ประเทศไทยในสนามกอล์ฟ..

2 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ กรกฏาคม 8, 2012 เวลา 22:39 ในหมวดหมู่ สังคม บ้านเมือง ประชาธิปไตย #
อ่าน: 1966

การที่ผมไม่มีก๊วนกอล์ฟ มีผลดีที่ได้พบนักกอล์ฟหน้าใหม่ๆ หรือหน้าเก่าแต่ไม่เคยร่วมก๊วน เมื่อมาร่วมก๊วนก็มีโอกาสรู้จักกัน หากทุกครั้งเป็นเช่นนี้ หมายความว่าทุกครั้งเรามีคนรู้จักใหม่ๆเพิ่มขึ้น การรู้จักคนเพิ่มขึ้นทำให้เรารู้จักนิสัย และความเป็นคน..(เอาเข้านั่น..)

วันนี้เป็นอีกวันที่ออกรอบกันเพียงสองคน กับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน แรกๆก็สงวนท่าทีกัน แค่ยกมือไหว้แก่กัน ดูท่านผู้นั้นจะไม่พยายามคุย แค่มาออกกำลังกาย เพราะผมสังเกตอายุอานามก็ใกล้ๆผม เมื่อผมเริ่มเปิดความสัมพันธ์โดยการทักทายและตั้งคำถาม ท่านผู้นั้นก็เริ่มแนะนำตัว เป็นใคร ทำอะไรที่ไหน คร่าวๆแบบเราพอเข้าใจ ผมก็แนะนำตัวตามปกติ

เมื่อท่านผู้นั้นทราบว่าผมเป็นใคร ทำอะไร เท่านั้นเอง คำถามและการพูดคุยก็พรั่งพรูออกมาจนความสนใจแทบไม่ได้อยู่ที่การตีกอล์ฟ แต่เป็นสาระที่เราคุยกันมากกว่า

ท่านมีอดีตเป็นครู ลาออกมาทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ท่านสรุปตัวเองว่าประสบผลสำเร็จพอสมควร แต่ฟังท่านเล่าประสบการณ์ในวงการธุรกิจกับนักการเมืองค่ายต่างๆ กับอำนาจในวงราชการ ระบบพรรคพวก และการแสวงหาประโยชน์จากอำนาจหน้าที่ แล้วผมรู้สึกหนักมากๆ แม้ว่าเรื่องราวทำนองนี้จะรับรู้มาแล้ว แต่สิ่งที่ท่านเล่านั้น มันเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่ออกมาจากปากผู้มีส่วนได้เสีย

นักธุรกิจต้องแบกรับการยื่นโนติสผลประโยชน์จากทั้งนักการเมืองและข้าราชการที่ท่านกล่าวว่ามันหนักมากขึ้น มากขึ้น ธุรกิจท่านจะอยู่ไม่ได้หากไม่เป็นไผ่ลู่ลม แต่ก็คับแค้นในใจยิ่งนัก.. จนท่านกล่าวว่า ท่านจะจ่ายให้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น หากมากกว่านี้ก็ไม่สู้ ซึ่งท่านก็สารภาพว่า งานจำนวนมากก็หลุดมือไป

ท่านกล่าวว่านักการเมืองนั้นตัวหนักที่สุด ไม่ว่าค่ายไหนก็ตาม ที่ลอยหน้าลอยตานั้นน่ะ เบื้องหลังดูไม่ได้เลย ซึ่งชาวบ้านไม่ได้รับรู้เรื่องราวหลังความเป็นผู้มีเกียรตินั้นหรอก

ท่านเป็นห่วงบ้านเมืองว่ามันจะล่มจมเพราะความมักใหญ่ใฝ่สูงของนักการเมืองตัวพ่อคนนั้น การที่ท่านทำธุรกิจและมีเพื่อนฝูงอยู่วงในของรัฐบาลและนักการเมืองที่มักแวะเวียนไปขอรับการสนับสนุนทุนการเลือกตั้งนั้น ย่อมมีข้อมูลลึกๆมาเล่าสู่กันฟัง แม้ว่าจะไม่พิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่จริง หรือผิดเพี้ยนจากความจริง แต่ก็มีหลายอย่างบ่งบอก หรือสนับสนุนสาระที่คุยกัน

…”ผมเป็นห่วงความจริงเหล่านี้ที่ไม่มีโอกาสเปิดเผยออกมาสู่ชาวบ้านทั่วไป แล้วเขาเหล่านั้นก็กลายเป็นน้ำในภาชนะที่ตัวพ่อถือไว้ในมือ จะเอียงให้น้ำไหลไปทางไหนก็ได้ ด้วยอำนาจเงินที่ปล้นไปจากประเทศ”……

และสิ่งที่ผมห่วงที่สุดคือ ….”การเตรียมการยึดประเทศให้เบ็ดเสร็จ และเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คนไทยเคารพสูงสุด”…. นั่นคือคำกล่าวอย่างจริงจังก่อนที่ท่านจะขอตัวกลับไป

ผมยกถุงกอล์ฟขึ้นท้ายรถกลับบ้านด้วยสมองที่หนักอึ้งจริงๆ….



Main: 0.30516386032104 sec
Sidebar: 0.84478807449341 sec