาคหนักแค่ 78 กิโลกรัมเท่านั้นแถมยังเดินช้าๆอีก บุญนี้หนักจริงๆ ได้ข่าวว่าได้รับผลบุญแบบเต็มๆไปแล้วและรับแบบตรงเลย(บอกว่าระบมทั้งตัวเลยครับ)ก็เล่นรับบุญหนักกว่าใครๆก็เป็นอย่างนี้แหละ

ไม่เท่านั้นนะคะพ่อหนุ่มใจงามคนนี้อาสาบริการรับ-ส่งน้องเบิร์ดที่บินลัดฟ้ามาจากเชียงราย(นี่ก็อีกคนspiritแรงมั๊กๆๆค่ะ)และพาไปกินของดีเมืองตรัง แถมยังมีน้ำใจห่อมาฝากพวกเราได้อร่อยกันทั่วหน้าจ้า ขอผลบุญนี้ส่งผลให้โสทรคนดีคนนี้จงประสพแต่ความสุขสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนานะจ๊ะ

หมูย่างที่อร่อยที่สุดของเมืองตรัง-ปลาหมึกย่างและข้าวยำปักษ์ใต้ค่ะ (นำภาพมาให้ดูเฉยๆไม่ต้องการให้ใครอิจฉาค่ะ)

ทางซ้ายมือสุดคือน้องเบิร์ดคนเก่งน่ารักและspiritแรงบินลัดฟ้ามาจากเชียงรายค่ะและสาวคนกลางคือหนิงกลิ้งที่น่ารักของชาวลานฯที่หายหน้าหายตาไปนานก็อุตส่าห์บินลัดฟ้ามาจากมหาสารคามค่ะไม่ยอมแพ้น้องเบิร์ด ก็ขอปรบมือให้ทั้งสองคนค่ะ น้องหนิงยังคงความสมบูรณ์ไว้อย่างสม่ำเสมอ น่ารัก น่ากอดเช่นเดิมค่ะ คราวนี้ทิ้งคุณแม่บินเดี่ยว ประมาณว่าจะมาหาคู่หูเอาข้างหน้า..อิอิ

 

 นี่ก็ไม่ใช่ใคร…หลานรักอาคอนคนหนึ่ง ป้าจุ๋มเป็นห่วงถามว่าทำไมต้องเอียงคอแทบหักขนาดนั้น ก็ได้รับคำสารภาพว่าความจริงอยากนั่งชิดอาคอนมากกว่านั้น แต่เป็นห่วงในความปลอดภัยของชีวิต ด้วยเกรงว่าจะมีคนเข้าใจผิด!!! เลยต้องเอียงคอเพื่อให้ใกล้อาคอนอย่างที่เห็นค่ะ  หายหน้าไปนานมัวไปตั้งใจเรียน เทอมนี้ลงไป 10 วิชา  กินมดเสีย 8 ตัวหน้าตาก็เลยเป็นอย่างที่เห็นค่ะ…อิอิ(น่ารักเหมือนเดิมค่ะ)

ภาพนี้แหละที่น้องเบิร์ดสงสัยว่าพระองค์ที่ถือกล้องใหญ่อยู่นั้นทำไมผมดำจัง ดูไปดูมาอ๋อไม่ใช่ใคร???ไม่เฉลยให้ทายกันเองค่ะ

 

 เนื่องจากกลุ่มเรานั่งหลบมุมอยู่หลังโบสถ์ค่ะ ป้าจุ๋มนั่งกอดหลานwebค่ะ

ขอมอบบุญกุศลและความสุขที่พึงได้พึงมีจากการร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้จงมีแด่ชาวลานฯทุกท่านค่ะ

 ะ

สุดท้ายบันทึกนี้ป้าจุ๋มขอฝากดอกเล็บมือนางสวยๆหอมๆน่ารักๆจากสวนในบ้านป้าจุ๋มเอง ช่วงนี้กำลังออกดอกและบานสะพรั่งหอมอบอวลไปทั่วบริเวณบ้านค่ะ


นับว่าบุญบันดาล

344 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 18 เมษายน 2010 เวลา 23:58 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 8249

หลังจากทราบข่าวถึงความตั้งใจที่จะบวชของดร.สมพร ช่วยอารีย์(ดร.เม้ง ของชาวลานฯ) ก็รู้สึกศรัทธามากและตั้งใจไว้เลยว่าถึงอย่างไรก็จะไปร่วมอนุโมทนาบุญกับดร.เม้งให้ได้…เริ่มจากการเตรียมทำดอกไม้ห่อเหรียญเอาไว้ไปหว่านตอนที่ออกจากโบสถ์หลังทำพิธีเสร็จแล้วเป็นพระแล้วค่ะ(ภาคใต้เรียกว่า “กำพฤกษ์” ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่าค่ะ) ดอกไม้ต้องเตรียมเนิ่นๆเพราะทำสวยๆอย่างนี้ทำช้าค่ะ…ต้องใช้เวลา

พอใกล้ถึงวันแผนที่วางกันไว้ถูกยกเลิก!!! เอาละสิ  ถ้าไปรถประจำทางก็คงลำบากมากเพราะเป็นช่วงเทศกาลพอดี  ตั๋วเครื่องบินก็ไม่มี…อดไปแน่เลย จะขับรถไปกันเองก็ดูจะไกลไปหน่อย คงจะขับกันไม่ไหว…จะทำอย่างไรดี…แต่สุดท้ายอาจด้วยบุญบันดาล… คุณLogosตัดสินใจขับรถไปเอง(เพราะมีความตั้งใจมากกว่า) ป้าจุ๋มและน้องจิเลยโชคดีได้ไปสมความตั้งใจ…แต่ได้วางแผนแบ่งระยะขับว่าวันแรกพักที่ชุมพรจะได้ไม่เหนื่อยมากเกินไป เช้าไปร่วมงานปลงผมและทำขวัญนาคทัน  คืนที่สองนอนที่ทุ่งสงจะได้ตื่นเช้าไปร่วมพิธีบวชทัน และขากลับก็มาค้างที่ชุมพรก่อนตียาวเข้ากรุงเทพฯ ในที่สุดทุกอย่างเป็นไปตามแผนอย่างดี  ได้พบได้กอดพี่น้องชาวลานฯหลายท่าน…สุขและสมหวังอีกเช่นเคยค่ะ…พวกเราก็ได้อิ่มบุญกลับบ้านด้วยความปลอดภัย…ขอนำบุญฝากพี่น้องชาวลานฯทุกท่านด้วยค่ะ

ดอกไม้สำหรับกำพฤกษ์

                     ดอกไม้สวยที่ป้าจุ๋มเตรียมไปไว้สำหรับกำพฤกษ์(พระใหม่หว่านโปรดบุญให้ผู้มาร่วมงาน)

เช้าวันที่15เม.ย.ทีมจากกรุงเทพฯไปถึงบ้านดร.เม้งราว 11 โมงเช้าค่ะ

ไปทันเวลาที่น้องจิได้กอดอาเม้งค่ะ(อาเม้งบอกน้องจิไว้ก่อนว่าถ้าอาโกนผมแล้วกอดไม่ได้น๊ะ) เช้านั้นน้องจิเลยเร่งอาคอนให้ขับรถเร็วๆจะได้ทันเวลา อาคอนก็ใจดีจัดให้ค่ะ(เรื่องspeedนั้นอาคอนถนัดอยู่แล้ว)…

ลุงพูนก็มาและนำสบู่ที่ทำเองมาแจกอีกแล้วค่ะน้องโสทรก็เอาหมูย่าง ปลาหมึกย่าง ข้าวยำปักษ์ใต้แสนอร่อยมาฝากค่ะ

น้องเบิร์ดเป็นตัวแทนทีมบก.ไผ2มอบหนังสือค่ะ

      ไผเป็นไผก็ดูเองค่ะ                                         ดร.เม้งและพ่อลำดวน-แม่เอียด

          

                                          เป็นนาคแล้วก็มาถ่ายภาพกับพี่น้องชาวลานฯได้ปลื้มกันค่ะ    

           

พี่น้องชาวลานฯที่น่ารักค่ะ นาคเม้งกับดร.วัฒนา กานบัว นางคว้า(ฟ้า)ผู้ถือพานกำพฤกษ์

       

          ป้าจุ๋มช่วยโยมแม่ประคองพานผ้าไตร                 ถ่ายภาพหมู่กับท่านกตปุญโญ 

  

        ท่านกตปุญโญกับโยมพ่อ-โยมแม่ค่ะ

 ขอแสดงความยินดีกับพ่อลำดวน-แม่เอียดด้วยค่ะ

          


ขอคุณพระได้โปรดคุ้มครองประเทศไทย

166 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 11 เมษายน 2010 เวลา 4:09 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4244

                                                            พระพุทธรัตนประทีป

“ขออำนาจแห่งพระพุทธรัตนประทีปได้โปรดคุ้มครองคนไทยและประเทศไทยด้วยเถิดค่ะ” 

 วันนี้นอนไม่หลับคะ…เอเรียกว่าหลับไม่ลงน่าจะถูกกว่า แต่ความจริงก็ได้หลับไปแล้วหนึ่งตื่นอันเนื่องมาจากเพลียและง่วงค่ะ มาตื่นเอาตอนราวตีสองครึ่งเพราะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์วิ่งที่ถนนใกล้ๆบ้าน เสียงบิดกันอย่างบ้าคลั่ง วิ่งไปไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าจนป่านนี้ก็ยังวิ่งอยู่ค่ะนี่มันเกิดอะไรผิดปกติขึ้นหรือเปล่าหนอ??? ขอภาวนาอย่าได้เกิดเลย…

     ช่วงนี้ก็ทำอะไรไม่ค่อยถูกเพราะใจกังวลและว้าวุ่น  จากการที่ได้ติดตามข่าวความเป็นไปของบ้านเมือง ก็มานั่งตรึกตรองดูว่าอะไรหนอเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งในยุคนี้ถึงได้เอาแต่ใจตัวเอง จะเอาอะไรก็จะเอาให้ได้  เหี้ยมโหด เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว จ้วงจาบหยาบคาย จะเอาอะไรก็ต้องเอาให้ได้เดี๋ยวนั้น ไม่คิดถึงคนอื่นเลย ทำจนดูเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง คำว่า  “ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์” เอาไปเก็บไว้ที่ไหนกัน อย่างนี้แล้วต่อไปประเทศเราจะเป็นอย่างไรและคนไทยเราจะอยู่รวมกันได้อย่างไร???   ความสงบสุขอยู่ที่ไหน????    ความเป็นคนไทยที่เคยรักสงบ มีความรักความเอื้ออารีย์ต่อกันหายไปไหนหมด???

     มานั่งวิเคราะห์ดูสาเหตุว่าทำไมคนกลุ่มหนึ่งถึงได้เป็นอย่างนี้ สาเหตุแรกคงต้องโทษ

1.พ่อ-แม่ที่รักลูกมากเกินไป รักสุดหัวใจ อยากได้อะไรก็ทูลหัวหามาให้ และให้ได้ดั่งใจ สิ่งเหล่านี้จะมาหล่อหลอมให้ลูกมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง  เห็นแก่ตัว จะเอาอะไรก็ต้องได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ไม่เคยนึกถึงคนอื่นเลย

2.โทษสังคมสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ความเจริญทางวัตถุจนลืมรักษาความเจริญทางจิตใจที่คนไทยมีอยู่แล้วก็ค่อยหายไป ที่จริงแล้วที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ได้เพราะยังมีคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังมีและรักษาสิ่งดีๆเหล่านี้ไว้   คือคนไทยส่วนใหญ่ยังทำอะไรก็ยังระลึกถึง “ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์”ถึงทำให้ประเทศเราสงบสุขอยู่มากันได้ทุกวันนี้

     เชื่อเถอะค่ะไม่มีที่ไหนที่น่าอยู่เท่าบ้านเราอีกแล้ว ถ้าเราเผาบ้านเราแล้วเราจะอยู่อย่างไร???

ขอภาวนาและอธิษฐานจิตให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีอย่ามีเหตุร้ายอันใดเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองเลย คนไทยด้วยกันทั้งนั้น

 ท้ายนี้ขอมอบดอกดาหลาสวยๆเพื่อความชื่นใจแด่พี่น้องชาวลานฯทุกท่านค่ะ(จากสวนหลังบ้านที่ตูมวันก่อนแต่วันนี้บานแล้วค่ะ) 

               

 

    


รดน้ำกลางแดดเปรี้ยง!!!

2656 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 9 เมษายน 2010 เวลา 19:01 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 17686

ดอกมะเฟืองและดอกมะแว้งไม่เห็นเป็นอะไร(ให้น้ำกลางวันเหมือนกัน)

(ยอดชมพู่มะเหมี่ยวเมื่อถูกพ่นน้ำให้ช่วงกลางวันแดดเปรี้ยงค่ะ)

ในภาวะที่อากาศร้อนมากและแห้งอย่างนี้   การให้น้ำต้นไม้น่าจะมีความสำคัญมาก  ช่วงนี้อยู่บ้านทุกวันเพราะไม่อยากออกไปไหนด้วยมีความร้อนหลายอย่างมาประทะกัน…เมื่ออยู่บ้านตอนกลางวันก็มองไปรอบๆบ้าน…เห็นต้นไม้แล้วก็เกิดความสงสาร หลายต้นยืนเหี่ยวเห็นๆอยู่ก็อดไม่ได้เปิดสายยางฉีดพ่นไปบนต้นเลย คิดว่าเพื่อช่วยคลายร้อนให้ต้นไม้ ความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีเรื่องการให้น้ำต้นไม้โยนทิ้งหมดค่ะ พอทำได้ 4-5 วัน บางต้นก็ไม่มีปัญหา ดันมามีปัญหากับต้นที่หวานใจเขาประคับประคองมาตลอด คือต้นชมพูมะเหมี่ยวค่ะ ตอนแรกใบก็ดูมันสวย แต่พอเจอน้ำพ่นบนใบช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ ผลก็เป็นอย่างนี้ สามีถามว่าใครเอาอะไรมาพ่นต้นไม้เขาจึงเป็นแบบนี้ ก็เปล่าน๊ะ พ่นน้ำเฉยๆช่วงเที่ยง บ่ายๆเท่านั้นเอง  ก็ยังงงเป็นไก่ตาแตกว่าเป็นอะไร จนกระทั่งคุณLogosลงบันทึก”รดน้ำกลางแดดเปรี้ยง อาจเกิดไฟไหม้ได้” ก็เลยรีบเข้าไปอ่านและค้นเพิ่มเติมอีกก็ได้ความตรงกัน บางบทความบอกว่าในป่าบางแห่งหยดน้ำค้างที่ยังคงรูปเป็นหยดน้ำ เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมากลายเป็นเล็นส์เล็กๆรวมแสงกลายเป็นความร้อน หลายๆหยดเข้าเกิดไฟไหม้ป่าได้ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าน้ำจะเป็นจุดกำเนิดไฟได้

และยังพบต่อไปว่าสำหรับพืชแต่ละชนิดจะต่างกัน พืชบางชนิดอาจไม่เป็นไร  แต่ถ้าพืชชนิดใดที่ใบมีwaxเคลือบก็จะมีปัญหามากกว่า ก็โป๊ะเชะเลย ว่าเจ้าต้นชมพู่มะเหมี่ยวก็สังเวยความโง่ของป้าจุ๋มไปเสียแล้ว ผลก็อย่างที่เห็นค่ะ   (แต่ก่อนๆคนเรายังโง่   แต่เดี๋ยวนี้ก็ยังโง่อยู่…อิอิ) แต่หวังว่าคงไม่ตายนะคะ  (เป็นมา 2-3 ครั้งแล้วแต่ไม่เอะใจค่ะ)  ถือว่าเป็นบทเรียนและจะจำไว้ว่าจะไม่รดน้ำต้นไม้กลางแดดเปรี้ยงอีกแล้ว และไม่ต้องสงสารต้นไม้ด้วย เพราะเขามีระบบปิดเปิดปากใบโดยธรรมชาติอยู่แล้ว หากรักต้นไม้ก็ให้ตื่นมารดน้ำตอนเช้าๆแทนจ้า…



Main: 0.06894588470459 sec
Sidebar: 0.097719192504883 sec