ปีนี้พิเศษผู้วิ่งชนะเลิศทั้ง 3 ประเภทคือ marathon, half และmini marathonจะได้รับถ้วยพระราชทานครบทุกประเภทค่ะ
-วันนี้ป้าจุ๋มและหวานใจได้ไปร่วมวิ่ง”ขุนด่านปราการชลมาราธอน ครั้งที่ 5″ มาค่ะซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายกค่ะ เขื่อนแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่เป็นความภูมิใจของหวานใจป้าจุ๋ม ที่เป็นหนึ่งในวิศวกรที่ปรึกษา ตั้งแต่เริ่มโครงการจนกระทั่งสร้างเสร็จใช้เวลานานกว่า 10 ปีค่ะ
เขื่อนแห่งนี้เป็นเขื่อนในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ เนื่องจากพระองค์ท่านได้เห็นความทุกข์ยากของประชาชนชาวนครนายก อันเนื่องมาจากปัญหาดินเปรี้ยวและมีทั้งภัยแล้งและอุทกภัย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านได้ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2536(ก่อนวันที่ 5 ธันวาคม) ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระองค์ท่านได้ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาดำเนินโครงการ “เขื่อนคลองท่าด่านอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” โครงการฯก็เริ่มโดยมีการทำFeasibility study ดูความเป็นไปได้ ดูผลดี ผลเสีย และออกแบบเป็นเวลาหลายปี
เขื่อนขุนด่านปราการชลได้เริ่มเตรียมการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2542 และวันที่ 2 มิถุนายน 2544 พระบาทสมด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จทรงวางศิลาฤกษ์ และการก่อสร้างได้เสร็จสิ้นในปี 2548 ค่ะ หลังเขื่อนแห่งนี้สร้างเสร็จได้ทรงพระราชทานนามเขื่อนแห่งนี้ใหม่ว่า“เขื่อนขุนด่านปราการชล” จากเดิมเรียกว่า “เขื่อนคลองท่าด่าน” เขื่อนแห่งนี้เป็นเขื่อนคอนกรีตซึ่งมีความสูง 94 เมตร มีความยาว 2.594 กิโลเมตร เก็บกักได้ถึง 224 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อการชลประทานให้กับการเกษตรกรรมใน พื้นที่ 185 ,000 ไร่ จัดเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในโลกค่ะ ใครยังไม่เคยไปขอแนะนำค่ะ
เขื่อนฯเริ่มก่อสร้าง ปี 2549 สร้างเสร็จเริ่มเก็บน้ำได้เต็มพิกัด
ภาพถ่ายทางอากาศด้านหน้า เมื่อวานด้านหลังเขื่อนมีน้ำเหลือแค่ 8 %ของที่เคยเก็บได้เต็มพิกัด
เมื่อด้านหลังมีน้ำเต็มที่ก็เปิดspill way น้ำจะไหลตกมากระแทกแท่นหินด้านหน้าเขื่อนที่designไว้ น้ำกระเซ็นสวยมากค่ะ
ป้าจุ๋มโชคดีค่ะปีแรกที่เก็บน้ำได้เต็มพิกัดก็ได้ติดตามไปดูด้วย ละอองน้ำเป็นฝอยทำให้เย็นสบายค่ะ(ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี2549 ครั้งแรกที่เก็บน้ำได้เต็มพิกัด ทุกคนตื่นเต้นค่ะ)
ภายหลังจากที่เขื่อนนี้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ส่งผลให้ชาวจังหวัดนครนายกและจังหวัดใกล้เคียงมีน้ำอุปโภค บริโภคตลอดทั้งปี รวมทั้งช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นซ้ำซากเป็นประจำทุกปี ตลอดจนเกิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีศักยภาพสูงแห่งหนึ่ง สามารถสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีแก่ชาวจังหวัดนครนายกอย่างมากมาย เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทอดพระเกียรติ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ จังหวัดนครนายกร่วมกับองค์กรและหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรม “วิ่งขุนด่านปราการชลมาราธอน”เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 5 ค่ะ
ป้าจุ๋มและหวานใจนั้นจะมีความผูกพันกับเขื่อนแห่งนี้ เนื่องด้วยระยะเวลาก่อสร้างยาวนาน ป้าจุ๋มก็ได้มีโอกาสติดตามไปดูการก่อสร้างเห็นตั้งแต่เริ่มต้นจากเป็นป่าเขาจนกระทั่งเป็นเขื่อนที่ทรงคุณค่าและสวยงามมากแห่งหนึ่งในขณะนี้ เมื่อมีความผูกพันก็มักจะหาโอกาสแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนค่ะ ไปบ่อยค่ะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เพิ่งไปมาและสัปดาห์นี้ไปวิ่งกันอีกค่ะ เกือบทุกครั้งที่ไปก็จะไปพักที่ The Royal Hill &Resortค่ะ (ชอบที่นี่ค่ะ) ไปกันจนกระทั่งเจ้าหน้าที่รวมทั้งคนงานจำได้ และเราถูกจัดเป็นแขกพิเศษของที่นี่ไปแล้วค่ะ ราคาห้องก็คิดพิเศษ และเขารู้ใจที่จะเลือกห้องที่เราสามารถมองเห็นเขื่อนจากห้องพักได้ดีค่ะ(เรียกว่ารู้ใจกันค่ะ)
ทิวทัศน์จากห้องพักมองเห็นเขื่อนชัดเจน
เรื่องกิจกรรมวิ่งนั้นปกติเราก็พยายามดูแลสุขภาพกันอยู่แล้วค่ะ พยายามหาโอกาสออกกำลังกายเป็นประจำค่ะ เพราะเชื่อในสโลแกนที่ว่า”สุขภาพดีไม่มีซื้อขาย”ค่ะ ป้าจุ๋มและหวานใจไปวิ่งตั้งแต่ครั้งที่ 1 มาค่ะ แต่ปีที่แล้วติดธุระไม่ได้ไป ปีนี้ก็เลยต้องไปให้ได้ค่ะ หวานใจลง mini marathonค่ะ(11 กม.) ส่วนป้าจุ๋มลงFun runค่ะ( 4 กม.) ครั้งนี้หวานใจทำเวลาได้ 1ชั่วโมงกับอีก 14 นาที ซึ่งเจ้าตัวพอใจค่ะ ส่วนป้าจุ๋ม ใช้เวลาวิ่งบ้าง เดินเร็วบ้าง ก็ใช้เวลา 29 นาที (กลัวไม่ได้เหรียญค่ะ)เพราะเขาจะแจกเฉพาะ 400 คนแรกเท่านั้นค่ะ ปีนี้ไม่เก็บเงินจึงมีเหรียญจำกัดค่ะ คนไม่ได้เหรียญโวยวายกันก็มีค่ะ(ส่วนใหญ่คนที่มาวิ่งส่วนหนึ่งต้องการสะสมเหรียญค่ะ ที่บ้านมีเป็นกล่องแล้วค่ะ…อิอิ)
ป้าจุ๋มกับหวานใจก่อนวิ่งและเมื่อถึงเส้นชัยรอรับเหรียญ ก็ได้เหรียญมาเพิ่มอีกคนละเหรียญค่ะ
หลังวิ่งเทอดพระเกียรติ์และได้รับเหรียญคนละเหรียญแล้ว ก็กลับมาbreakfast ที่ที่พักแล้วอาบน้ำนอนพักผ่อน ใกล้เที่ยงก็ออกเดินทางไปแวะกินก๊วยเตี๋ยวราดหน้าทะเลที่ร้านประจำไม่ไกลจากที่พักมากและเป็นทางผ่านกลับบ้านค่ะ อร่อยเหมือนเดิมค่ะ หลังจากนั้นก็แวะไปวัดป่าถาวรนิมิตร ที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น ซึ่งพระลูกศิษย์ปริญญาโทของหวานใจเรียนจบแล้วบวช 2 ปีกว่าแล้ว ซึ้งในรสพระธรรมยังไม่ยอมสึกค่ะ เรานำของไปถวายและเยี่ยมเยียนท่าน ดูท่านมีความสงบสุขใจมาก(ท่าทางท่านคงจะอยู่ใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์อีกนาน…) ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
กล้วยอบน้ำผึ้งทอดกรอบและก๊วยเตี๋ยวราดหน้าทะเลอร่อยค่ะ
ตอนนี้กลับถึงบ้านแล้วค่ะ ก็เลยมานั่งรายงานข่าวคราวให้พี่น้องได้รับทราบกันค่ะ