สะเมิง : แข่งมอเตอร์ไซด์

โดย bangsai เมื่อ ธันวาคม 31, 2008 เวลา 1:46 ในหมวดหมู่ เรื่องของชีวิต #
อ่าน: 6994

เข้าไปบันทึกของเม้งที่ http://lanpanya.com/lanaree/?p=111#comment-154 เรื่อง นวัตกรรมใหม่กับแฟนท่อมคู่กาย ทำให้ผมนึกถึงสมัยทำงานที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ปี 2518-2522 (ค่อยย้อนแนะนำพื้นที่ในบันทึกหน้านะครับ) ผมทำงานในโครงการพัฒนาชนบทสมบูรณ์แบบ (พชบ.) แถบภูเขา ที่สูงชันและเป็นลูกรัง ซึ่งมีความยากลำบากในการเดินทางทั้งฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่เราก็ต้องใช้เส้นทางนี้ เพราะหมู่บ้านต่างๆนั้นซ่อนอยู่ในภูเขาโน้น เราต้องเดินทางไปหาโดยมอเตอร์ไซด์นี่แหละ..


ฤดูฝนนั้นก็จะมีความลื่น และความชันก็ทำให้มอเตอร์ไซด์ล้มคว่ำโดยง่าย เรากล่าวกันว่า ใครขับมอเตอร์ไซด์ในสะเมิงไม่ล้มไม่มี ในฤดูนี้เรามีเครื่องมือพิเศษติดมอเตอร์ไซด์คือโซ่มัดล้อใช้ตะกุยช่วงถนนมีความลื่นมาก อีกอย่างคือไม้แคะดินออกจากล้อรถ  อิอิ… ยามเข้าฤดูแล้งก็เป็นฝุ่น เสื้อผ้า หน้าตา ผมเพ่า มีแต่ฝุ่นแดง จนหลายคนเป็นริษสีดวงตาเพราะฝุ่นเข้าตาเป็นประจำ


ยานพาหนะที่ใช้หัวหน้าใช้ปิคอัพมีเพียง 1 คัน ส่วนพนักงานใช้มอเตอร์ไซด์ สมัยนั้นที่นิยมมากก็คือ รุ่น เอนดูโล่ แรกๆเราใช้ ซูซูกิ 125 ซีซี สองจังหวะ แต่ก็ไม่ทนในสภาพภูเขา จึงเปลี่ยนมาใช้ ฮอนด้า สี่จังหวะ 100 ซีซี และท้ายที่สุดมาใช้ ฮอนด้า รุ่น Trial 125 ซีซี จำได้ว่าราคาแพงที่สุดประมาณ สามหมื่นกว่าบาท ผู้จัดการโครงการซึ่งเป็นเยอรมันมีนโยบายว่า รถมอเตอร์ไซด์นั้นหากใช้ 3 ปี ก็จะยกให้เลย.. สมัยนั้นก่อนที่จะมีสิทธิ์ใช้มอเตอร์ไซด์ พนักงานทุกคนจะต้องไปเข้ารับการฝึกอบรมการซ่อมบำรุงมอเตอร์ไซด์ก่อน และทุกคนจะต้องใช้หมวกกันน๊อก (Helmet) ใส่ถุงมือใส่เสื้อแขนยาวและรองเท้าที่หนา เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ตามหลักความปลอดภัย

ปีหนึ่ง…ทางอำเภอสะเมิงจัดงานประจำปี และจัดแข่งรถมอเตอร์ไซด์วิบาก แล้วมาเชิญพนักงานโครงการเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ผมสนใจจึงเข้าร่วมด้วย ในครั้งนั้นมีจำนวนคนเข้าร่วมประมาณ 10 กว่าคันโดยมีมืออาชีพเข้าร่วม 3 คน เขาใช้ยามาฮ่า 175 ซีซี แต่ผมและเพื่อนใช้ ฮอนดา 100 ซีซี เพราะเรามีอย่างนั้น เส้นทางที่ใช้ก็คือวิ่งไปตามถนนระหว่างตำบลรวมความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านต่างๆที่เราทำงาน เส้นทางที่ใช้ก็คือเส้นทางประจำที่ผมใช้อยู่ทุกวัน…

เส้นทางเหล่านี้เป็นไหล่เขา ที่ผมซิ่งมาประจำอยู่แล้วจึงได้เปรียบ แต่สภาพมอเตอร์ไซด์นั้นเทียบไม่ได้เลยกับมืออาชีพที่มาแข่งด้วย แต่เขาก็ไม่สามารถจะบิดได้เต็มที่เพราะเส้นทางที่เป็นไหล่เขานี่เอง หากพลาดก็ตกไปก้นเหวโน้น… และความไม่ชิดเส้นทางจึงไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่ตามสมรรถภาพมอเตอร์ไซด์ของเขาที่มีอยู่เหลือหลาย

อย่างไรก็ตามผมเองไม่เคยแข่งมาก่อนก็แหยงๆเจ้ามืออาชีพทั้งสามคน เพราะเราเห็นฝีมือที่เขาทดลองแล้ว หนาวววว แต่ก็สู้เพราะสนามคือถิ่นของเราเอง.. มอเตอร์ไซด์ของเราก็ไม่ได้ โม.. อิอิ ภาษานักรถแข่งเขาย่อมาจาก โมดิฟายหรือการปรับแต่งรถให้วิ่งเร็ว และปลอดภัยนั่นเอง ชาวบ้านก็มาเชียร์เรา เพราะเขารู้จักเรา

ผลการแข่งขัน ผมเป็นผู้เข้าเส้นชัยด้วยเวลาน้อยที่สุดจึงเป็นผู้ชนะ ได้รับถ้วยรางวัลจากท่านนายอำเภอสะเมิง และเงินอีก 3,000 บาท หลังจากนั้นก็ฉลองร่วมกับเพื่อนๆ ชาวบ้าน ข้าราชการ ผู้นำชุมชน…. หมดเงินไป 4,000 บาท อิอิ..

ในงานประจำปีของอำเภอสะเมิงนั้น ปกติก็มีการประกวดสาวงามท้องถิ่น ปีนั้นเป็นปีแรกที่มีการแข่งมอเตอร์ไซด์กัน งานประกวดสาวงามนั้นใช้การนับคะแนนจากประชาชนที่ซื้อลูกโป่งมอบให้ ก็ง่ายๆดี

จะบอกอะไร:

  • พบว่าหลักการปลอดภัยเบื้องต้นในการใช้รถมอเตอร์ไซด์นั้นเป็นสิ่งที่ดี เหมาะสม และเกิดประโยชน์จริงๆ

  • การใช้เทคโนโลยีใหม่นั้นเราควรที่จะรู้จักการบำรุงรักษาเบื้องต้นด้วย ซึ่งพบว่าแค่การบำรุงรักษาประจำตามกำหนด ช่วยให้อายุการใช้งานของมอเตอร์ไซด์ยาวขึ้น สมรรถนะดี ในมุมที่สำคัญคือช่วยการประหยัดโดยอัตโนมัติด้วย กรณีมอเตอร์ไซด์ นั้นทุกเดือน เราจะถอดโซ่รถมาต้มอ่อนๆกับน้ำมันเบรก น้ำมันจะแทรกเข้าไปตามข้อด้านในของโซ่ ตรงซี่ล้อมอเตอร์ไซด์ที่ภาษาบ้านเรียก กรรมรถนั้น ตรงที่มันไขว้กันเป็นกากะบาดนั้นเอาลวดมารัดตรงนั้นจะช่วยให้ล้อรถแข็งแรงมากขึ้น หากมีการบรรทุกก็รับน้ำหนักได้มากขึ้น เปิดห้องลูกสูบเอามาขัดเขม่าที่เกาะให้สะอาด ช่วยให้การทำงานเต็มสมรรถภาพ และอื่นๆ..

  • นโยบายการมอบมอเตอร์ไซด์ให้พนักงานหลังการใช้งานแล้วสามปี เป็นนโยบายที่ดี เพราะพนักงานทุกคนก็ดูแลรักษามอเตอร์ไซด์อย่างกับดูแลสาวๆแน่ะ..เพราะคาดหวังว่าเมื่อครบสามปีมันจะเป็นของเรา ซึ่งยังอยู่ในสภาพดี…. ก็ทำให้การทำงานราบรื่นไม่มีปัญหาเรื่องความเสียหายของรถมอเตอร์ไซด์ในการทำงาน

  • มอเตอร์ไซด์เป็นเครื่องมือการทำงาน ช่วยให้การปฏิบัติงานตามแผนงานและความรับผิดชอบมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการใช้งานตามคู่มือที่แนะนำ

  • การฉลองชัยแบบไม่บันยะบันยัง ไม่ดี ไม่ควรเอาอย่าง

(รูปเหล่านี้อายุประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว คุณภาพสีแย่ลง)

« « Prev : ปีวัวบ้า…2552…

Next : ชีวิตครอบครัวที่หายไป » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

10 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2008 เวลา 1:53

    อ้อ พี่บู๊ทเป็นเด็กแว้นมาก่อน อิอิ

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2008 เวลา 18:59

    ว้าย หล่อ สมาร์ท เท่ห์สุดฤทธิ์เลยค่ะพี่บู๊ท ขี่แอนตูโรซะด้วย อิอิอิ

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2008 เวลา 21:53

    คอน ครับ พี่เองเป็นคนชอบมอเตอร์ไซด์ เพราะคล่องตัวครับ ยิ่งเห็น คันใหญ่ๆแบบ BMW หรือ ฮาเลย์ ฯ น้ำลายหก ต้องเอาผ้าขาวม้าเช็ดทุกที ชอบๆๆ แต่ไม่มีปัญญาซื้อ…เพราะราคามันแพงกว่าเก๋งอีก..

    เวลาพี่ไปเที่ยว มักพบกลุ่ม มอเตอร์ไซด์แบบขาใหญ่ ขับกันเป็นกลุ่มใหญ่ วิ่งแซงเก๋งไปเฉยเลย……อิอิ

  • #4 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2008 เวลา 21:56

    น้องแก้มยุ้ย….

    สมัยนั้นพี่ผอม หุ่นดี ตอนนี้ดูไม่จืด อิอิ..
    สมัยนั้น สาวๆ เข้ามาใกล้ชิดหลายคน อิอิ อุ๊บ…..(เอามือปิดปาก)

    ตอนนี้เหลาเหย่…..

  • #5 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2008 เวลา 22:00

    สนับสนุนพี่เบิร์ด ว่าพีบู๊ท smart man and handsome มากๆๆ โหหล่อกินขาดคนอื่นเลย อิอิอิอิ. แต่ขำๆๆ ได้รางวัลมาสามพัน เลี้ยงสี่พัน เฮ้อ ตกลงควรดีใจหรือเสียใจดี ก๊ากกกก

  • #6 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2008 เวลา 22:11

    ห้าห้า…น้องราณี มายกพี่ให้ลอยอีกแล้ว

    ยกอย่างไรก็ไม่ลอยแล้ว เพราะลอยไม่ไหวแล้ว หนัก อิอิ

    เงินที่ได้นั้น เอามาเลี้ยงชาวบ้านหมด…
    แถมไม่พอ เพราะชาวบ้านมาเชียร์เรามาก ทั้งผู้นำและชาวบ้านทั่วไป

    ก็เป็นน้ำใจที่เขาเคยมีต่อเรา เช่นเมื่อเราตระเวนไปตามหมู่บ้าน เขาก็เชิยเรากินข้าว นอนหลับบ้านนั้นๆ รักเราเหมือนลูกหลาน เอามอเตอร์ไซด์จอดใต้ถุนบ้าน หมาเห่าโฮ่งหนึ่ง เขาก็ลงไปดู ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน เขาดูแลเราดีมากๆ

    เมื่อถึงคราวที่เราจะต้องเลี้ยงดูปูเสื่อ ก็ต้อง ไม่อั้น….
    แม้วันนี้ก็เช่นกัน พี่สามารถจะเดินทางกลับถิ่นนี้และไปนอนบ้านชาวบ้านได้โดยไม่มีการเกรงใจได้เลยทุกตำบล
    นี่คือความผูกพันที่มีต่อกันครับ

    อย่างไรก็ตาม ขอบคุณที่ชม..อิอิ..นานๆจะมีคนชม..

  • #7 Iem ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2009 เวลา 10:33

    สุดเท่ห์เลยค่ะพี่บางทราย
    ขอให้พี่และครอบครัวมีความสุขตลอดไปนะคะ

  • #8 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2009 เวลา 10:42

    ขอบคุณครับน้องอิ่ม

  • #9 aram ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 มกราคม 2009 เวลา 21:10

    มาติดตามความมันส์ในการแข่งรถของพี่ครับ เรียกว่าสุดยอด จริงๆครับ…
    ผมเคยไปแถวบ้านแม่ตะละ อ.สะเมิงครั้งนึง สิบกว่าปีที่แล้ว ขนาดว่าทางส่วนใหญ่ปูตัวหนอนบ้าง เทคอนกรีตบ้าง มีบางส่วนที่เป็นดินเละๆสุดโหดจริงๆครับ เดินยังไวกว่าเลย ..

  • #10 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 มกราคม 2009 เวลา 22:43

    เป็นพื้นที่ที่เกิดของพี่ทางการทำงานครับ น้องอาราม ยังคิดถึงสะเมิงเสมอ และพี่เองก็ยังติดต่อกับชาวบ้านบางคนอยู่ โดยเฉพาะผู้นำเก่าๆที่เคยทำงานด้วยกัน ไปเชียงใหม่ทีไรก็ต้องไปพบปะกัน เหมือนญาติครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.69061589241028 sec
Sidebar: 0.49381899833679 sec