Quilt…คลายเครียด

576 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 28 พฤษภาคม 2010 เวลา 15:35 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 10364

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองมา เข้าใจว่าพวกเราคงจะมีความรู้สึกไม่ต่างกันนะคะ คือเสียใจลึกๆ เศร้าและมีเครียดๆตามมาบางโอกาส ยิ่งฟังข่าว เห็นข่าวกลับยิ่งเหมือนตอกย้ำ มีเจ็บใจแถมมาด้วย ปล่อยวางไม่ได้เลย ก็ดูข่าวแล้วก็รู้เห็นว่าอีกฝ่ายคิดวางแผนจะทำลายบ้านเมืองมี ประกาศอย่างชัดเจน อย่างไม่เกรงกลัว ว่าจะทำร้ายประเทศไทยอย่างไร ด้านจิตใจไม่ต้องพูดถึง แต่ด้านวัตถุก็ได้สั่งให้เผาตรงโน้น ตรงนี้ ให้เผาทุกสิ่งทุกอย่าง ให้กรุงเทพฯเป็นทะเลเพลิง มีความเป็นคนไทยเหลืออยู่บ้างไหม? คนที่เผาก็คิดอย่างไร???? ก็เลยเครียดไปตามๆกันค่ะ

อย่างไรก็ตามอะไรๆก็ย้อนกลับไม่ได้แล้วคงต้องหาทางเดินหน้าต่อไปและต้องไม่ยอมแพ้ด้วย…แต่แรกๆคงต้องเยียวยาหัวใจเสียก่อน…ก็พยายามหาทางออกให้ตัวเอง…ตอนแรกก็สวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็พบว่าทำไม่ค่อยได้ ไม่สงบ ไม่นิ่งค่ะ(เรียกว่ายังอ่อนหัด)  จนกระทั่งมาพบเพื่อนต่างวัย(รุ่นน้องที่น่ารักมากๆค่ะ)ช่วยออกความเห็นว่างั้นเราไปหาอะไรทำที่ทำให้ใจสงบและมีผลงานเชิงประจักษ์ออกมาให้ได้ชื่นชมด้วยดีกว่าค่ะ…ในที่สุดก็ชวนกันไปเข้าคอร์สทำquiltค่ะ  ก็โป๊ะเชะเลยค่ะ จริงด้วย  ตอนนั่งทำมีเพลงlight music เบาๆให้ฟัง ในห้องเปิดแอร์เย็นๆ และนั่งทำกับคนที่ชอบๆเหมือนกัน ก็คิดกันว่าทำเสร็จก็จะส่งไปให้คนที่เรารักๆค่ะ หรือไม่ก็จะประมูลขายเอาเงินไปทำการกุศล…โอ้โห!!!แค่คิดก็สบายใจไปเยอะแล้วค่ะ หายเครียดเลยและแถมมีความสุขค่ะ นั่งทำหมดไปวันๆไม่รู้ตัวเลยค่ะ ป้าจุ๋มก็ทำได้นิดหน่อยแล้ว อาจารย์แอบชมด้วยว่าป้าจุ๋มฝีมือดีด้วยค่ะ…อิอิ แอบปลิ้มใจค่ะ (ตอนแรกอาจารย์ดูแล้วคิดว่าหุ่นไม่ให้แน่ๆเลย )

อาจารย์ เพื่อนๆ ต่างมีความสุข เราทำแผ่นวางของรูปหัวใจหลากสีค่ะ(เน้นความรักและหัวใจค่ะ)  กระเป๋าใส่ของเล็กๆหลายแบบค่ะ ตะกร้าใส่ตุ๊กตาสามพี่น้องและจะทำอีกหลายอย่างค่ะ ใครสนใจสั่งจองได้ค่ะ หวังว่าคงไม่ผิดกติกานะคะท่านadmin.เพราะเราจะทำเพื่อการกุศล และผลงานคงออกได้ประมาณเดือนละชิ้นค่ะ ทำยากเหมือนกัน เสียเวลามากค่ะ แต่พอใจค่ะ

ใบนี้กำลังทำใหม่ใช้ผ้ายีนค่ะ งานดูเหมือนง่ายๆแต่ความจริงปราณีตค่ะและดูมีคุณค่า(โดยเฉพาะเมื่อได้ทำเอง) การทำงานแบบนี้ ทำให้มีสมาธิดีมากเลยค่ะ ผ่อนคลายและมีความสุขด้วยค่ะ ใครอยากลองทำบ้างก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะคะ

ตอนนี้ลูกๆเห็นแม่มีความสุขเขาก็หมดกังวลค่ะ…เดี๋ยวบ่ายนี้ก็จะเตรียมจัดกระเป๋าแล้วค่ะ คืนนี้หวานใจจะกลับจากประเทศลาว และบอกไว้ว่าวันเสาร์-อาทิตย์นี้จะพาป้าจุ๋มไปพักผ่อนแถวนครนายกสัก 2 วันค่ะ(29-30พ.ค.นี้ค่ะ)

เมื่อคืนได้ฟังท่านดร.วรภัทร์ออกรายการเจาะใจ ท่านพูดได้ตรงประเด็นมากๆ เรื่องการแก้ปัญหาในขณะนี้ค่ะ มีหลายอย่างที่โดนใจป้าจุ๋มคือท่านบอกว่าให้ทุกคนหันมาดูตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ก่อน  พ่อ-แม่ สามี-ภรรยา ลูกๆ แก้ปัญหาของตัวเองให้ดีก่อนแล้วค่อยคิดไปทำอย่างอื่นต่อ ก็จริงนะคะ ก็ถ้าประเทศชาติมีประชากรคุณภาพคือไม่มีปัญหาแล้วทุกอย่างก็จะดีเอง(แก้ปัญหาที่ต้นเหตุค่ะ)  ท่านให้สติอีกหลายๆเรื่องดีมากๆค่ะ พูดน้อยแต่กระชับเข้าใจง่าย อีกอย่างที่ท่านให้ได้คิดคือให้ถือเอาว่าวิกฤตนี้เป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้หันมาดูตัวเอง ให้เข้มแข็งขึ้นและอีกหลายอย่างที่ชาวลานฯคงได้ฟังกันมาแล้วและไม่พลาดรายการนี้กระมังคะเพราะคุณLogosได้ประชาสัมพันธ์ไว้ให้อย่างดีเยี่ยม มีการเตือนเป็นระยะๆ ต้องขอขอบคุณด้วยค่ะ และในโอกาสนี้ป้าจุ๋มใคร่ขอคารวะท่านดร.วรภัทร์ด้วยความจริงใจค่ะ ป้าจุ๋มเชื่อเสมอในคำกล่าวที่ว่าประเทศไทยไม่เคยสิ้นคนดี  และท่านคือหนึ่งในคนดีคนนั้นค่ะ

ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ คนดีผู้ยิ่งใหญ่             ขอคารวะด้วยหัวใจquiltทั้ง 9 ดวงค่ะ

สุดท้ายนี้ป้าจุ๋มก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขค่ะ ใครที่ยังหาทางออกไม่ได้ก็ขอให้พบทางออกที่ดีค่ะ


สวนป่า 4-9 พ.ค. 2553 ตอนที่ 1. สมหวังดั่งตั้งใจ…อิอิ

427 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 18 พฤษภาคม 2010 เวลา 17:02 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 7846

การมาสวนป่าของป้าจุ๋มในครั้งนี้ (4-9 พ.ค.)ต้องขอบอกว่าได้มีการวางแผนล่วงหน้านานพอสมควรและเป็นความตั้งใจอย่างยิ่งว่าต้องมาให้ได้ค่ะ ได้มีการลงบันทึกไว้ในปฏิทินตัวหนาชัดเจนว่าขอเก็บช่วงเวลาวันที่ 1-10 พ.ค. 2553ไว้มาสวนป่าค่ะ(เก็บเวลาไว้เผื่อหลายวันหน่อยเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด เนื่องจากกำหนดการไม่นิ่งสักที) พอใกล้วันจริงทำท่าจะมีปัญหาเกือบจะไม่ลงตัวค่ะ เพราะการมาสวนป่าของป้าจุ๋มในระยะหลังนี้ส่วนใหญ่จะขออาศัยติดรถคุณLogos(คุณตฤณ)มาตลอดค่ะ เดิมมีแผนจะมากันบ่ายวันที่ 3 พ.ค. แต่ป้าจุ๋มติดไปต่างจังหวัดกับหวานใจตั้งแต่วันที่ 1-3 พ.ค.ซึ่งเดิมจะกลับวันที่ 3พ.ค.ค่ะ ก็ทำให้กลุ้มใจนิดหน่อย แต่คิดว่าคงจะมาทันเพราะอยู่แค่หัวหินนี่เอง (ไม่รู้หละออกvisaให้มาสวนป่าแล้วก็ต้องทำเวลาให้ได้…อิอิ)  แต่ด้วยความโชคดีของป้าจุ๋มค่ะทำให้ทุกอย่างราบรื่นและลงตัว  หวานใจป้าจุ๋มเกิดเปลี่ยนใจกลับบ่ายวันที่2 พ.ค. และคุณLogosก็เปลี่ยนกำหนดการจากเดิม วันที่3 บ่ายเป็นวันที่4 ก็เลยสบายๆค่ะ…ก็ตกลงกันว่าวันที่ 4 พ.ค.พร้อมเมื่อไหร่ก็ออกเดินทางเลยไม่ต้องเร่งรีบ แต่ก็คิดว่าไม่ควรเกินบ่ายโมง…ดังนั้นวันที่ 4 พ.ค.ก็มาถึงสวนป่าแบบสบายๆถึงก่อนทีมเมืองละปูนประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ

สำหรับสวนป่านั้นป้าจุ๋มได้มีโอกาสมาหลายปีแล้ว เลยจำไม่ได้ว่าการมากี่ครั้งแล้วและครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว การมาสวนป่าแต่ละครั้งก็ได้พบและเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างไม่เคยซ้ำกันเลยค่ะ  ก็ชีวิตมีให้ไว้เรียนรู้มิใช่หรือ ก็จะเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ  ความจริงแล้วเมื่อพูดถึงการเรียนรู้นั้นคนเราไม่ว่าจะไปไหนๆก็เรียนรู้ได้ตลอดเวลา  การเรียนรู้แต่ละครั้งล้วนมีคุณค่า เพราะคิดว่าการเรียนรู้มักทำให้คนฉลาดขึ้นเสมอค่ะ มีคำพูดโบราณกล่าวว่า “แต่ก่อนๆคนเรายังโง่” แต่สำหรับป้าจุ๋มก็จะมีคำพูดติดตัวเองไว้เหมือนกันว่า ” แต่ก่อนๆคนเรายังโง่ แต่เดี๋ยวนี้ตัวเองก็ยังโง่อยู่ค่ะ…อิอิ” เพราะฉะนั้นก็จะขอเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ 

แล้วทำไมหนาจึงได้ใจจดใจจ่อนักหนากับการมาสวนป่าในครั้งนี้นัก  จะบอกให้ก็ได้ค่ะ เหตุผลหลักๆก็มีดังนี้ค่ะ

1.เป็นเหตุผลที่น่ามาเป็นที่สุดค่ะ  เนื่องจากได้เคยคุยกับน้องครูอึ่ง(ผอ.ดวงพร เลาหกุล แห่งโรงเรียนมงคลวิทยา จ.ลำพูน เธอได้เล่าให้ฟังว่าว่ามาครั้งนี้จะได้พบกับท่านรศ.ดร.โสรีช์ โพธิแก้ว ซึ่งเป็นอาจารย์ที่น้องครูอึ่งเคารพรักและศรัทธาในตัวท่านมาก แค่นั้นไม่พอยังส่งหนังสือที่ได้จัดพิมพ์ในโอกาสครบรอบ 60 ปีของท่านมาให้ป้าจุ๋มได้อ่านอีก 2 เล่มค่ะ คือ 1. กระแสธารแห่งชีวิต และ2. ชีวิต…ความงาม…ความจริง หลังอ่านหนังสือแล้ว…คิดว่าอย่างไรเสียโอกาสดีๆอย่างนี้คงพลาดไม่ได้แน่ๆค่ะ ต้องขอขอบคุณน้องครูอึ่งมาณ. ที่นี้อีกครั้งด้วยค่ะ โดยได้ส่งหนังสือผ่านมาทางคุณLogos (บรุษไปรษณีย์กิตติมศักดิ์ของชาวลานฯค่ะ) และคุณLogosเองก็ได้นำมาส่งให้ถึงบ้านเลยค่ะ ต้องขอให้ได้รับคำขอบคุณจากป้าจุ๋มอีกครั้งด้วยเช่นกันค่ะ.

2.ก็จะไม่ให้ใจจดใจจ่อได้อย่างไร เมื่อทราบว่าจะมีพี่น้องชาวลานฯมากันหลายคน และล้วนเป็นคนที่เราคิดถึงทั้งนั้นค่ะ โดยเฉพาะครั้งนี้มีสัญญาใจกับอุ๊ยสร้อย(ดร.จันทรรัตน์)ว่าจะมาทำจานบินไส้ซอสขาวให้กิน รับปากแล้วต้องทำค่ะ ก็เลยทำมาเผื่อท่านอื่นๆด้วยค่ะ ก็ดีใจค่ะ ขายดีหมดเกลี้ยงเลย…วันหลังๆมีแฟนๆเรียกร้องอีกแต่ไส้ที่เตรียมมาจากกรุงเทพฯหมดแล้วเลย   ต้องออกไปหาซื้อแฮมและcheeseมาทำเป็นแซนวิชแฮมcheeseแทนก็ขายดีเช่นเดิมค่ะ

และ 3.ก็ไม่ได้มาสวนป่านานแล้ว จากเดิมที่เคยมาเป็นระยะๆ เมื่อไม่ได้มานานก็คิดถึงค่ะ  การมาสวนป่าของป้าจุ๋มครั้งแรกนั้นด้วยการนำของเพื่อนร่วมรุ่นในสมัยมัธยมต้น(ป้าจุ๋มเรียนมัธยมต้นที่อ.สตึกค่ะและเป็นเพื่อนเรียนร่วมชั้นเดียวกันกับครูบาด้วยค่ะ…ป้าจุ๋มมาอยู่อ.สตึก 3 ปี ตอนนั้นคุณพ่อป้าจุ๋มเป็นปลัดอำเภอย้ายมาทำงานที่นั่นค่ะ หลังจบมัธยมต้นป้าจุ๋มไม่เคยมาสตึกอีกเลยเป็นเวลาราวๆ40 ปี(นานโข…)   จนกระทั่งเพื่อนร่วมรุ่นของเราคนหนึ่งได้กลับมาเป็นผอ.โรงเรียนที่เราเคยเรียนจึงคิดชวนเพื่อนๆมาทำบุญทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษากัน จึงได้กลับมาพบกันอีกครั้งค่ะ หลังทอดผ้าป่าเพื่อนๆก็ชวนกันมาที่สวนป่ากัน โดยเล่าว่ามาดูซิเพื่อนเราทำอะไรอยู่(หมายถึงครูบาค่ะ)  และครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ป้าจุ๋มได้เข้ามาสวนป่าค่ะ

 เมื่อมาเห็นก็ทึ่งค่ะในความพิเศษหลายๆอย่างที่ทุกท่านคงจะได้สัมผัสกันแล้ว  ในช่วงนั้นก็ประทับใจและได้ตั้งใจไว้เลยว่าจะมีอะไรไหมที่เราจะมาช่วยที่นี่ได้บ้าง แต่ดูจากความสามารถของตัวเองแล้วก็คงเป็นได้แค่Jigsaw ตัวเล็กตัวหนึ่งเท่านั้นกระมังที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มบางสิ่งบางอย่างให้ที่นี่ได้ เพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ หลังจากที่พูดคุยกับครูบาพอคลำทางถูกว่าเราน่าจะทำอะไรได้บ้าง ก็คิดวางแผนแล้วก็เริ่มเลย แต่ก็ทำได้เท่าที่เห็นค่ะไม่มากมายอะไรอย่างที่บอกว่าทำตามกำลัง  ก็ทำไงได้ละคะกำลังมีแค่นี้ก็เป็นได้เพียงแค่Jigsawชิ้นเล็กๆชิ้นหนึ่งในภาพรวมสวนป่าเท่านั้น  แต่ก็คิดว่าตัวเองได้ทำเต็มกำลังแล้ว  ก็ดีใจที่ได้ทำไป  มาคิดถึงตอนนี้ก็อดทึ่งตัวเองไม่ได้เหมือนกันค่ะว่าบางอย่างทำได้อย่างไร???งงเหมือนกัน…แต่ทำไปแล้วค่ะ

ขอยกตัวอย่าง เช่นจากไม่เคยขับรถทางไกลคนเดียวก็ได้ทำและทำได้ …อิอิ ทำหลายครั้งด้วย  เช่น กท.-สวนป่า(นี่บ่อยค่ะ ตอนนั้นความที่เป็นห่วงสุขภาพครูบามากด้วย บางครั้งแค่ครูบาโทรฯมาบอกว่าท้องผูกมาเกือบเดือนแล้ว…เท่านั้นป้าจุ๋มเผ่นเลย ไปถึงคืนนั้นเลยบังคับกินสมุนไพรระบายท้องทันที พอเช้ามาก็ระบายโล่งไปเลย…OK ป้าจุ๋มกลับก็มี)  หรือ ขับระยะทางกท.-ขอนแก่น ขอนแก่น-มหาสารคาม-สตึกคนเดียวในวันเดียว เพียงเพื่อไปขนต้นพันธุ์และเมล็ดพันธุ์เอกมหาชัยมาส่งเสริมให้ปลูกที่สวนป่าแห่งนี้เพื่อให้ได้ทันใจ(ครูบา) อยากรีบปลูกเพื่อให้ต้นไม้โตเร็วๆค่ะ (เรื่องการขับรถทางไกลความจริงทางบ้านเคยห้ามไว้แต่แอบทำค่ะ…แรกๆที่บ้านเข้าใจผิดคิดว่าขับรถมาจอดไว้ที่ทำงาน แต่ตอนหลังทราบก็จะแกมขอร้องว่าหากไม่จำเป็นก็ขอร้องเถอะน๊ะ เพราะเป็นห่วง…ก็เลยค่อยๆวางมือไปค่ะ   และระยะหลังนี้ก็โชคดีค่ะได้อาศัยรถคุณLogosมาแทนค่ะ  )

นอกจากหาสมุนไพรมาถ่ายท้องครูบาแล้วก็พยายามหาสมุนไพรต่างๆที่กำลังhotๆในช่วงเวลานั้นมาปลูกไว้เพื่อให้มีความหลากหลายในสวนป่า(ช่วงนั้นกำลังทำวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรพอดีค่ะ)… รวมทั้งด้านสุขภาพของท่านครูบาก็พยายาม…หาทางช่วยกันประคับประคองซึ่งช่วยได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็ได้ทำเต็มที่…จนกระทั่งวันหนึ่งครูบาคงประทับใจในความพยายามและเห็นความเมามันของป้าจุ๋มกระมังคะเลยตั้งสมญานามให้ว่าเป็น “ป้าแห่งชาติ”บ้างและต่อมาก็อุปโลกให้เป็น“เพื่อนบุญธรรม” บ้างแล้วแต่จะคิดได้ ก็ไม่ว่ากัน แต่ตอนนั้นก็รู้สึกเหมือนกันว่าได้รับการยกย่องมากเกินไปหรือเปล่า???ค่ะ…เพราะจากประสพการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโตเคยเห็นอะไรที่ดูหวือหวามากๆ …มักจะขาดความยั่งยืนค่ะ…โดยเฉพาะหากความหวือหวานี้จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆตามอารมณ์และจินตนาการ…การไปสวนป่าในครั้งนี้บรรยากาศทำให้นึกถึงความทรงจำในอดีต…ก็เลยเขียนมาเล่าให้ฟังเฉยๆค่ะ ซึ่งคิดว่าหลายท่านคงยังไม่เคยทราบค่ะ

 ”The Seasons Change” โลกก็หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาลค่ะ อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ขอให้ผ่านไปตามธรรมชาติ…ในชีวิตของป้าจุ๋มที่ผ่านมาไม่ว่าจะทำอะไร มักจะคิดแล้วว่าอยากทำและทำได้โดยไม่เบียดเบียนตัวเองและคนใกล้ตัว และทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองได้ตัดสินใจทำลงไปนั้นมักจะคิดดีแล้วและทำด้วยความเต็มใจเสมอ และที่สำคัญคือหากตัวเองได้ทำอะไรไปแล้วหากคิดว่าดีแล้วก็ไม่เคยเสียใจค่ะ เพราะสิ่งที่ได้รับหลังจากการทำก็คือความสบายใจค่ะและก็มีความสุขใจที่ได้ทำก็พอแล้วและทุกอย่างก็ผ่านไป…

ปล.ใคร่ขออนุญาตฝากบอกและยืนยันตอนนี้ด้วยว่า…ครูบาได้คู่ชีวิตที่มีความอดทนและดีเหลือเกินค่ะ…แม่หวีมีจิตใจดีและกว้างเยี่ยงมหาสมุทร ก็อยากให้ครูบารักและถนอมดวงใจน้อยๆแต่ยิ่งใหญ่ดวงนี้ไว้ตราบนานเท่านานค่ะ…ท้ายที่สุดแล้วชีวิตคนเราก็จะมีคู่ชีวิตเรานี่แหละที่จะคอยอยู่ดูแลกันจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต…ขออนุญาตใช้สิทธิ์ในฐานะเพื่อนบุญธรรมเตือนใจกันนิดหน่อยคงไม่ว่ากันนะคะ

แค่ 3 เหตุผลข้างต้นนี้ก็น่าจะมากเกินพอแล้วสำหรับการมาสวนป่าในครั้งนี้ค่ะ

เขียนมาตั้งยาวอ่านมาตั้งนานเอ๊ะแล้วมัน “สมหวังดั่งตั้งใจ…อิอิ”อย่างไรกันเนี่ย!!! รอตอนต่อไปดีไหมคะ??? อ๋อคงไม่ได้กระมัง หากไม่มีตอนต่อไปหัวข้อนี้คงไม่สมบูรณ์ค่ะ

ความ “สมหวังดั่งตั้งใจ…อิอิ” คงต้องแบ่งเป็นข้อๆเพราะเกรงจะสับสนค่ะ เพราะสมหวังหลายอย่างเหลือเกินค่ะ ดังนี้

สมหวังที่1. ก็คือได้พบท่านอาจารย์โสรีช์ โพธิแก้ว และเพื่อนรักวัยเดียวกัน(นับว่าเป็นสว.ทีมใหญ่เลยค่ะ)

ซ้ายสุดสว.พรพรรณ สว.โสรีช์ สว.ป้าจุ๋ม และสว.ไพลิน

ท่านสว.โสรีช์นั้นอย่างที่บอกในตอนต้นว่าน้องครูอึ่งได้เล่าให้ฟังพร้อมทั้งได้อ่านหนังสือของท่านแล้ว…ตอนแรกก็จินตนาว่าอาจารย์เป็นคนใจดีและมีเมตตาแน่ๆ(จากหนังสือและน้องครูอึ่งพูดถึงค่ะ) แต่เนื่องจากเป็นอาจารย์ทางด้านจิตวิทยาทำให้ป้าจุ๋มเกร็งน้อยๆว่าน่าจะมีเคร่งขรึม จริงจัง และอาจมีseriousเล็กน้อย…อิอิ แต่พอพบตัวจริงก็ถูกตามที่คิดไว้ช่วงต้น คือใจดี มีเมตตา ความจริงจังมีนะคะแต่ความจริงจังของท่านมีศิลปะเหลือเกิน(ชั้นเซียนเหยียบเมฆเลยเชียวค่ะ)ทำให้ผู้เรียนรู้ได้รับไปแบบธรรมชาติมากๆค่ะ แต่ความเคร่งขรึมและseriousนั้นจินตนาการไว้ผิดหมดเลยค่ะ(ขออภัยด้วยค่ะ) ที่สังเกตเห็นคือความรักความผูกพันระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ดูเหมือนเป็นพ่อ-ลูกมากกว่าค่ะ อาจารย์ก็มีความรักห่วงใยให้ลูกศิษย์และลูกศิษย์ก็รับทราบความรู้สึกนั้น ป้าจุ๋มสัมผัสได้และก็ประทับใจมากค่ะ จำชื่อหนูเหมี่ยวได้เป็นคนแรกเลยเพราะเป็นคนที่คอยมาปรนนิบัติอาจารย์อย่างธรรมชาติเสมือนลูกสาวดูแลพ่อ เป็นภาพที่น่ารักมากค่ะ ป้าจุ๋มอยากเรียกคุณครูมากกว่า(ป้าจุ๋มซึ้งใจและเคารพคำว่าคุณครูค่ะ) เพราะคำว่าครู สมัยป้าจุ๋มเป็นเด็กนั้นคือผู้ที่ตั้งใจสอนลูกศิษย์ด้วยความทุ่มเททั้งกายใจ…นอกจากนี้ท่านอาจารย์โสรีช์ท่านยังเป็นคนร่าเริง เป็นกันเอง มีความสามารถพิเศษคือเล่นกีตาร์เก่ง ร้องเพลงเก่ง แต่งเพลงเก่ง   โอ้โห!!!อันนี้รวมๆแล้วพูดได้คำเดียวว่าซู๊ดยอด ค่ะ    ป้าจุ๋มขอคาวะและชื่นชมอาจารย์ด้วยความจริงใจค่ะ และดีใจมากที่ได้มีโอกาสได้พบท่านค่ะ  และขอขอบคุณน้องครูอึ่ง(เป็นหัวหลัก…อิอิ)และน้องสร้อย(หัวตอ…)ค่ะ ที่ได้เหน็ดเหนื่อยในการช่วยกันประสานงานให้การไปสวนป่าในครั้งนี้สำเร็จด้วยดียิ่งค่ะ

ไปสวนป่าคราวนี้ป้าจุ๋มได้มีโอกาสพักห้องเดียวกันกับสว.พรพรรณและสว.ไพลินค่ะ หลังจากคุยกันไปมาก็ทราบว่าเอ…เราวัยเดียวกันนี่นา มิน่าเล่าพอป้าจุ๋มเปิดKaraOKไม่ว่าเพลงอะไรก็จะชอบเหมือนกัน ช่วยกันร้องช่วยกันหาเพลงจนตี 1 กว่าๆไม่รู้ตัว ก็ต้องขออภัยห้องข้างๆย้อนหลังด้วยนะคะหากเสียงเพลงที่บรรดาสว.ครวญ(คราง)เป็นการรบกวนท่านค่ะ

หลังจากที่เรากิน-นอน-ทำกิจกรรมร่วมกัน 2-3 วันนั้น ป้าจุ๋มก็ได้รู้จักสว.พรพรรณและสว.ไพลินดีขึ้นมาก ก็จะขอเล่าว่ามีความประทับใจกับสว.ทั้งสองท่านมากค่ะ ท่านสว.พรพรรณนั้นเธอดูจะเป็นหญิงงาม เงียบๆเรียบร้อย จิตใจดี สุขุม เป็นตัวของตัวเองและมีน้ำใจมากค่ะ มีความสบายใจที่ได้อยู่ใกล้และพูดคุยด้วยค่ะ ป้าจุ๋มดีใจที่ได้พบค่ะ รู้สึกรักและประทับใจค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ ป้าจุ๋มจะจดจำความรู้สึกดีๆนี้ไว้และจะระลึกถึงตลอดไปค่ะ

สำหรับท่านสว..ไพลินนั้นก็ยิ่งประทับใจค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้นานๆจะเห็นคุณครูที่เป็นครูทั้งจิตวิญญาณเช่นนี้ (ส่วนมากจะเห็นคนรับจ้างสอนหนังสือเสียมากค่ะ) ป้าจุ๋มขอเรียกว่าคุณครูไพลินผู้ยิ่งใหญ่ค่ะ ท่านได้ทุ่มเทชีวิตกับการเรียนการสอนอย่างตั้งใจ เรียกว่าทุกลมหายใจท่านนั้นนึกถึงแต่ลูกศิษย์ ไปต่างประเทศกลับมาเขียนหนังสือเล่าให้ฟัง กลัวลูกศิษย์ไม่ได้ความรู้เท่าที่ควรก็มีวิธีการเล่าสอดแทรกเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เพิ่มไปอีก(เรียกว่ามีกุสโลบายที่แยบยลมากน๊ะคุณครู) ส่วนอื่นๆก็จะมีความประทับใจเช่นเดียวกับท่านสว.พรพรรณค่ะ เอ…หรือว่าสาวละปูนเป็นแบบนี้กันหมดหนอ…น้องครูอึ่งที่ป้าจุ๋มรู้จักก็เป็นสาวละปูน ป้าจุ๋มก็หลงรักเช่นเดียวกัน ดูจะเป็นคนเงียบๆเรียบร้อยไม่ค่อยพูดแต่ โอ้โห…เวลาพูดทีนี้ สะกดคนฟังได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว ป้าจุ๋มต้องมนต์เสน่ห์สาวละปูนอย่างนี้คงต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนเสียแล้ว…อิอิ เขากล่าวว่านอนละปูน 1 คืนอายุยืน…ปี คงต้องไปพิสูจน์ค่ะ

 สมหวังที่2.ได้พบพี่น้องชาวลานฯมากันมากมายได้กอด ได้คุยกัน มีอะไรแบ่งปันกันจนหายคิดถึงเลยค่ะ

                       (สมหวังดั่งตั้งใจ…อิอิ ตอนสมหวังที่ 2-3-4-5จะมีตอนต่อไปค่ะ cooming soon !!!)

 


กลับบ้านเรา รักรออยู่…

185 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 10 พฤษภาคม 2010 เวลา 23:42 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 7758

ช่วงวันที่4-9 พ.ค.ที่ผ่านมานี้ป้าจุ๋มได้Visaยาวเป็นพิเศษ เนื่องจากได้วางแผนไว้นานและแน่ใจว่าTripนี้ต้องมีอะไรพิเศษ(และก็พิเศษจริงๆ ไว้จะเขียนเล่าในตอนต่อไปค่ะ) หลังจากวางแผนจะไปหลายวันก็เริ่มสะสมความดี ทำแต้มเพื่อประกอบการขอVisaค่ะ ก็สมหวังค่ะผ่านฉลุย…แต่เนื่องจากระยะเวลานั้นนับว่าหลายวันทีเดียวทำให้วันท้ายๆก็เริ่มคิดถึงบ้านแล้วค่ะ แต่ก็อยู่จนครบตามกำหนดที่ตั้งไว้ วันที่ 9 เดินทางกลับด้วยอาการกังวลเล็กน้อยว่ามีการตรวจกักรถจะทำให้เสียเวลา ก็วางแผนกันว่าต้องรีบเดินทางกลับค่ะ จะได้ถึงบ้านเร็วๆเพราะตอนนั้นใจมาอยู่ที่บ้านแล้วค่ะ…

นับว่าโชคดีมากวันนั้นคุณหมอจอมป่วนร่วมเดินทางมากับพวกเรา ทำให้รู้สึกว่าการเดินทางสนุก รื่นรมย์ตลอดทาง ผลัดกันคุย ผลัดกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้คนขับ(กิตติมศักดิ์)นั้นลืมเวลาง่วงนอนไปเลยค่ะ และที่สำคัญไม่ได้ถูกเรียกตรวจรถเลยตำรวจเห็นรถเราก็โบกให้ไปเลย…ก็ให้รู้ซะมั่งว่าไผขับ ไผนั่งมา…อิอิ ก็เลยเดินทางสะดวก ปลอดภัยตลอดทาง มาแวะกินข้าวกลางวันร้านChester Grill ที่ปั๊มป.ต.ท. แล้วเดินทางต่อถึงปากเกร็ดราวบ่าย 3 โมง ไปส่งคุณหมอจอมป่วนนั่งแท๊กซี่ไปสถานีขนส่งสายใต้เพื่อเดินทางไปสมุยต่อเพราะมีลูกๆและแม่นุหวานใจคนสวยไปรออยู่แล้วค่ะ ส่วนป้าจุ๋มกับคุณLogosเลยไปซื้อดินเหนียวเอากลับมาบ้านกันมาคนละก้อน จะปั้นอะไรต่อก็ยังไม่ทราบ…หลังจากนั้นคุณLogosก็มาส่งป้าจุ๋มที่บ้านค่ะ ต้องขอบคุณหลายๆค่ะที่ให้บริการป้าจุ๋มอย่างดีเสมอมา…

เมื่อมาถึงบ้านพบว่าหวานใจนั่งดูT.V.รออยู่(รออยู่หรือเปล่า???) ก็ทักทายกัน ถามไถ่ว่าเป็นไง สนุกไหม ตามเรื่อง แล้วเห็นอากาศร้อนเหลือหลาย ป้าจุ๋มได้ลูกหว้าสวยๆจากสตึกมา 1 ถุง คิดได้ก็เลยรีบไปทำน้ำลูกหว้าเย็นๆมาเสิร์ฟให้หวานใจได้ดื่มให้ชื่นใจ(เป็นการเริ่มสะสมคะแนนต่อ…อิอิ) สีสวยมากค่ะ สีม่วงอมชมพูที่เกิดจากสารเรียกว่าanthocyanin  ซึ่งมีประโยชน์อย่างน้อยช่วยบำรุงเส้นเลือดฝอยให้แข็งแรงค่ะ

            ลูกหว้าสด                              น้ำลูกหว้าค่ะ                            รินใส่แก้วให้หวานใจดื่ม…

หลังจากนั้นก็พักผ่อนค่ะ มื้อเย็นก็ออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน เพราะปกติเป็นวันครอบครัวอยู่แล้วแม่ไม่ต้องทำอาหารเย็น

กลับจากอาหารเย็นก็พยายามมาเปิดลานเพื่อรายงานข่าวพบว่าคอมพิวเตอร์ป้าจุ๋มเป็นอะไรไม่รู้เปิดinternetไม่ได้ ให้ลูกรักมาดูให้จนดึกก็ไม่สำเร็จ เลยไปยืมของหวานใจได้เข้าไปเจาะแจ๊ะได้นิดหน่อยก็ง่วงนอนค่ะ

วันนี้ลูกรักแก้ไขให้เสร็จประมาณเที่ยง(เกรงว่าแม่จะหงุดหงิด) สบายใจก็ไปธุระข้างนอกแล้วกลับมานั่งเขียนรายงานค่ะ

เนื่องจากรู้กำหนดการว่าไปสวนป่าคราวนี้หลายวัน ก่อนไปก็เดินใส่ปุ๋ยต้นไม้ไว้ กลับมารู้ว่ามีฝนตก 1 ครั้งด้วยและไปหลายวันทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ใบหญ้ารอบๆบ้าน โตและงามขึ้นส่วนใหญ่ก็ออกดอกสะพรั่งค่ะ รวมทั้งหลานทองม้วนก็ด้วยคงคิดถึงกระมังมาวิ่งพันแข้งพันขา ไปไหนไปด้วย เมื่อเช้าก็ออกเดินสำรวจรอบๆบ้านก็พบว่าเจ้าลูกฟักข้าวที่ได้ปลูกไว้พร้อมๆกับที่ให้ครูบาไปปลูกที่สวนป่าเพื่อให้ร่มเงาที่ลานกินข้าว แต่ที่นั่นไม่มีลูก  ที่บ้านป้าจุ๋มเขาไต่ขึ้นไปบนยอดต้นประดู่แล้วก็ออกลูกบนนั้นกำลังสุกแดงๆค่ะ(ตื่นเต้นค่ะ)

           ลูกฟักข้าวบนยอดต้นประดู่                                    ลูกสุกผ่าจะมีเนื้อและเยื่อหุ้มเมล็ดที่มีประโยชน์มากค่ะ

สำหรับเรื่องฟักข้าวป้าจุ๋มจะเขียนรายละเอียดในโอกาสต่อไปค่ะ คิดว่าน่าสนใจเพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากค่ะ

นอกจากนี้รอบๆบ้านส่วนใหญ่จะเน้นปลูกไม้หอมค่ะเพราะป้าจุ๋มและหวานใจชอบเหมือนกันค่ะ ซึ่งก็หมุนเวียนกันออกดอกทำให้มีกลิ่นหอมตลอดเวลาค่ะ

 เหล่าไม้หอมซึ่งความจริงมีลีลาวดีด้วยซึ่งจะส่งกลิ่นหอมและบานตลอดปีค่ะ  ดอกสายหยุดแดง แคทริยาลูกผสมก็หอมค่ะ ดาหลากำลังจะบานอีกดอก ดอกแก่นตะวันสีสดสวยและครอบครัวแม่-ลูกหมูอารมณ์ดี

   ไม่อยู่หลายวันหลานทองม้วนคงคิดถึง วิ่งพันขาตลอดไปไหนไปด้วยจะถ่ายรูปดอกไม้ก็มายืนบังเลยจับเป็นนางแบบเสียเลย ตอนไปถ่ายภาพกอบัวในกระถาง พอบอกว่าActionทองม้วนยกขาขึ้นน่ารักจริงๆหลานยายฉลาดจัง สำหรับดอกบัวช่วงนี้แดดร้อนมาก เห็นใบเล็กลงและดอกก็เล็กลงมาก จากที่เคยออกดอกโตและสวย เนื่องจากอากาศร้อนมากๆ ปีนี้นับว่าอากาศร้อนมากจริงๆ อากาศจะร้อนอย่างไรหากใจเราสงบนิ่งเย็น ความร้อนก็ร้อนแต่เพียงภายนอกทำอะไรใจไม่ได้เลยเพราะอยู่ข้างใน…อิอิ

รูปทางขวามือนั้นเป็นว่านแสงอาทิตย์ก็ออกดอกพอดีเช่นกันค่ะ ทองม้วนก็ตามมายุ่งอีกตามเคย ว่านแสงอาทิตย์สวยมากค่ะ เขาจะอยู่อย่างนี้ราว 1 สัปดาห์ค่ะ

ขอให้ทุกท่านเย็นใจ  เย็นกายและมีความสุขตามอัตตภาพค่ะ



Main: 0.070501089096069 sec
Sidebar: 0.13965106010437 sec