ทวงคืนผืนป่าประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 13 December 2012 เวลา 4:15 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1806

วันนี้ได้ข่าวดี ที่  นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะ เข้ายื่นขอจัดตั้งพรรค  “ทวงคืนผืนป่าประเทศไทย”   ต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

โดยการตั้งพรรคนี้ไม่หวังจะได้เสียง สส.  มาก หวังเพียงให้ได้มีสิทธิในการนำเสนอวาระต่อสังคมเท่านั้น

ผมขอปรบมือดังๆ ให้  และสัญญาว่าจะเลือกพรรคนี้หากมีการส่งสส. ลงสมัครในเขตเลือกตั้งของผม

แต่ผมติงนิดว่าชื่อพรรคมันแคบไปหน่อย  ถ้ายังทันอยู่อาจเปลี่ยนมาเป็น …พรรคทวงคืนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  (แบบนี้มันกว้างกว่าป่าเสียอีก  เช่น ป่าชายเลน  การปล่อยมลภาวะของโรงงานต่างชาติและในชาติ  การปลูกผักปลอดสารพิษ  สุขภาพของประชาชน…แบบนี้จะได้ฐานเสียงแนวร่วมมากขึ้นอักโข   พูดง่ายๆก็คือพรรคกรีน ของเยอรมันนั่นเอง)

ส่วนการทวงคืนผืนป่าที่ถุกบุกรุกนั้นผมได้ตระเวนมาหลายป่ามาก เช่น สามร้อยยอด  น้ำหนาว  วังน้ำเขียว และอื่นๆ  เห็นว่าถ้ารัฐต้องการทำจริงๆ ก็ไม่ยากเลย  เพราะยังมีประชากรไม่หนาแน่นมาก  (ฐานมวลชนที่จะมาต่อต้านน้อยมาก)  อาจมีมาตรการหนักเด็ดขาดระยะสั้นก็ได้  หรือ มาตรการผ่อนปรนระยะยาวก็ดี

มาตรการระยะยาวที่ผมได้เสนอไว้ในหลายบทความคือ  ให้ออกกฎหมายห้ามโอนถ่ายสิทธิ์ครอบครองที่ดินต่อลูกหลาน (คือให้ตายไปพร้อมเจ้าของในวันนี้)  ซึ่งลูกหลานวันนี้ก็ไม่มีใครอยากเป็นเกษตรกรอีกต่อไปแล้วด้วย   จากนั้นสร้างอุตสาหกรรมริมป่าให้ลูกหลานเขามีงานทำ  สร้างคอนโดให้อยู่ แล้วทำงานในอุตสาหกรรมริมป่านั้น

อุตสาหกรรมที่จะทำนั้นหากหาอะไรไม่ได้ก็อุตสาหกรรมป่าไม้ไงล่ะ โดยการตัดสางไม้ในป่าเดิมและที่ปลูกใหม่มาทำเฟอร์นิเจอร์ขาย  ส่งออก

ถ้าทำแบบนี้ ภายใน ๕๐ ปี ที่คนรุ่นนี้ ที่บุกรุกป่าตายหมด  เราก็ได้ผืนป่าคืน แถมคนมีงานทำ มีรายได้ดี  …ซึ่งผมได้คำนวณให้เห็นไว้แล้วว่า  อุตสาหกรรมป่าไม้นั้นถ้าทำให้ดี มีสมอง รับรองว่าได้ไร่ละล้านเป็นอย่างต่ำ  ในขณะที่ทำนาได้ไร่ละ ๕๐๐๐ เท่านั้น

ดังนั้น อย่าว่าแต่เอาผืนป่าคืนเลยครับ เราควรเอาผืนนาคืนด้วยซ้ำไป ให้เหลือที่นาพอทำกินในประเทศ โดยเลิกส่งออกข้าวกันเสียที  แล้วปลูกป่าแทนผืนนา  จากนั้นเราปลูกมันป่าให้มันพันต้นไม้ขึ้นไปก็ได้มันกินอีก ไม่มีวันอดตายหรอก  โดยผมได้คำนวณแล้วว่ามันป่าหนึ่งไร่ได้สามตันสบายๆ  ส่วนข้าวปลูกกันเหนื่อยยากแทบตายได้แค่ครึ่งตัน

…คนถางทาง (๑๒ ธค. ๕๕)



Main: 0.33917689323425 sec
Sidebar: 0.04196310043335 sec