วิถีปอบดงหลวง
“สมัย” เป็นเด็กหนุ่มบ้านพังแดงเรียนจบ ปวช ไฟฟ้า จากวิทยาลัยเทคนิคดงหลวงที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร เพียงเป็นสถาบันการศึกษาท้องถิ่น ค่าใช้จ่ายไม่สูงนักและอยู่ใกล้บ้าน และเป็นวิชาชีพที่เรียนจบแล้วพอหางานทำได้ พ่อแม่ทั้งหลายที่ไม่มีโอกาสเลือกมากนักก็เอาลูกมาเรียนที่นี่
โครงการเราต้องการเด็กท้องถิ่นที่จบทางไฟฟ้า หรือช่างกล มารับผิดชอบดูแลโรงสูบน้ำด้วยไฟฟ้า สมัยเป็นลูกผู้นำชุมชนและมีความรู้เข้าเกณฑ์ เราจึงไม่ลังเลที่จะเลือกเขาเข้ามาทำงาน โดยเป็นลูกจ้างราชการรายเดือน…
วันนี้เขาเดินทางมาสำนักงานในเมือง เราจึงถือโอกาสเชิญมานั่งกินกาแฟคุยกัน ผมเองยังสนใจเรื่องวิถีปอบ เพราะมีสมมุติฐานในตัวเองว่า มันเป็นสภาวการณ์ที่ครอบงำชุมชนมากน้อยแค่ไหน ชาวบ้านเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน คนเป็นปอบมีอิทธิพลมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะสภาวะที่ความเชื่อเรื่องปอบครอบงำชุมชนอยู่นี้มีผลต่อการทำงานของโครงการอย่างไรบ้าง..ฯลฯ…
แม้ว่าผมจะทราบผลมาบ้างแล้วแต่ต้องการสอบถามชาวบ้านในทุกกลุ่มวัย และในจำนวนที่มากตามโอกาสที่มี เพื่อยืนยันวิถีปอบว่า..แค่ไหน….
เชื่อครับ…ผมเชื่อและไม่กล้าลองดี และไม่มีใครจะทำเช่นนั้น สมัยเอ่ยกับผม
ถามต่อว่า มีอะไรยืนยันว่าปอบมีอิทธิพลที่ทำให้ชาวบ้านทั่วทั้งหมู่บ้านกลัวเกรง..
อาจารย์.. เมื่อเร็วๆนี้อาจารย์ก็รู้ว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งตายลงไป หมอลงบันทึกว่าเพราะกินเหล้ามากไป…แต่ชาวบ้านคุยกันและเชื่อกันว่าเพราะปอบทำให้ตาย… กินเหล้าแค่นั้นมันไม่ตายหรอก แต่เพราะคนนี้ซื้อรถแทรกเตอร์มาใหม่…..ซึ่งไม่ใช่เรื่องทั่วไปที่ใครๆจะซื้อได้..
อ้าวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับปอบ…
อาจารย์…ปอบเขาอิจฉาอะไรทำนองนั้น ใครๆก็รู้ว่าบ้านนี้อย่ามีอะไรเกินหน้า ไม่ได้… ??!! ก่อนเด็กหนุ่มคนนี้ตายมีหลายคนเห็นลูกไฟที่ใต้ถุนบ้านของเขา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่านั่นคือปอบ…
อีกตัวอย่างหนึ่ง… หลายปีผ่านมา มีเด็กหนุ่ม เปิดร้านขายของในหมู่บ้าน แต่แล้วปอบมาเข้าแล้ว “ออกปาก” ว่า อย่าเปิดร้านค้า ให้หยุด แล้วเลิกซะ เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ฟังเสียงห้ามนั้น หรือเสียงข่มขู่ของปอบนั้น ต่อมาไม่นานเด็กคนนั้นก็ผ่ายผอมลงและตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ..
ผมถามต่อว่า ..บอกได้ไหมว่ามีปอบกี่ตัว สมัยบอกว่า มีประมาณ 4-5 ตัว ในอดีตมีมากกว่านี้เยอะ และในจำนวนนี้ ตายไปแล้วสาม เหลือสอง แต่จริงน่าจะมากกว่านี้ เพราะเราไม่รู้ทั้งหมด เพราะไม่มีใครพูดกัน แต่รับรู้
ปอบกินอะไร สมัยบอกว่า กินกบกินเขียด กินสัตว์พวกนี้.. อดีตเล่าลือกันว่ามีคนเห็นปอบออกหากินเขียด พวกนี้หากินรอบๆบ้าน ถูกแล้วที่พวกไปหาของป่ากลางคืนจะไม่เข้าบ้านในช่วงเวลา 5 ทุ่มถึงตี 5 ….
ผมถามแบบฟันธงไปเลยว่า สมัยคิดว่า ความเชื่อเรื่องปอบนั้นมีผลกระทบต่องานของโครงการไหม อย่างไร.. สมัยตอบว่า มีผลแน่นอนครับ แบบว่าไม่มีใครต้องการทำอะไรให้เด่น โด่ง หรือในความหมายก็คือ พยายามทำให้สำเร็จสูงสุด เพราะกลัวว่าจะโดนปอบไม่ชอบใจที่แตกต่างจากคนอื่นๆมากเกินไป อะไรทำนองนี้..???!!!
อาจารย์เชื่อไหมว่า บ้านพังแดงนี้ไม่มีใครกล้า “ออกรถปิคอัพ” เพราะกลัว….เกรง…ไม่กล้าลอง.
อาจารย์..เดี๋ยวนี้ทราบมาว่ามีเด็กหนุ่มบางคนแอบไปเรียนวิชาปอมกันบ้างแล้ว..
เราแลกเปลี่ยนกันนานพอสมควร ผมถือโอกาสเล่าประสบการเกี่ยวกับทำนองนี้สมัยทำงานที่สะเมิง ที่สุรินทร์กับพวกราษฎรไทยเชื้อสายเขมร พักใหญ่ๆสมัยก็ลากลับดงหลวง
ปล่อยให้ผมคิดอะไรต่ออะไรไปอีกนาน ผมนึกในใจว่า ผมไม่ได้พยายามเอาเรื่องปอบมาสร้างประเด็นเลย แต่ช่วงที่ผ่านมาในระยะเวลาเพียงเดือนเศษๆ การรับรู้ของเราบอกว่า ความเชื่อเรื่องปอบส่งผลต่อการทำงานจริงๆ…
แล้วคนที่บริหารงานอยู่ข้างบนจะหัวเราะ เยาะใส่ผมไหมนี่….