วิถีปอบดงหลวง

โดย bangsai เมื่อ มิถุนายน 25, 2010 เวลา 1:12 ในหมวดหมู่ ชนบท, สังคม บ้านเมือง ประชาธิปไตย, เรื่องของชีวิต #
อ่าน: 2245

“สมัย” เป็นเด็กหนุ่มบ้านพังแดงเรียนจบ ปวช ไฟฟ้า จากวิทยาลัยเทคนิคดงหลวงที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร เพียงเป็นสถาบันการศึกษาท้องถิ่น ค่าใช้จ่ายไม่สูงนักและอยู่ใกล้บ้าน และเป็นวิชาชีพที่เรียนจบแล้วพอหางานทำได้ พ่อแม่ทั้งหลายที่ไม่มีโอกาสเลือกมากนักก็เอาลูกมาเรียนที่นี่

โครงการเราต้องการเด็กท้องถิ่นที่จบทางไฟฟ้า หรือช่างกล มารับผิดชอบดูแลโรงสูบน้ำด้วยไฟฟ้า สมัยเป็นลูกผู้นำชุมชนและมีความรู้เข้าเกณฑ์ เราจึงไม่ลังเลที่จะเลือกเขาเข้ามาทำงาน โดยเป็นลูกจ้างราชการรายเดือน…

วันนี้เขาเดินทางมาสำนักงานในเมือง เราจึงถือโอกาสเชิญมานั่งกินกาแฟคุยกัน ผมเองยังสนใจเรื่องวิถีปอบ เพราะมีสมมุติฐานในตัวเองว่า มันเป็นสภาวการณ์ที่ครอบงำชุมชนมากน้อยแค่ไหน ชาวบ้านเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน คนเป็นปอบมีอิทธิพลมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะสภาวะที่ความเชื่อเรื่องปอบครอบงำชุมชนอยู่นี้มีผลต่อการทำงานของโครงการอย่างไรบ้าง..ฯลฯ…

แม้ว่าผมจะทราบผลมาบ้างแล้วแต่ต้องการสอบถามชาวบ้านในทุกกลุ่มวัย และในจำนวนที่มากตามโอกาสที่มี เพื่อยืนยันวิถีปอบว่า..แค่ไหน….

เชื่อครับ…ผมเชื่อและไม่กล้าลองดี และไม่มีใครจะทำเช่นนั้น สมัยเอ่ยกับผม

ถามต่อว่า มีอะไรยืนยันว่าปอบมีอิทธิพลที่ทำให้ชาวบ้านทั่วทั้งหมู่บ้านกลัวเกรง..

อาจารย์.. เมื่อเร็วๆนี้อาจารย์ก็รู้ว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งตายลงไป หมอลงบันทึกว่าเพราะกินเหล้ามากไป…แต่ชาวบ้านคุยกันและเชื่อกันว่าเพราะปอบทำให้ตาย… กินเหล้าแค่นั้นมันไม่ตายหรอก แต่เพราะคนนี้ซื้อรถแทรกเตอร์มาใหม่…..ซึ่งไม่ใช่เรื่องทั่วไปที่ใครๆจะซื้อได้..

อ้าวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับปอบ…

อาจารย์…ปอบเขาอิจฉาอะไรทำนองนั้น ใครๆก็รู้ว่าบ้านนี้อย่ามีอะไรเกินหน้า ไม่ได้… ??!! ก่อนเด็กหนุ่มคนนี้ตายมีหลายคนเห็นลูกไฟที่ใต้ถุนบ้านของเขา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่านั่นคือปอบ…

อีกตัวอย่างหนึ่ง… หลายปีผ่านมา มีเด็กหนุ่ม เปิดร้านขายของในหมู่บ้าน แต่แล้วปอบมาเข้าแล้ว “ออกปาก” ว่า อย่าเปิดร้านค้า ให้หยุด แล้วเลิกซะ เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ฟังเสียงห้ามนั้น หรือเสียงข่มขู่ของปอบนั้น ต่อมาไม่นานเด็กคนนั้นก็ผ่ายผอมลงและตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ..

ผมถามต่อว่า ..บอกได้ไหมว่ามีปอบกี่ตัว สมัยบอกว่า มีประมาณ 4-5 ตัว ในอดีตมีมากกว่านี้เยอะ และในจำนวนนี้ ตายไปแล้วสาม เหลือสอง แต่จริงน่าจะมากกว่านี้ เพราะเราไม่รู้ทั้งหมด เพราะไม่มีใครพูดกัน แต่รับรู้

ปอบกินอะไร สมัยบอกว่า กินกบกินเขียด กินสัตว์พวกนี้.. อดีตเล่าลือกันว่ามีคนเห็นปอบออกหากินเขียด พวกนี้หากินรอบๆบ้าน ถูกแล้วที่พวกไปหาของป่ากลางคืนจะไม่เข้าบ้านในช่วงเวลา 5 ทุ่มถึงตี 5 ….

ผมถามแบบฟันธงไปเลยว่า สมัยคิดว่า ความเชื่อเรื่องปอบนั้นมีผลกระทบต่องานของโครงการไหม อย่างไร.. สมัยตอบว่า มีผลแน่นอนครับ แบบว่าไม่มีใครต้องการทำอะไรให้เด่น โด่ง หรือในความหมายก็คือ พยายามทำให้สำเร็จสูงสุด เพราะกลัวว่าจะโดนปอบไม่ชอบใจที่แตกต่างจากคนอื่นๆมากเกินไป อะไรทำนองนี้..???!!!

อาจารย์เชื่อไหมว่า บ้านพังแดงนี้ไม่มีใครกล้า “ออกรถปิคอัพ” เพราะกลัว….เกรง…ไม่กล้าลอง.

อาจารย์..เดี๋ยวนี้ทราบมาว่ามีเด็กหนุ่มบางคนแอบไปเรียนวิชาปอมกันบ้างแล้ว..

เราแลกเปลี่ยนกันนานพอสมควร ผมถือโอกาสเล่าประสบการเกี่ยวกับทำนองนี้สมัยทำงานที่สะเมิง ที่สุรินทร์กับพวกราษฎรไทยเชื้อสายเขมร พักใหญ่ๆสมัยก็ลากลับดงหลวง

ปล่อยให้ผมคิดอะไรต่ออะไรไปอีกนาน ผมนึกในใจว่า ผมไม่ได้พยายามเอาเรื่องปอบมาสร้างประเด็นเลย แต่ช่วงที่ผ่านมาในระยะเวลาเพียงเดือนเศษๆ การรับรู้ของเราบอกว่า ความเชื่อเรื่องปอบส่งผลต่อการทำงานจริงๆ…

แล้วคนที่บริหารงานอยู่ข้างบนจะหัวเราะ เยาะใส่ผมไหมนี่….


« « Prev : สิ่งเหนือธรรมชาติกับการทำงานพัฒนาชนบท

Next : ปายกะสอบ.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

10 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 มิถุนายน 2010 เวลา 16:51

    ใครสนใจ คืนนี้(ศุกร์ที่ 25) ที่ทีวีไทย สามทุ่มตรงนะครับ รายการคุยกับแพะ เปลี่ยนจากวันศุกร์ที่แล้วมาเป็นวันศุกร์นี้ครับ

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 มิถุนายน 2010 เวลา 19:15

    จะรอค่ะพี่บู๊ท

    ถ้าได้หมอจับปอบเก่งๆจะไหวมั้ยเนี่ย ปอบนี่คนละอย่างกับผีกะทางเหนือใช่มั้ยคะ ชักมึนกับตระกูลผีของไทย อิอิอิ

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 เวลา 10:13

    พิมพ์ไปแล้วลืม save อิอิ เอาใหม่

    มันส่งผลต่องานมากโดยเราไม่เอ๊ะใจมาก่อน เพราะลึกๆเราไม่คิดว่าจะมีผลกระทบ รับรู้ว่ามี ก็ต่างคนต่างอยู่ แสดงว่าเราไม่เข้าใจปอบแท้จริง..

    มาทบทวนดู ก็พอประเมินว่าน่าที่จะ…

    ส่งผลต่อพฤติกรรมชาวบ้าน เช่น ไม่กล้าพูดในที่ประชุม เหมือนพ่อสีลา บอกว่า อาจารย์จะเห็นว่าผมพูดน้อยมากทั้งที่อยากจะพูด เพราะเกรงปอบ…

    ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมงานพัฒนา เช่น มาวันนี้เอ๊ะใจว่า ทำไมเกษตรกรบางคนที่ก้าวมาเข้าร่วมกับเราปลูกพืช เศรษฐกิจ แบบ contract farming ทำได้สองปี ก็พอได้เงินได้ทอง แต่ปีที่สามขอหยุดทำเฉยๆ และหลายคนก็หยุดทำ.. ทำให้เรานึกไปว่า หากเด่นเกินไปเดี๋ยวผิดใจปอบ..?? เหมือนเด็กเปิดร้านขายสินค้าในบ้าน แล้วปอบมาเข้า บอกให้หยุดขาย… คงต้องหาข้อมูลต่อไป

    ส่งผลต่อหลักการพัฒนา เช่น เราสนับสนุนความเป็นอิสระทางความคิดเห็น แต่ชาวบ้านไม่กล้าพูด ไม่กล้าคิดอะไรที่แปลก เกรง กลัว ไปกระทบปอบ ….

    เหล่านี้มีผลหรือเปล่าต่อการออกไปทำงานต่างถิ่น แล้วส่งเงินมาให้บ้านใช้แบบเงียบๆ ไม่ต้องพูดกับใคร ไม่บอกใคร เงียบๆ เพราะมีน้องๆเคยบอกว่า..พี่ คนบ้านพังแดงนั้นเขามีเงินหลายคนนะ แต่ทำตัวจนๆ.. สังเกต เห็นเขาซื้อมอเตอร์ไซด์ เขาจ่ายเงินสดเลยนะ….  การทำตัวจนๆ ไม่เด่นดัง เงียบๆ เรียบๆ เพราะเกรง กลัวอิทธิพลของปอบ อันนี้ชาวบ้านพูดเอง ….

    จ๊ากสสส เป็นโจทย์ที่ยากกว่าที่เคยพบ ที่สะเมิงนั้นก็มีแต่ไม่มีอิทธิพลแบบนี้ เราก็ตายใจ ที่สุรินทร์ก็มีแต่ไม่มีอิทธิพลแบบนี้

  • #4 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 เวลา 10:45

    อ่านแล้วก็แปลกใจค่ะ…
    ทำไมปอบจึงต้องอิจฉาหรือไม่ชอบคนที่ทำตัวเด่นดัง ร่ำรวยกว่าตนเอง

    ตอนเรียนป.โท และต้องไปอยู่ในพื้นที่ภาคสนาม 1-2 เดือน พวกนักศึกษาก็จะถูกสอนให้รู้จักมีสัมมาคารวะต่อผีปู่ผีย่าของหมู่บ้าน ศาลเพียงตา จอมปลวก ต้นไม้ใหญ่ ต้องเข้าใจข้อห้าม (ขะลำต่าง ๆ) ต้องไม่ลบหลู่ เนื่องจากเป็นสัญญลักษณ์ทางจิตใจ จิตวิญญาณ และความเชื่อ เป็นจิตวิทยาความมั่นคงทางสังคมของท้องถิ่น และ “ผี” ตามทัศนะของไมเคิล ไร้ท์ (ฝรั่งคลั่งผี) ก็คือ เครื่องมือในการขับเคลื่อนกระบวนการปรับสมดุลของการอยู่ร่วมกันในสังคม ระหว่างคนด้วยกันและระหว่างคนกับธรรมชาติ

    โดยปกติหากไม่มีการทำผิดจารีตประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมา ผีก็จะไม่ทำร้ายใคร แต่…กรณีที่พี่บางทรายเล่านี้ทำให้งง ๆ ว่า เกิดอะไรขึ้นกับ “ระบบผี” ในหมู่บ้านเสียแล้วหรือ

    เสียดายที่ไม่ได้ชมรายการเมื่อคืนค่ะ

  • #5 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 เวลา 11:17

    freemind ครับ

    เราทำงานพัฒนาชนบทมาก็นาน ผ่านเรื่องพวกนี้ก็มาก เราก้พอเข้าใจระบบผี บ้าง และก็เข้าทางตรอก ออกทางประตูตลอด
    มาอยู่ดงหลวง ถาม paleeyon ซิ เราลงทุน “เข้าร่วมพิธีครอบ” ที่ชาวบ้านเสนอว่าควรจะทำสำหรับคนต่างถิ่นที่จะมาอยู่หรือมาทำงานในหมู่้บ้านนี้ ทางโครงการลงทุนจัดพิธี ก๊วบ ในกรณีงานก่อสร้างโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ที่ชาวบ้านบอกว่า จะต้องบอกกล่าวเจ้าที่ จัดงานใหญ่มากแบบที่คิดว่าหมู่บ้านนี้ไม่เคยทำมาก่อน เชิญ เจ้าโคตร ทั้งหมดมาร่วมพิธี … เพราะเราเคารพท้องถิ่น…

    สำหรับกรณี ปอบนั้น เราต้องฟังชาวบ้านมากๆว่าเขาคิดอะไร พูดอะไร บอกกล่าวกับเราอย่างไร เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เราเป็นเพียงผู้ผ่านทาง เมื่อเขาบอกเช่นนั้น เราก็งง เหมือนกัน ท่านอาจารย์ ฉลาดชาย รมิตานนท์ ผู้เคยถกกับไมเคิล ไรท์ และเป็นผู้ทำวิจัยเรื่องผีเจ้านายของเมืองเชียงใหม่ ก็สั่งสอนพี่เหมือนกันว่า ระบบผีคือระบบการควบคุมสังคมชุมชน  ใครทำผิดฮีต ผิดคอง หรือขะลำ ผีก็จะออกมากำกับ โดยลงโทษผู้กระทำผิดนั้นๆ จนต้องพึ่งหมอธรรมในหมู่้บานมาช่วยแก้ให้ ขอขมาลาโทษ แล้วผู้นั้นก็ไม่ทำอีก อยู่ในร่องรอยของ ฮีต คอง ของชุมชนต่อไป

    กรณีบ้านพังแดงที่ชาวบ้านบอกว่า พฤติกรรมของปอบนั้น ดูแปลกๆ เพราะจะแสดงอาการอิจฉา (เป็นภาษาที่สมัยกล่าว) หรือจะใช้คำไหนก็ไม่รู้แต่ความหมายก็คือ อย่าทำตัวเด่นในหมู่บ้าน ไม่ได้ จะมีอันเป็นไป  ประเด็นนี้ก็มีคำถามเยอะ เช่น ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่มีอะไรเด่นจะโดนนะครับ เพราะสังคมค่อยๆเปลี่ยน ชาวบ้านก็มีทีวี มีวิทยุ มีรถไถนา มีบ้านที่มุงกระเบื้อง ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้ก็ต้องมีคนเริ่มก่อนหลังแรก คนแรก แล้วเขาโดนปอบทำร้ายหรือเปล่า ก็ไม่เป็นเช่นนั้น  หรือว่าเขามีการทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าจึงเป็นคนแรกได้….ไม่รู้เพราะเราไม่เคยใส่ใจเรื่องนี้มาก่อน..อิอิ แค่เคารพและเดินไปตามแผนงานของโครงการที่เป็นเรื่องงานพัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์คน การอยู่รอดในสังคมทุน..ฯลฯ

    กว่าจะมาเอ๊ะใจ หรือให้น้ำหนักมากขึ้นกว่าแต่เดิมก็เกือยสายไปซะแล้วเพราะโครงการกำลังจะปิดครับ  น่าจะมีอะไรที่แตกต่างออกไปจากระบบผีที่เรารับรู้มา อย่างที่ freemind กล่าวน่ะครับ  นี่ก็เป็นประเด็นวิจัยชุมชนได้เหมือนกันนะ จะเอาไปเสนอที่ ม.อุบลฯ วันที่ 6 นี้ด้วย อิอิ

  • #6 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 เวลา 11:24

    นั่นสิคะพี่บางทราย
    น่าจะมีอะไรที่เรารับรู้จริง ๆ ด้วยค่ะ

    สนใจ ๆ ๆ จะตามอ่าน หากมีความคืบหน้าเรื่องงานวิจัย พี่อย่าลืมเขียนบันทึกให้อ่านด้วยนะคะ
    ขอบคุณค่ะ

  • #7 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 เวลา 11:25

    ขอโทษค่ะ มือไวไปหน่อย

    จะบอกว่า น่าจะมีอะไรในเรื่องผี มากกว่าที่เราได้รับรู้และเข้าใจมา
    และที่สำคัญ… คนที่อยู่ในชุมชนน่าจะบอกได้ดีที่สุดนะคะ

  • #8 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 เวลา 11:31

    ใช่แล้วครับ  พี่มีแผนในใจอยู่เหมือนกันว่าจะไปคุยกับใครบ้าง และอาจต้องทบทวนครั้งใหญ่ต่องานพัฒนาที่นี่ครับ แล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ

  • #9 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 เวลา 12:17

    มีผ้ายันต์กันผีปอบแจกไหมครับ อิ

  • #10 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มิถุนายน 2010 เวลา 14:35

    พ่อครูบาฯครับ  ชาวบ้านบอกว่า

    • คนทำดีแล้วไม่ต้องกลัวปอบ อยู่ในศีลในธรรม ปอบกลัวด้วยซ้ำไป
    • คนที่มีบารมีสูงๆ ปอบกลัว
    • ปอบจะทำกับคนที่ต่ำกว่า ว่างั้น

    รับฟังชาวบ้านไว้ก่อนครับ  แต่อย่างไรก็ตาม ถามว่ามีสิ่งที่ชาวบ้านแสวงหากันปอบมีไหม มีครับ เขาบอกว่า “แก่นงิ้วดำ” โอย แค่ต้นงิ้วยังแทบไม่เห็นเลย และ ต้นไม้ที่มีกลิ่นเหม็นเหมือนอุจจาระ ที่บ้าน ผู้นำคนหนึ่งก็ปลูกไว้ริมชายคาเลยครับ ตอนแรกกลิ่นเหม็น ผมว่า เด็กมาอึแถวนี้ หรือเปล่า ผู้นำชี้ไปที่ต้นนั้น และกำลังมีดอก เขาบอกดอกมันนั่นแหละที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์   และบอกว่านี่เป็นความเชื่อว่าป้องกันผี ปอบ เข้าบ้าน อย่างอื่นอีกจำไม่ได้ครับ..


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.66433310508728 sec
Sidebar: 0.28781509399414 sec