ขอเชิญร่วมบริจาคปัญญาฝากไว้ให้ลูกหลาน
อ่าน: 1617สมัยพศ. ๒๕๔๕ ผมได้มีโอกาสนำคณบดีวิศว และ อธก.บดีจาก ตปท. ยูดังๆ หลายคนเข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการทดลองระดับปอตรีของเรา ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทันสมัยกว่าที่ม.ของพวกเขาเสียอีก ซึ่งผมว่าเขาด่านะครับ..ไม่ได้ชม เขาบอกว่าของเขาส่วนใหญ่ให้นศ. สร้างเครื่องใช้กันเองตามมีตามเกิด
ซึ่งผมเองก็เคยมีแนวคิดแบบนั้นมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ทำเสียที ผมว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่เราทำใช้เอง ทำง่ายๆ ใส่ปัญญาให้เยอะ นอกจากประหยัดเงินซื้อของหรูๆ ราคาแพงจากเมืองนอกแล้ว จนเสียดุล ยากจนยั่งยืนแล้ว มันยังช่วยฝึกให้เด็กนศ.เราคิดเป็นทำเป็นด้วย รุ่นนี้ทำทิ้งไว้ รุ่นต่อไปมาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น ก็ยิ่งพัฒนาสมองแบบก้าวหน้า
ผมลองคิดการทดลองง่ายๆ ไว้สองสามเรื่อง เช่น
- 1) การทดลองเทอร์โมไดนามิกส์ (ความร้อน) : เทียนต้มน้ำ
-เอาน้ำใส่ถ้วยเหล็กแสตนเลส สัก ¼ แก้ว ห้อยไว้กับเสา เอาเทียนจุดไฟ ไปลนก้น วัดความร้อนพร้อมจับเวลาเป็นระยะ จบ
จากนั้นคำนวณด้วยทฤษฎีว่าความร้อนน้ำเปลี่ยนต่อเวลาอย่างไร แล้วเอามาเทียบกับการวัดจริง ผลที่ต่างกันเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง จงวิจารณ์มาให้หมด …ผมรับรองว่าเพียงแค่นี้ให้เด็กมันคิดตลอดชีวิตก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ อย่าว่าแต่ป.ตรี แม้ป.เอกก็เถอะ ผมกล้าท้า
เทียนหนึ่งเล่ม น้ำอีก ¼ แก้ว ได้ปัญญามหาศาล ..ทำไมต้องไปซื้อเครื่องมือสำเร็จราคา 2 ล้านจากฝรั่งมาเรียนให้โง่ด้วย ..ยิ่งเรียนยิ่งโง่ ก็สมแล้วกับคำเสียดสีเย้ยหยันที่เขาว่ากันมา
- 2) ไดเป่าผมนศ.หญิง กะลูกปิงปอง …หลักฟิสิกส์ที่รับรองว่านศ.ป.เอก ก็ตอบไม่ถูกอีกแล้ว ถ้าเอาปิงปองไปวางปากได เอาท่อใสครอบ เป่า ลูกปองลอย สูงต่ำมากน้อย บันทึก คำนวณ เปรียบเทียบ วิจารณ์ รับรองว่าใบ้กินไปอีกเรื่อง
- 3) ขวดพลาสติกลอยน้ำ นิ้วสะกิด แล้วจดสถิติ ..จดการช่วงการแกว่งไปมา เทียบกับเวลา
- 4) ไม้เสียบไอติมวางพาดบนก้อนหินสองก้อน แล้วเอาเชือกผูกก้อนหินห้อยไว้ที่ตำแหน่งต่างๆ วัดการการโก่งของคาน เทียบกับการคำนวณทางทฤษฎี แล้ววิจารณ์ความแตกต่าง
- 5) จุดธูป แล้ววิเคราะห์ว่าทำไม ควันธูปที่ใกล้ปลายเป็นแผ่นเรียบดี แต่พอลอยสูงขึ้นกลับแตกกระจาย (ใครคิดออก รางวัลโนเบลอาจรออยู่)
- 6) น้ำร้อนจากข้อ 1 เอาตั้งทิ้งไว้กลางห้อง ความร้อนลดลงเรื่อยๆ วัดความร้อนเทียบเวลา แล้วคำนวณตามหลักวิศวะ เทียบผลคำนวณกับวัดจริง วิจารณ์ความแตกต่าง
- 7) ลูกปิงปองผูกเชือกห้อยไว้ ดึงออกจากแนวดิ่ง ปล่อยมือ บันทึกการแกว่ง จนหยุด คำนวณทฤษฎี เทียบการวัดจริง ว่ามันจะตรงกันขนาดไหน อย่างไร (ปัญหานี้ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกก็ได้แน่ แต่เอามาสอนป.ตรีแบบแสนถูก)
- ไม้ไผ่สีกัน ติดไฟได้ (ให้ลองทำดู ผมทำมาแล้ว ตอนกลับมาเมืองไทย หลังจากทำงานอยู่นาซ่า 3 ปี ปรากฏว่าเหนื่อยแฮก แต่ไฟไม่ติด ส่วนคนไทยไม่จบปอสี่เขาทำติด น่าเอาปริญญาผมไปยกให้เขา แล้วปลดผมออกไป มันน่าอายจริงๆ )
- 9) ใส่รองเท้าแตะเดินบนพื้นปูนเรียบที่แฉะน้ำสบู่ แล้วให้หาทางทำพื้นรองเท้าไม่ให้ลื่น ล้ม หัวฟาด คนแก่ตายแบบนี้มามากแล้ว …แต่นี่มันหลักการฟิสิกส์ที่แสนยาก ใครคิดออก ฉลาดมาก
- 10) ง่ามศักดิ์สิทธิ์ (divining rod) หาน้ำใต้ดินเจอได้อย่างไร ฝรั่งมันยังเอามาทำเป็นเครื่องมือหาวัตถุระเบิดขายให้ทหารไทยได้ อันละ 1 ล้านบาท ทั้งที่ลงทุน 1000 บาท นี่มันไสยศาสตร์ หรือ วิทยาศาสตร์ กันแน่
- 11) ให้ลองเป่าขลุ่ยไม้ไผ่ แล้ววิเคราะห์ว่า การปิดรูด้วยนิ้วต่างๆ ทำให้เกิดเสียงดนตรีแหลมทุ้มต่างกันได้อย่างไร จดบันทึกความยาวระหว่างทางเข้าทางออกของลม เทียบกับความแหลมทุ้มดนตรี แล้วหาทฤษฎีฟิสิกส์มาสนับสนุน
- 12) เอาเกราะไม้มาให้เคาะ บางอันเสียงก้อง บางอันแป้ก ให้วิเคราะห์หาสาเหตุ
- 13) ท่อไอเสียมอไซค์ ทำไมบางอันดัง บางอันเงียบ
- 14) ทำไมไปกรุงเทพรู้สึกร้อนมากกว่าบ้านนอก ทั้งที่อุณหภูมิเท่ากัน
- 15) ทำไมประเทศไทยวันนี้จึงด้อยพัฒนาทั้งที่บรรพชนไทยฉลาดที่สุดในโลก (คิดได้กระทั่งจรวดหลากหลาย เช่น บั้งไฟ ตะไล ที่ถ้าลูกหลานรู้จักต่อยอดให้ดี ป่านนี้เราไปดวงจันทร์ก่อนเมกาแล้ว..ปีกกังหันลมแบบไทยโบราณก็คือต้นแบบของปีกเครื่องบินเพราะใช้หลักแรงยก (lift) เหมือนกัน ..ตะบันไฟก็คือต้นแบบเครื่องยนต์ดีเซล …เครื่องหีบอ้อยก็ต้นแบบ double helical grear…เครื่องสีข้าวมือโยกก็ต้นแบบ crank mechanism..et ce tera )
…คนถามทาง (ปลายมิยอห้าสี่)