รู้ทันลุงโฮ

3 ความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 27 June 2011 เวลา 3:49 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1695

ลุงโฮ จะเป็นคนเดียวกับ ลุงแก่งตา ในเพลงไทยดำรำพันหรือไม่ คงต้องรอผลวิจัยสักหน่อย แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตลุงโฮต่อว่า ท่านมักแต่งงานกับสาวต่างพันธุ์เพื่อเหตุผลทางการเมือง ภรรยาคนแรกของท่านเป็นหญิงจีน เพื่อนพ้องร้องด่ากันขรม แต่ท่านก็ไม่ฟัง เพราะท่านต้องการกำลังทหารจีนมาช่วยกู้ชาติ ทั้งที่ก็เกลียดจีนยังกะขี้  

 

ท่านบอกเพื่อนว่า ข้ายอมดมขี้จีนสิบปีดีกว่ากินขี้ฝรั่งเศสไปตลอดชีวิต (สุดยอดอุปมา) …แล้วท่านก็ได้กองกำลังทหารจีนมาช่วยจริง ในการรบที่เดียนเบียนฟู (เมืองแถนของไทยดำ)

 

ทหารอีกส่วนหนึ่งคือทหารไทยดำนี่เอง ..ท่านเอามาจากไหนหรือ ? ..ผมว่าเอามาจาก “เมีย” อีกแล้ว คือเมียคนที่สอง (หรืออาจที่มากกว่านั้น เพราะลุงโฮนี่เจ้าชู้เอาการทีเดียว) ที่เอาเมียเป็นคนไทยดำ ผมเดาว่า หาเมียการเมืองอีกแล้ว คือต้องการมัดใจคนไทยดำ เอามาเป็นพวกในการกู้ชาติ

 

ทำไมลุงโฮเลือกเอา เมืองแถน เป็นเมืองแรกในการรบกับฝรั่งเศส มันน่าคิดมากๆ

 

ผมเดาว่าลุงโฮไม่อาจรวมกำลังคนเวียตได้ เลยเอากำลังคนไทยดำนี่แหละมาช่วยรบ ผสมกับกำลังจีน โดยอาจปลุกระดมคนไทยดำว่ารบเอาเมืองไทยคืน อาจจะพร้อมคำสัญญาว่า ชนะแล้ว จะยกให้เป็นประเทศไทยดำไปเลยก็เป็นได้

 

และนี่คือต้นเค้าที่ผมเดาจากเนื้อเพลงไทยดำว่า “ลุงแก่งตา ท่านส่างสา บ้านเมืองไว้ให้” ถ้าลุงแก่งตา คือ ลุงโฮ แล้ว ส่างสา คือ สัญญา ก็แปลได้ว่า ลุงโฮท่านสัญญาบ้านเมืองไว้ให้  (สัญญาตอนจะเข้าตีเมืองแถนนั่นไง)

 

การรบชนะที่เดียนเบียนฟู คือ บันไดขั้นแรกที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เวียตนามได้เอกราชจากฝรั่งเศส

 

เท่ากับว่าคนไตแต้ๆที่นำเอกราชมาให้แก่เวียตนาม

 

เรื่องแบบนี้นักประวัติศาสตร์ไทยหัวทื่อคิดกันไม่ออกหรอก กลับคิดไปแต่จะยกเขมรให้เป็นขอมอยู่นั่นแหละ (เช่น ดร. ชาญวิทย์  ดร. นิธิ)

 

..คนคลำถาง (๒๗ มิย ๕๔)


คนไทยมาแต่ไหนกันแน่ (สรุปกันได้เสียทีแล้ว)

2 ความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 27 June 2011 เวลา 3:20 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1774

ไตแต้ๆ

รัฐบาลไทยสมัยก่อนเนี่ย ต้องจัดว่าง่าวแตกจริงๆ เลยนะ เขาเป็นไตแต้ๆ เรียกตัวเองก็เรียกว่า ไท (ไม่ใช่ไตด้วยซ้ำไป) เช่น ไทดำ ไทแดง ไทขาว ไทพวน ไทนุง (ในดินแดน 16 เจ้าไท) แต่พอเขามาอยู่ประเทศไทยกับไปเรียกว่า เขาว่าลาว เช่น ลาวพวน ลาวโซ่ง (ลางทรงดำ) ส่วนทางด้านเหนือก็ ไทลื้อ ไทใหญ่ (ส่วนไทยไปเรียกเขาว่าเงี้ยว)   …อ้อลืมไปตอนนั้นยังไม่เรียกตัวเองว่าไทย แต่เรียกว่า สยาม

เราเปลี่ยนชื่อสยามมาเป็น ไทยแลนด์ในสมัยจอมพลป. ผมเชื่อว่าเป็นความคิดของหลวงวิจิตรวาทการ 100%  เพราะผมเชื่อว่าคุณหลวงฯท่านต้องการรวมเผ่าไตทั้งหมดเข้าเป็นมหาประเทศ  (ท่านรักเผ่าพันธุ์ไทยเอามากๆ ทั้งที่เชื้อชาติจีน 100% ตอนเด็กๆ ชื่อกิมเซี้ยะด้วยซ้ำไป)  หลักฐานคือ ท่านแต่งนิยายอิงชนเผ่าไว้หมด เช่น ฟากฟ้าสาละวิน ดอกฟ้าจำปาศักดิ์  บัลลังก์เชียงรุ้ง (เรื่องโปรดผม) กุหลาบเมาะลำเลิง แต่ละเรื่องมักจะโยงมาให้เห็นว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน

ใช่แล้วพวกนี้แหละคือไทยแท้ ส่วนคนสยามเดิมๆนั้นผมว่า น่าเป็นขอมปนมอญซะมากกว่า ผิวคล้ำเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพวกไทนั้นมักผิวขาว 

ดังนั้นประเทศไทยเราวันนี้คือ ขอม(สยาม) ผสมกับมอญ และ ไทจากทางเหนือ

 

ที่น่าคิดคือ ด้านภาษานั้นภาษาไทยกลืนได้หมด มีภาษาขอม (ซึ่งไม่ใช่เขมรแน่นออน ) ปนแทรกเพียงเล็กน้อย ยกเว้นราชาศัพท์ที่เป็นภาษาขอมปนสันสกฤตเสียเป็นส่วนใหญ่ ภาษาไทยมีน้อยมาก

มันน่าศึกษามากว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

 

มีบางท่านสันนิษฐานต่อท้ายบทความ ขอมสยามเขมร ของผมว่า อาจเป็นเพราะว่า ภาษาไทยเรียนรู้ได้ง่าย พูดง่าย ออกเสียงง่ายกว่า พอสองภาษามาชนกัน (ขอมกับไทย) ภาษาไทยเลยชนะ ..ก็เป็นเหตุผลที่น่าฟังนะ

 

ว่ากันว่าพญามังรายา ผู้ก่อตั้งเจียงฮายและเจียงใหม่ เป็นชาวลั๊วะ คำว่าลั๊ว นี้ผมสันนิษฐานว่ามาจากคำว่า ลว (ละวะ) ก็คือพวกเดียวกับลพบุรีนี่เอง (ละพะ)  (ว กับ พ แทนกันได้ ดังที่ผมเคยอธิบายไว้แล้ว) 

ดังนั้นลั๊ว  ก็คือ ขอม นั่นเอง ครับ เพราะลพบุรีนี่แหละคือ พ่อขอมตัวจริง

 

ภาษาขอมโบราณ ก็มีภาษาไทยปนอยู่มากจริงๆ ดังเช่นที่ผมเคยนำสืบแล้วว่า ชื่อปราสาทที่นครวัดนั้น ส่วนใหญ่ชื่อเป็นภาษาไทยทั้งนั้นเลย เช่น นครวัด นาคพัน ปักษีจำกรง นครธมฺ (ภาษาบาลี อ่านว่านครธัม ไทยว่า ธม หรือนครธรรมนั่นเอง) พิมานอากาศ  บายน (ครูมอง) ตาแก้ว ตาพรหม

ฟังคนไตดำพูดให้ดีๆ แล้ว ผมว่าผมฟังคำออกยิ่งกว่าฟังคนร้อยเอ็ดกาฬิสินธุ์พูดเสียอีก ทั้งคำศัพท์และสำเนียงสอดคล้องกับภาษาไทยปัจจุบันได้มาก (ถ้าตัดศัพท์แขกออกเสียให้หมด)

…คนคลำทาง (๒๖ มิย ๕๔)


ไตอัสสัมรำพัน (๙)..ไปส่งเสด็จพพจ…ถึงลุ่มน้ำโลหิต

ไม่มีความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 26 June 2011 เวลา 1:40 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1505

 

http://www.youtube.com/watch?v=YsAO-Td5VQs

 

เพื่อนรุ่นพี่ผมว่า คนไทยในอัสสัมนั้นไปส่งเสด็จพระพุทธเจ้า (ซึ่งเป็นไต) เข้าสู่อินเดีย

ไทคำตี่ ยังอยู่กันเต็มที่ลุ่มน้ำโลหิต สวยหลายๆ


ไตใหญ่รำพัน (๘) …สงสัยว่ารำมาจากดอยไตแลงที่พม่ายิงปืนใหญ่ถล่มประจำ

7 ความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 26 June 2011 เวลา 12:46 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1436

ไทยใหญ่ก็รำพันกะเขาด้วย

http://www.youtube.com/watch?v=BWq145S9Ksg&feature=related

นอกจากภาษาแล้ว คนไตยังมีการรำนี่แหละ ที่เหมือนกันทุกเผ่า การวาดแขน เตะขา มันเหมือนกันมากๆ


ไทพวนรำพัน (๗)..ไตพวนไตดำปี่น่องกันเด๊อ

4 ความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 26 June 2011 เวลา 12:23 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1846

http://www.youtube.com/watch?v=I_wgiM23uZE&feature=related

ไทพวนมาจาก เมืองพวน และ เชียงขวาง (พระยอดเมืองขวาง เจ้าเมืองคำม่วน) …ร่วมรบกับไอ้เศษฝรั่งมาโชคเลือดไตเราเด๊อปี่น้องเด๊อ …อย่าชุ่ย แล้วลืมบรรพชนกันง่ายๆ ไม่งั้นสิ้นจ้าดเด๊อปี่น้องเด๊อ


ไทโง่รำพัน (๖)…เพลงแบบนี้ก็มีด้วย

1 ความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 26 June 2011 เวลา 12:00 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1344

โหลดช้าหน่อย ทนนะ รับรองคุ้ม

http://www.youtube.com/watch?v=dAwXg5xIaRY&feature=related 


ไทยโง่รำพัน-๕..โฮจิมินห์=ลุงแก่งตา?

2 ความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 25 June 2011 เวลา 3:53 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2554

ลุงแก่งตา ได้ส่างสา บ้านเมืองไว้ให้

โหย..วลีนี้ยิ่งสนุกโหดตี้ซุด  ต้องมีคนบ้าโง่บิ่นอย่างผมนี่แหละมาตีแตกให้แหลกลาน

 

 

ถามว่าลุงแก่งตา คือใคร?  ผมเดาว่า เป็นคนเดียวกับ ลุงโฮ (จิมินห์)

 

เตลิดบ้า(และบิ่น) ไปได้ปานนั้นเลยหนอเรา …

 

ลุงโฮ มีเมียเป็นคนไทยดำ ที่เดียนเบียนฟู  และลุงโฮมาอยู่ที่หนองคาย และเดียนเบียนฟูหลายปี

 

เมียไทยดำคนนี้ชื่อ Do Thi lac  มีลูกกับลุงโฮเมื่อปี คศ 1954 ปีที่เกิดสงครามเดียนเบียนฟู พอดี เป็นสงครามครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกที่คนผิว “ไม่ขาว” ชนะคน “ผิวขาว”  จนนำสู่อิสระของเวียตนามในที่สุด ผ่านข้อตกลงที่เจนีวา …ทหารที่เข้าร่วมรบนั้น ส่วนใหญ่ เป็น “คนไต”

 

จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม “ลุงแก่งตา” จะได้ “ส่างสา”  บ้านเมืองไว้ให้   …แต่แล้วลุงแก่งตา ก็ไม่รักษาสัญญา ปล่อยให้ น้ำตาไตไหล มาจนวันนี้

 

อันว่าลุงแก่งตานี้ ตะแกเป็นวีรบุรุษเวียต แต่ลึกๆ แล้ว ลองไปค้นดู เป็นคนทรยศ ต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์มหาศาล เช่น ไปให้เบาะแสต่อตำรวจฝรั่งเศส ให้จับผู้นำคอมมิวนิสต์ ที่เป็นกลุ่มคู่แข่งกับตน (นอกจากขจัดคู่แข่งแล้ว ยังได้ต่อที่สอง คือเงินรางวัลนำจับมหาศาล …แล้วลุงก็มาอ้างภายหลังว่า ไม่ได้ทรยศ แต่เป็นอุบายที่ต้องการให้ปชช.เวียตลุกฮือมาต่อต้านฝรั่งเศสต่างหาก (จากการที่จับขวัญใจเขาเข้าคุก)   และยังต้องการเงินเอาไปขับเคลื่อนอุดมการณ์อีกด้วย …โห..คิดไหลได้แบบงี้ทักกี้แห่งตัยแลนด์เราอายม้วนเลยนะ)

 

…สมัยก่อนนั้น พี่โฮอยู่ปารีส คุณพี่แกก็เป็นนักเขียนให้นิตยสาร แกโด่งดังมากในงานเขียนหนึ่งที่เขียนด่านักข่าวกีฬาคนหนึ่งที่ไม่รักฝรั่งเศสอย่างคลั่งไคล้แบบแก   ประเด็นคือ-หมอนั่นไปใช้ภาษาฝรั่งเศสปนอังกฤษ ..น้าโฮแกเก่งภาษามาก แกคิดศัพท์ใหม่ว่าไอ้คนนี้มันเป็นชาว  Franglais (ฝรั่งกริด)  …แกคิดคำได้เก๋จริงๆ พับผ่า

 

ไอ้คนนี้มันไปใช้คำอังกฤษปนฝรั่งเศส เช่น คำว่า le manager …le round … le knock out (สงสัยว่าคงเป็นนักข่าวพากย์กีฬามวย นักมวยอังกริดคงต่อยกับฝรั่งเศส เลือดรักชาติเลยพล่านไปได้ปานนั้น) ….คิดเชื่อมไปก็น่าคิดว่า  คนบ้ารักฝรั่งเศสปานนั้น ..ฝรั่งที่มันมาย่ำยีขี่กดคนบ้านเองทั้งชาติ ยังไปเทิดทูนมันปานนั้น .. ..แล้วตอนหลังมาอ้างว่ารักชาติ ..นี่แสดงว่ากะล่อนใช้ได้เลยนะลุง

 

เล่ห์กระเท่ลุงนี่สุดยอด หนามยอกหนามบ่งนี้ไม่มีใครเกิน (ความกะล่อนใช้ให้เป็นประโยชน์) ..เช่น คราวหนึ่ง เจียงไคเช็ก เลิกสนับสนุนเวียตนาม ตามคำร้องขอของฝรั่งเศส เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ในเซี่ยงไฮ้ (อ้าว..ไอ้เอี้ยเศษฝรั่งเนี่ย..แมร่งตะกละกินไกลถึงเชียงไฮเลยหรือ)

 

ลุงโฮแกช้ำใจมาก ที่เพื่อนเจียงทรยศ  แต่เลยฉวยโอกาสนั้นบุกเข้ายึดเมืองพรมแดนจีนที่ฝรั่งเศสครองอยู่  เพราะฝรั่งเศสก็ไม่กล้าตีคืน กลัวผิดใจจีน จีนก็ไม่กล้าตีคืนกลัวผิดใจฝรั่งเศสที่เพิ่งจูบปากกันที่เจียงไฮ …ได้ใจจริงๆ ลุงโฮ

 

ลูกชายลุงโฮ จากสาวไทดำ เกิดคศ. 1954 เป็นพี่ข้าน้อยปีเดียว บัดนี้อยู่ไหน ผมว่าถ้ายังไม่ตายต้องพูดไตปร๋อแน่ๆ  น่าเอามายกให้เป็น นายกฯไทยในพศ.นี้

 

โฮจิมินห์ ….หัวใจหมิ่น

 

..คนคลำทาง (ปลายมิย ๒๕๕๔)


ไทยโง่รำพัน-๔..ขอโทษคนไตดำทั้งโลกเด๊

ไม่มีความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 25 June 2011 เวลา 3:04 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1571

โง่จริงๆ ขอโทษด้วย ที่โพสต์ไปว่าเพลงนี้ แต่งคำร้องทำนอง และร้องโดย ก.วิเสด แท้จริงแล้วแต่งโดยคนอื่น ที่มีฉายาว่า หมีดำ บัดนี้ลี้ภัยอยู่เมกา

 

ส่วนก.วิเสส (ด) นั้นเป็นผู้ร้องเท่านั้น

 

แถมร้องวัยหนุ่มกับวัยแก่ก็ต่างกันเสียอีก เช่น วัยหนุ่มร้องว่า “สูเจ้าเซินลา”   บัดนี้แก่แล้วกลับร้องออกเสียงว่า “ปู่เจ้าเซินลา” หน้าตาเฉย…แสดงว่า มันมีอะไรซ่อนอยู่มากหลายในเพลงนี้ ที่แม้คนร้องเองยังไม่เข้าใจนัยยะแห่งเพลง ที่แฝงนัยยะทางประวัติศาสตร์ไว้อย่างล้ำลึก (ต้องให้ศ. เซเดย์มาแกะ แบบหลักศิลาจารึกไทยในที่สุดอีกแล้วกระมัง)

 

และเพิ่งรู้ด้วยว่าเพลงนี้เป็นเพลง ดำ (black list) ของรัฐบวมลาวสมัยโน้น (เข้าใจว่าพี่เวียตขอมา)

 

พี่เวียตเขาเก่ง ตีความได้ไกลเหลือ ส่วนไทยเราวันนี้ เพลง ลาวดวงเดือน พม่ารำขวาน มอญอ้อยอิง ญวนย่าเหล แขกต่อยหม้อ ยังไม่ห้ามเลย  ห้าฮ่า๕


ไทยโง่รำพัน-๓…สูเจ้าเปิ้นว่า (๕5ฮี่)

2 ความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 25 June 2011 เวลา 2:29 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2252

สิบห้าปี ที่ไตดำเฮา เสียดายเด (เดินกันไป)
เมืองเฮาเพ แสนเสียดาย สูเจ้าเพิ่นหล้า

โหย..วลีนี้ยิ่งสนุกโหดมาก ต้องมีคนบ้าโง่บิ่นอย่างผมนี่แหละมาตีจนแผ่ให้ฟังกัน

 

เวอร์ชั่นเพลงต่างๆ ในวลีนี้ต่างกันมากที่สุด บ้างว่า สูเจ้าเซิ่นลา  บ้างว่า.สูเจาสอนลา  บ้างเตลิดไปเป็น.สูเจ้าเปิ้นว่า  (แปลเป็นคำไตล้านนาได้เลยว่า คนเขาก็ว่ากันแบบนั้น)

 

แต่กระผม (หรือ ขยม.. แห่งภาษาขอมใต้) ขอกระเซ้าว่า..บ่แมนเด๊อเอื้อย   วลีที่ใกล้เคียงที่สุด น่าเป็น สูเจาเซินลา (ซึ่งไปฟังเสียงร้องเดิมก็ใกล้เคียงมากที่สุดเสียด้วย)

 

คิดไปมาหลายตลบ อ๋อ….ที่แท้มันคือ “สู่..เจาสอนลา”  นี่เอง

 

ไปค้นเพิ่ม..พบว่า คนไตดำที่เป็นพลเมืองหลักของเดียนเบียนฟูนั้น (เมืองพระยาแถน) พอเกิดสงครามเวียตกับเศษฝรั่ง ก็อพยพหนีความรุนแรงงี่เง่าไปยังเมือง “สอนลา”  (SonLa)

 

แต่ช้าก่อน..เมืองนี้ถ้าค้นให้ดีๆ บางครั้งก็เรียกว่า เจาสอนลา (ChaoSonla)

 

น่าเป็นคำไตเดิมว่า เป็นเมืองที่ เจ้า ชื่อเซินลา มาสร้างไว้

 

เพลงภาษาเวียตนามร้องชมความงามของ เจาสอนลา ก็ยังมี และร้องเป็นคำไตแทรกอยู่มากมายอีกด้วย

 http://www.youtube.com/watch?v=HSQkUQ_rYGM&feature=related

ลองฟังดูนะ..ฟังภาษาไทยที่แทรกอยู่ออกไหม

 

 ..คนคลำทาง (ปลายมิยอพอศอห้าสี่ที่ห่างเมืองแถนมาสองพันกอมอ)


ไทยโง่รำพัน-๒…เสีย “ดายเด”

ไม่มีความคิดเห็น โดย withwit เมื่อ 25 June 2011 เวลา 2:14 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1405

สิบห้าปี ที่ไตดำเฮา เสียดายเด (เดินกันไป)
เมืองเฮาเพ แสนเสียดาย สูเจ้าเพิ่นหล้า

 

วลี “เสียดายเด”  ผมเองก็ฟังกรอกหูมาแต่เด็กวัย ๑๓ ผ่าน ๓๑ ผ่าน ๕๑ ก็คิดโง่มาได้หลายสิบปีว่ามันคือ .. เสียดาย …คำไทย ต่อด้วย เด๊ คำลาว (แปลว่า แหมเสียดายจริงๆ..เลยว่ะ)

 

แต่วันนี้ผมเชื่อว่า เสีย คำไต ส่วน ดายเด เป็นชื่อเมือง หรือ ความหมายอื่น ๆ แต่ยังไงรวมกันทั้งสามคำแล้ว ไม่ใช่ เสียดายเหลือหลาย แน่ๆ

 

ยิ่งต่อด้วย เมืองเฮาเพ ก็ยิ่งใช่ ..ถามว่าตอนนี้ “เฮาเพ” อยู่ที่ไหน ใครรู้บ้าง

 

 



Main: 0.060281991958618 sec
Sidebar: 0.0089280605316162 sec