อโยธยา มาราธอน…คุ้มจริงๆ

277 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 26 สิงหาคม 2010 เวลา 1:55 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 8260

ระยะนี้อากาศในบริเวณกรุงเทพฯและปริมณฑลต้องถือว่าดีเหลือเกินค่ะ มีฝนตกตอนกลางคืนทุกคืนค่ะ ทำให้อากาศเย็นพอสบายๆ กลางคืนนอนห่มผ้าพออุ่นๆ ไม่ต้องเปิดแอร์ เปิดพัดลมให้เปลืองไฟเลยค่ะ ตื่นเช้ามาอากาศสดชื่นมาก ใครที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย จะชอบอากาศช่วงนี้มาก เพราะสดชื่นและไม่ทำให้เหนื่อยมากค่ะ การออกกำลังกายตอนเช้าจะทำให้สุขภาพแข็งแรงดีค่ะ

ป้าจุ๋มและหวานใจก็จะตื่นแต่เช้า(ตี 5 ค่ะ)มาวิ่งและเดินเร็วๆสลับกัน จนได้เหงื่อในยามเช้าทุกวันค่ะ ก็รู้สึกว่าร่างกายค่อนข้างfit&firmดีค่ะ

เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว(22 ส.ค.)ที่ผ่านมารู้ข่าวว่ามีการวิ่ง “เสียเหงื่อเพื่อชาติ” อโยธยามาราธอน เขาโฆษณาชักชวนว่า”บรรพบุรุษเสียเลือดเพื่อชาติ แต่เราไปวิ่งเสียเหงื่อก็เพื่อชาติ”เช่นกันค่ะ คำโฆษณาโดนใจค่ะ…เพราะเขาบอกว่ารายได้ทั้งหมดจะนำไปบูรณะโบราณสถานในจ.อยุธยา ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยชาติได้อีกทางเช่นกันค่ะ

ดังนั้นใครไปวิ่งก็ได้สองต่อคือ ได้ช่วยชาติและได้สุขภาพที่แข็งแรงด้วยค่ะ และมีแถมอีกคือหางบัตรที่สมัครวิ่งในวันนั้นสามารถนำไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรีอีกต่างหาก เรียกว่าได้ 3 ต่อก็ได้ค่ะ

การวิ่งครั้งนี้หวานใจป้าจุ๋มลงmini-marathon ส่วนป้าจุ๋มลงFun runแค่ 3.5 ก.ม.ค่ะ(ยังไม่กล้าลง mini-marathon ค่ะยังfitไม่พอค่ะ)
ผลออกมาก็สบายๆค่ะได้เหรียญมาครองเพิ่มในcollectionอีกคนละ 1 เหรียญค่ะ

ก็ขอชื่นชมคณะกรรมการผู้จัดการวิ่งในครั้งนี้ นับว่าจัดได้ค่อนข้างดีค่ะ ก็ได้รับความร่วมมือดีค่ะ คนมาวิ่งค่อนข้างมากทีเดียว และมีผู้วิ่งบางส่วนลงทุนแต่งตัวแบบนักรบโบราณมาเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศด้วยค่ะ(มีการประกวดตอนหลังวิ่งด้วยค่ะ) และก่อนวิ่งจะมีการทำบุญตักบาตรด้วยค่ะ เรียกว่าครบเครื่องเมืองอโยธยาเลยค่ะ

หลังวิ่งก็ไปเที่ยวต่อ เลือกไปเที่ยวตลาดน้ำอโยธยาเพราะยังไม่เคยไป คนเยอะมากจนเกือบหมดสนุกเลย ต่างไปแย่งกันกิน แย่งกันซื้อของ โชคดีที่วันนั้นตัดสินใจไปเช้าหน่อยคือราว 10 โมงเช้า คนยังไม่เยอะมาก แต่อย่างไรก็ยังขอแนะนำค่ะว่าเป็นสถานที่ที่น่าไปเที่ยวอีกแห่งค่ะ เรากินอาหารเที่ยงที่นั่น มีของกินอร่อยๆให้เลือกซื้อเลือกกินได้มากมาย รวมทั้งซื้อของฝากด้วยค่ะ ที่พลาดไม่ได้คือโรตีสายไหม ขนมดอกจอก ขนมกง(ขนมโบราณทั้งนั้น ปรากฎว่าลูกชายชอบใจขนมดอกจอก…โบ…เหมือนกันนะลูกชายเรา)

ช่วงบ่ายก็ไปไหว้พระที่วัดมเหยงคณ์เพราะอยู่ใกล้ตลาดน้ำฯแห่งนี้ค่ะ แล้วก็ไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่อค่ะบัตรฟรี(แหมไปเสียเหงื่อเพื่อชาติครั้งนี้นับว่าคุ้มจริงๆค่ะ…เรียกเสียเก๋เลยว่า “เสียเหงื่อเพื่อชาติ”…อิอิ)


บรรยากาศทั่วไปใน”อโยธยา มาราธอน”

มีช้างมาเต้นในพิธีเปิดน้องช้างบ้ายอและคึกด้วยส่ายสะโพกเสียหางแทบหลุดค่ะ น่ารักมาก
และล่างขวาสุดหวานใจของป้าจุ๋มก่อนออกวิ่ง…ส่งสัญญาณบอกพร้อมจ้า…

หลังวิ่งได้รับเหรียญและมีการถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกค่ะ
(ขอถ่ายกับสาวที่ใส่ตะเบงมานค่ะ เธอสวยและดูsexyน่ารักค่ะ)

ไปเที่ยวตลาดน้ำอโยธยามีไอศครีมมะพร้าวอร่อยตักใส่ในลูกมะพร้าวอ่อนค่ะ
ป้าจุ๋มไปยืนตากแดดเข้าคิวซื้อตั้งนานกว่าจะได้…คิวยาวเหยียดค่ะ

ขอแนะนำให้ลงเรือดูรอบๆตลาดก่อนเพื่อดูบรรยากาศ ค่าโดยสาร 20บาท/คนค่ะ
และหมายตาร้านอาหารที่น่าสนใจว่าอยู่ตรงไหน

หมายตาร้านนี้ก่อนคือร้านดอกไม้ชุบแป้งทอด กรอบอร่อย กะทงละ 20 บาทค่ะ
แม่ค้าที่นั่นส่วนใหญ่ก็ใส่ผ้าไทยๆค่ะ

มีการแสดงให้ดูด้วยค่ะ ก็มีภาพมาให้ดูแค่พอให้รู้สึกอยากไปเที่ยวค่ะ

ความจริงดูๆแล้วเมืองไทยเรามีอะไรดีๆอีกมากมาย ทั้งของกิน สถานที่ท่องเที่ยวล้วนดีๆทั้งนั้น ยังไม่เห็นต้องดิ้นรนไปเที่ยวต่างประเทศเลย บ้านเราเองก็ยังเที่ยวไม่หมดเลยค่ะ

ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์แล้วรู้สึกรักชาติขึ้นอีกมาก มีอะไรให้เราได้ภูมิใจมากมายแต่เรายังไม่รู้อีกมาก ก็เลยซื้อหนังสือนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา(ภาคภาษาอังกฤษค่ะ)มาอ่านให้รู้เรื่องละเอียดเวลาไปดูจะได้สนุกและน่าสนใจกว่านี้ค่ะ อ่านไว้เผื่อมีเพื่อนต่างชาติมาเที่ยวจะได้นำชมได้(วางแผนชวนเพื่อนต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยค่ะ คนไทยจะได้มีรายได้เพิ่มค่ะ ตอนนี้เราสองคนมีเวลาค่อนข้างว่างและเป็นอิสระที่จะพาเพื่อนๆเที่ยวได้ค่ะ)

ป้าจุ๋มไปวิ่งคราวนี้ ได้วิ่ง ได้ทำบุญและไปเที่ยวเผื่อทุกท่านด้วยค่ะ ขอให้สนุกและมีความสุขร่วมกันนะคะ


แรงจูงใจ…

1351 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 23 สิงหาคม 2010 เวลา 12:27 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 26591

อันเนื่องจากเมื่อหลายวันมาโน้น…น้องเบิร์ดได้ทำ “ถั่วกรอบแก้ว” ไปฝากมิตรรักแฟนเพลงที่จ.ยโสธร ในคราวที่ได้รับเชิญไปบรรยาย(เยือนถิ่นเก่า…) ป้าจุ๋มก็รู้สึกว่า อึม…ดีน๊ะ เพราะของฝากทั่วไปซื้อที่ไหนก็ได้แต่หากทำเองนี่มันเห็นความตั้งใจและเห็นคุณค่าของความตั้งใจจ้า(โดยส่วนตัว…ป้าจุ๋มคิดอย่างนั้นค่ะ)

ก็เลยเป็นที่มาของถั่วกรอบแก้วในวันนี้ค่ะ…เคยพาลูกๆทำสมัยเขายังเล็กๆค่ะ นัยว่าเป็นการเรียนวิชาการบ้านการเรือน…อิอิ ก็ทำแค่กะทะเล็กๆ พอทำเสร็จสักพักก็จะกินกันหมด ทำใหม่ๆจะหอมมากและกรอบด้วยค่ะ นี่วางมือมานับสิบปีแล้วค่ะ พอเห็นน้องเบิร์ดทำก็เกิดแรงจูงใจให้อยากลุกขึ้นมาทำอีกครั้งค่ะ แต่ก็ทำสูตรเดิมๆคือทำไม่มากค่ะ(เพราะตอนนี้ทุกคนพยายามควบคุมน้ำหนักกันค่ะ)และอีกอย่างไม่มั่นใจฝีมือตัวเองว่าจะยังคงทำได้ดีอยู่หรือเปล่าค่ะ…ผลก็ปรากฎว่ายังใช้ได้จ้า…


เริ่มจากคัดเมล็ดถั่วใหม่ๆสวยๆ จากนั้นทำตามขั้นตอนในDIYของน้องเบิร์ดค่ะ
(ป้าจุ๋มไม่ได้ใส่เนยค่ะ)


เป็นไงคะ ถั่วกรอบแก้วป้าจุ๋ม อุดมด้วยงาค่ะ

วันนี้ก็เลยมี “ถั่วกรอบแก้ว” มาฝากทุกท่านค่ะ ทั้งกรอบทั้งหอมเพราะทำใหม่ๆและยังอุดมด้วยงา(ทำเองเสียอย่าง ใส่เยอะๆเลยอร่อยดีและมีประโยชน์ด้วย สูตรนี้ทำขายไม่ได้ ทำแจกอย่างเดียวจ้า…อิอิ)


ดอกโสนบานเช้า…จริงหรือ???

5095 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 18 สิงหาคม 2010 เวลา 23:42 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 49980

เพลงดอกโสนบานเช้า ดอกสะเดาบานเย็น เป็นเพลงที่ค่อนข้างฮิตติดอันดับมานานทีเดียวค่ะ…แต่ฟังครั้งใดก็ทำให้มีหงุดหงิดเล็กๆทุกทีค่ะ…เพราะเพลงนี้แต่งไม่ตรงกับความเป็นจริง ไม่อยากให้เด็กๆหรือคนที่ไม่รู้จักธรรมชาติของดอกไม้ที่มีประโยชน์ทั้ง 2 ชนิดนี้ถูกเข้าใจผิดๆไปค่ะ…

ความจริงแล้วดอกโสนบานตอนเย็นค่ะ…บานตอนเย็นแน่ๆ และในตอนเช้าเขาจะหุบค่ะ
ส่วนดอกสะเดาแท้จริงแล้วบานในตอนเช้าค่ะ…บานตอนเช้าแน่ๆเช่นกันค่ะ

เพลงไทยมีอีกหลายเพลงแต่งเพียงให้ได้คำคล้องจองก็ว่ากันไปเรื่อย ทั้งๆที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงค่ะ

เอ…แล้ววันนี้ป้าจุ๋มเกิดอะไรขึ้น…มานั่งจับผิดคนแต่งเพลง…อิอิ
ไม่มีอะไรมากค่ะ…เนื่องจากควันหลงจากวันแม่ทำให้ป้าจุ๋มนั่งทบทวนคิดอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เราประทับใจในสิ่งที่แม่เคยทำให้เราที่เป็นลูกค่ะ…

ก็นึกได้ว่ามีครั้งหนึ่งป้าจุ๋มประทับใจมากค่ะ…คือตอนป้าจุ๋มมีอาการแพ้ท้องตอนที่กำลังจะมีลูกชายคนเล็กค่ะ คนที่เคยแพ้ท้องคงจะทราบดีว่าเวลาแพ้ท้องมันเป็นอย่างไร(สำหรับคนที่ไม่เคยแพ้ท้องก็คงจะไม่ค่อยเข้าใจค่ะ…อิอิ)

ตอนนั้นรู้สึกอยากกินขนมดอกโสนมากๆค่ะ…อยากกินมากจนกระวนกระวายค่ะ แล้วมันช่างเป็นขนมที่หากินยากเย็น แม่ค้าไม่ค่อยทำขาย…ก็เดือดร้อนแม่อีกแล้วค่ะ…มาทำให้ลูกกินค่ะ(คนแพ้ท้องเลยค่อยดีขึ้นมาหน่อยค่ะ)

เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว…ก็เลยคิดย้อนอดีต ก็ทำขนมดอกโสนกินกันเพื่อรำลึกถึงแม่ค่ะ…ก็พอไหวค่ะ ทุกคนในบ้านกินแล้วบอกอร่อยเช่นกันค่ะ

ขนมดอกโสน…เป็นขนมโบราณของไทยแท้ ที่ดี มีคุณค่าและอร่อยด้วยค่ะ

ป้าจุ๋มขอกราบคารวะครูคนแรกที่คิดทำขนมดอกโสนที่แสนอร่อยและมีคุณค่าของไทยชนิดนี้ด้วยค่ะ ป้าจุ๋มเรียนจากคุณแม่ค่ะ


ดอกโสนบานตอนเย็นจ้า…


นำมาคลุกแป้ง นึ่งแล้วโรยด้วยพร้าวขูดน้ำตาลและงาคั่วเองใหม่ๆ

เป็นไงคะ น่ากินไหมคะ ไม่เป็นไรป้าจุ๋มได้กินเผื่อพี่น้องชาวลานฯแล้วค่ะ(ทำเองกินเอง…ก็กินได้เยอะไม่ต้องซื้อค่ะ)
ไหนๆกินกันแล้วมารู้จักโสนและคุณค่าของโสนกันหน่อยนะคะ

โสนเป็นพืชล้มลุก จะออกดอกมากช่วงหน้าฝนค่ะ ดอกเขาสวยแบบน่ารักและจะมีกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆชื่นใจค่ะ
ดอกโสนนำมาประกอบเป็นอาหารได้หลายชนิดค่ะ เช่นผัดกับไข่หรือลวกแล้วราดหัวกะทิจิ้มน้ำพริกอร่อยเหาะไปเลย หรือจะนำมาทำแกงส้ม ผัดน้ำมันหอย แล้วแต่จะทำอะไรก็อร่อยค่ะ(เพราะชอบค่ะ)

นอกจากความสวย อร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณ ดอกแก้พิษร้อน ถอนพิษไข้ และยังมีคุณค่าทางโภชนาการอีกมากมายเช่นมีธาตุแคลเซี่ยมสูง ซึ่งบำรุงกระดูก ธาตุฟอสฟอรัสบำรุงกระดูกและสมอง ธาตุเหล็กบำรุงเลือด และยังมีวิตามินA วิตามินB1 วิตามินฺB2 ไนอะซิน และวิตามินCอีกด้วยค่ะ

แปลกใจที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมค่ะ เช่นขนมดอกโสนนี่ ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี ดีต่อสุขภาพด้วย แต่คนไทยยุคใหม่กลับไปนิยมขนมฝรั่ง เช่นcakeและขนมฝรั่งอื่นๆอีกที่ล้วนอุดมด้วยไขมัน ส่วนใหญ่จะเป็นไขมันที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ(Trans fat)

ดังนั้นช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ป้าจุ๋มขอแนะนำให้มากินดอกโสนค่ะ(ทั้งนำมาทำขนมและกินเป็นผักค่ะ) เพราะกำลังบานสะพรั่งสวยงามในยามเย็น(ไม่ใช่บานตอนเช้าสักหน่อย) นอกจากมีคุณค่าทางโภชนาการมากมายแล้ว ราคายังถูกหรือถ้าไปเก็บเองก็ไม่ต้องซื้อค่ะ(ประหยัดได้อีก) และที่แน่ๆคือปลอดภัยจากสารพิษแน่นอน เพราะเกิดเองตามธรรมชาติค่ะ

ขอเชิญชวนทุกท่านมากินดอกโสนของของเราดีที่ทั้งดีและราคาถูกที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งในขณะนี้ค่ะ


กำลังใจ…

314 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 17 สิงหาคม 2010 เวลา 12:54 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 8086

ในระยะนี้มักได้ข่าวถึงความอึดอัดไม่สบายใจของน้องๆที่ยังอยู่ในวัยทำงานอยู่เสมอ คนที่เคยร่วมงานวิจัยฯสนิทสนมและรักๆกันก็จะโทรศัพท์มาระบายความในใจให้ฟังเสมอ (โทรฯมาทำไมไม่รู้เพราะเราเป็นราษฎรเต็มขั้นแล้ว ช่วยอะไรใครไม่ได้เลย นอกจากรับฟังแล้วก็ปลอบใจและให้กำลังใจกันไปค่ะ)
เข้าใจว่าคงจะเครียดกันที่ต้องทั้งเร่งทำรายงาน ทำโน่นนี่สารพัด งบประมาณก็ถูกตัด ไม่ได้รับความเป็นธรรม…ปัญหามีมากมาย ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในยุคโลกาภิวัฒน์นี้…
จิตใจผู้คนเปลี่ยนแปลงไปมากมีคนเห็นแต่แก่ได้ เอาแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น…และช่วงชิงชัยชนะกัน เอาแต่พวกของตน…บางแห่งทำกันแบบขาดคุณธรรมและความยุติธรรมด้วย ก็เล่นเอาคนดีๆที่ตั้งใจทำงานทั้งหลายท้อแท้ไปก็มาก…ก็ได้แต่ภาวนาขอให้คุณพระคุ้มครองคนดีเหล่านั้นและอย่าได้ท้อแท้ค่ะ…
ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน…มีผลทำให้ต้นไม้ทั้งไม้ดอก ไม้ผล ที่บ้านป้าจุ๋มพลอยสดชื่นและแข่งกันออกดอกออกลูกกันสะพรั่ง…ยามเช้าๆ เย็นๆไปเดินดูแล้วก็ทำให้มีความสุขและชื่นใจจังเลยค่ะ(ทำให้ไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเลย)
ดอกพวงชมพูหรือฝรั่งเขาเรียกว่าดอก “Chain of Love” หรือดอก “Heart on a Chain” ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ป้าจุ๋มชอบมากๆอีกชนิดหนึ่งค่ะ…ชอบที่มีสีชมพูสวยหวาน กลีบดอกเป็นรูปหัวใจน่ารัก แถมออกดอกให้ชื่นชมได้ตลอดปีค่ะ…
ดอกพวงชมพูนี้ปลูกง่ายมาก และที่สำคัญคือกินได้ด้วยนำมาชุบแป้งทอดจิ้มน้ำพริกหรือยำก็อร่อยค่ะมีกลิ่นหอมชื่นใจค่ะ(นับว่านอกจากสวยน่ารักแล้วยังมีประโยชน์อีกด้วยค่ะ) น่าปลูกไว้ประดับบ้านค่ะ
วันนี้ป้าจุ๋มก็เลยขอส่งดอกไม้แสนรักนี้มามอบเพื่อเป็นกำลังใจแด่พี่น้องชาวลานฯทุกท่านค่ะ พิเศษแด่อุ๊ยสร้อย น้องครูอึ่ง และน้องอึ่งอ๊อบค่ะ ทราบว่ามีงานหนักหน่วงเอาการทีเดียว…
ชมแล้วชื่นใจแล้วก็ขอให้มีความสุขและมีพลังใจเต็มเปี่ยมที่จะสู้งานต่อไปค่ะ…คนดีต้องไม่ท้อแท้ค่ะ

“พวงชมพู” สีชมพูหวานกลีบดอกเป็นรูปหัวใจน่ารัก

“Chain of Love”ริมรั้วหน้าประตูทางเข้าบ้านค่ะ


ขอแถมดอกช้องแมว มะเฟือง นางพญากาหลงและดอกบานไม่รู้โรยค่ะ
ขอคุณพระคุ้มครองทุกท่านค่ะ


วันแม่…

139 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 13 สิงหาคม 2010 เวลา 23:40 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3812

วันแม่ของป้าจุ๋มปีนี้ก็ได้แต่ระลึกถึงพระคุณท่านและได้ไปทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แด่ท่าน…เพราะท่านได้จากป้าจุ๋มไปอยู่เมืองสวรรค์แล้วค่ะ
แต่ในฐานะที่ตัวเองเป็นแม่ ปีนี้ลูกไม่อยู่บ้านแม้แต่คนเดียว คนโตไปประชุมที่พัทยาของสูตินารีแพทย์ซึ่งเขาจะจัดประชุมให้ตรงกับวันแม่ทุกปีเพื่อที่ลูกๆจะได้พาแม่ไปเที่ยวด้วย…แต่ปีนี้แม่ไม่อยากไป แต่ลูกต้องไปประชุม… คนที่ 2 ก็อยู่ต่างแดน ส่วนคนที่ 3 งานเข้าพอดี ต้องไปทำงานเช่นกัน…ก็เลยอยู่กันแค่ 2 คนตากับยายค่ะ
อย่ากระนั้นเลยเราไปเที่ยวกันดีกว่า…ก็ตัดสินใจไปเดินเที่ยวกันที่สยามพารากอนกันค่ะ เพราะที่นั่นมีอะไรหลายอย่างที่น่าดู และที่พิเศษคือปีนี้มีงาน “มหัศจรรย์กล้วยไม้แห่งรักนิรันดร์” งานนี้จัดเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาส วันราชาภิเษกสมรสครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนารถค่ะ
มีการจัดซุ้มกล้วยไม้สวยงามและมีกล้วยไม้แสดงและจำหน่ายด้วยค่ะ ก็จัดว่าน่าดูทีเดียวค่ะ ป้าจุ๋มถ่ายภาพได้ไม่ค่อยสวยนัก ซุ้มกล้วยไม้ที่สวยๆบางซุ้มเจ้าของเขาห้ามถ่ายภาพค่ะ ก็ได้มาให้ดูแค่พอให้นึกภาพออกบ้างค่ะ
/>
วันนี้ได้รับมาลัยดอกมะลิวันแม่จากนางเอกของหุ่นละครเล็ก”โจหลุยส์”ด้วยค่ะ



หลังจากดูกล้วยไม้ก็ไปเข้าคิวรอกินอาหารเที่ยงวันนี้เลือกอาหารญี่ปุ่น(ร้านFuji)คิวยาวยืนคอยประมาณ 20 นาทีก็สมหวังได้ไปนั่งกินอิ่มท้องและหายเมื่อย…ก็ไปเที่ยวต่อ
ช่วงบ่ายเลือกไปที่หอศิลปและวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯมหานคร เขามีมาหลายปีแล้ว ป้าจุ๋มเพิ่งมีโอกาสไปครั้งแรก อยู่ตรงแยกปทุมวัน ใกล้ๆกันก็เดินไปนับว่าสะดวกดี ที่นั่นมีงานแสดงศิลปและวัฒนธรรม ก็น่าดูค่ะ แต่คิดว่าน่าจะทำให้ดีกว่านี้ได้ค่ะ และช่วงนี้มีการจัดนิทรรศการศิลป์เกี่ยวกับประกวดภาพถ่ายและ”ฝันถึงสันติภาพ” ซึ่งมีงานของศิลปินที่มีชื่อหลายท่านจัดแสดงให้ชม เช่นภาพของท่านอาจารย์อังคาร กัลยาณพงษ์ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี และอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และมีศิลปินอีกหลายท่านที่ฝีมือดีแต่เผอิญป้าจุ๋มไม่ค่อยรู้จักค่ะ ก็นำภาพบางส่วนมาให้ดูนิดหน่อย ท่านใดชอบก็ไปดูเองได้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่ะ

เป็นภาพที่แสดงที่นั่นค่ะ

ภาพบนขวา ของอ.ถวัลย์ ดัชนี ล่างซ้ายของอ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และล่างขวาอ.อังคารกัลยาณพงษ์
ใช้เวลาอยู่ที่นี่นานจนถึง6โมงเย็นกว่าๆ เพราะหวานใจป้าจุ๋มชอบงานศิลปมากค่ะ
เพราะเดินมากเริ่มหิวอีกค่ะ ในที่สุดมื้อเย็นก็กินอาหารญี่ปุ่นอีกค่ะ คราวนี้เปลี่ยนไปอีกร้าน(ร้านZen)ซึ่งอร่อยเหมือนกัน…อิ่ม อร่อยเช่นเคย…
วันแม่ปีนี้ก็ผ่านไปด้วยดี…มีความสุขและสนุกเช่นเคยค่ะ…


แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง…

575 ความคิดเห็น โดย ป้าจุ๋ม เมื่อ 12 สิงหาคม 2010 เวลา 10:05 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 10025

สวัสดีทุกท่านในวันแม่แห่งชาติค่ะ…
ปกติก็จะคิดถึงแม่ตลอดเวลา…แม้ท่านจะจากป้าจุ๋มไปสวรรค์แล้วก็ตามค่ะ…วันนี้เป็นวันแม่ก็ยิ่งคิดถึงค่ะ
จากการเป็นลูกและกลายมาเป็นแม่เอง…ก็เลยได้รู้ว่าการเป็นแม่ที่ดีอย่างที่แม่ได้ทำให้ดูนั้นมันไม่ง่ายเลย…
แต่ป้าจุ๋มก็ได้พยายามค่ะ…ดีไม่ดีกรรมการ(คือลูกๆจะเป็นผู้ตัดสินค่ะ)
เมื่อวันที่6-8ส.ค.ที่ผ่านมานี้ป้าจุ๋มไปหัวหินกับหวานใจค่ะ เพื่อนๆเขานัดสังสรรค์กันค่ะ เมื่อวันที่ 7 ก็ได้ไปไหว้พระกันที่วัดชื่อวัดทางสายค่ะ อยู่เลยหัวหินไปทางชุมพร(ใกล้ๆบ้านกรูดค่ะ) เป็นวัดที่ชาวบ้านบางสะพานสร้างถวายเพื่อน้อมเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต พระบรมราชีนีนารถ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เป็นวัดที่สร้างได้อย่างปราณีตและสวยงามมากอีกวัดหนึ่งค่ะ
วัดนี้ช่องกระจกภายในตกแต่งด้วยstained-glassสวยงามมากค่ะ…ซึ่งเป็นที่มาของภาพข้างล่างนี้ค่ะ…
คุณแม่กำลังนั่งกอดให้นมลูกด้วยความรักความอบอุ่น…ก็เลยนำมาฝากพี่น้องในโอกาสวันแม่แห่งชาตินี้ค่ะ…

ดูภาพนี้แล้วอยากให้ลูกๆได้ระลึกถึงพระคุณท่านค่ะ
กว่าเราจะมีชีวิตขึ้นมาได้…เราเริ่มต้นชีวิตอยู่ในท้องอันอบอุ่นของท่านเป็นเวลาถึง 9 เดือน ถ้าพิจารณาตามหลักทางวิทยาศาตร์แล้วช่วงนั้นลูกจะดูดเอาของดีๆจากท่านจนเจริญเติบโตอยู่ในท้อง…ดูดเอาของดีไม่พอ ยังถ่ายของเสียให้แม่ต้องกำจัดอีก…
มีลูกแต่ละคนร่างกายแม่ต้องทรุดโทรมไปเป็นอันมาก…
หลังจากคลอดเราออกมาก็เฝ้าประคบประหงม…ให้ความรักความอบอุ่นจนเติบโต…
แต่แม่ไม่เคยละทิ้งหน้าที่เลย…ท่านเฝ้าคอยห่วงใย ให้กำลังใจตลอด…แม้กระทั่งแต่งงานแล้วก็ยังคอยติดตามห่วงใย…ให้คำปรึกษา…เรียกว่าทำหน้าที่จนวาระสุดท้ายของชีวิตเลย…
แม่จ๋าลูกรักแม่และยังคิดถึงแม่เสมอ…ยังมีความสุขและอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้คิดถึงแม่…
ภาพของแม่ยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำของลูกเสมอค่ะ…


ป้าจุ๋มฟังเพลงนี้ทีไรอดน้ำตาไหลไม่ได้เลยค่ะ…
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันแม่ค่ะ…ท่านใดที่โชคดีคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้รักท่านให้มากๆและดูแลท่านให้ดี…อย่างน้อยวันนี้ไปกราบกอดท่านให้แน่นๆค่ะ…



Main: 0.10855293273926 sec
Sidebar: 0.046302080154419 sec