เกือบได้กลับไปนอนสวนป่าอีกคืน

โดย สาวตา เมื่อ 15 พฤษภาคม 2010 เวลา 23:16 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, สวนป่า, สังคม, เล่าสู่กันฟัง, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 1227

หลังจากครูออตตรวจการบ้าน  ก็ถึงคิวพี่ตึ๋ง พี่ตึ๋งเข้ามาแลกเปลี่ยนเรื่องเทคโนโลยีด้านไอทีเล็กน้อยแล้วโยนไมค์ให้อาจารย์โสรีช์ว่าต่อ อาจารย์รับไมค์แล้วกลับส่งต่อให้ฉัน ฉันหันหน้าไปมองอาจารย์เป็นเชิงถาม จะให้พูดจริงอ่ะ ตัดสินใจรับไมค์แล้วพาตัวลงไปนั่งลงข้างหน้าน้องๆกลุ่มมกรา

ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะมาเป็นครู  มาสวนป่าคราวนี้ตั้งใจแค่มาพบมาเจอน้องพี่ที่อยากเจอนิ รับไมค์มาก็คิดไปพลาง พูดอะไรๆ

พอคิดเร็วก็พูดออกมาเร็วอย่างที่คิด  จะพูดอะไรดีอ่ะ ตัดสินใจเร็ว งั้นชวนคุยดีกว่า บอกกับน้องๆว่า คืนนี้ต้องอำลากันแล้ว จะเดินทางกลับไปเรียน ถือว่าตัวเองโชคดีที่ได้มา และได้พบกับครูดี ที่มาแค่อยากมาพบกับน้องครูอึ่งและคนอื่นๆ  ขอบคุณน้องอึ่งที่ทำให้พบเรื่องดีๆ

ในความเหมือนมีความต่างและในความต่างมีความเหมือน นี่คือมุมบวกที่ครูสอนให้มองความหลากหลายให้เป็น

บอกขอบคุณอาจารย์ บอกอาจารย์ว่าชื่นชมกับความเป็นครูที่อาจารย์ทำให้เห็นมาตลอด ๒ วัน ตอบแทนคุณด้วยการบอกว่าเรียนรู้อะไร ขอบคุณที่ชี้และย้ำให้มองมุมเหมือน เมื่อเห็นความหลากหลาย

จำได้ว่าชวนให้น้องๆเห็นตัวเองว่าเป็นหมอรักษาสังคม จำได้ว่าพูดแลกเปลี่ยนยาว พูดออกไปสดๆจากความรู้สึกนึกคิดในตอนนั้น จำไม่ได้ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง แต่พูดรู้เรื่องนะ

จำได้ว่าชวนน้องๆใ้ห้เห็นความสำคัญของการรู้ทันตัวเอง ชวนให้มองว่าจินตนาการของตนเองนำไปสู่มุมลบหากไม่รู้ทัน ชวนให้มองและใช้จินตนาการในเชิงบวก ให้จินตนาการเป็นเครื่องมือเปิดทางเลือก แล้วก็จบค่ะ

เมื่อคืนไมค์ให้อาจารย์  อาจารย์ก็บอกให้ผู้คนบ้านมกรานั่งล้อมวงรอบๆตัวฉัน แล้วพลันเสียงเพลงที่อบอุ่นก็ดังขึ้นจากปากทุกคน อาจารย์ดีดกีร์ต้าให้จังหวะคลอไปด้วย แวบแรกที่สัมผัสความหมายที่ซ่อนในเพลงฉันน้ำตาซึมค่ะ

อยู่ที่ตัวเราเองให้โอกาสกับตัวเองทำให้วันธรรมดาๆเป็นวันพิเศษที่เพิ่มความมีชีวาให้ตัวเองหรือเปล่าเนอะ…เนอะ…เนอะ..เน้อ

ในตอนนั้นไม่กล้าเงยหน้ามองหน้าใครเลย กลัวน้ำไหลล้นตาออกมาค่ะ  รู้ตัวว่าใช้พลังมากปรามไม่ให้น้ำไหลออกตาอยู่พักหนึ่งค่ะ จนกระทั่งมีแว๊บเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า “รู้อารมณ์ตัวเองหรือเปล่ารู้สึกอย่างไร” ความคิดมาช่วยนำให้สนใจค้นหาอารมณ์ค่ะ เพิ่งเข้าใจว่ามันเป็นความรู้สึกอาวรณ์เมื่อมาเขียนบันทึกนี้แหละค่ะ  อารมณ์นี้มักเิกิดเสมอเมื่อถึงเวลาแยกจากพี่น้องชาวเฮ คงเป็นความผูกพันเนอะ

ไม่กล้าเงยหน้าอยู่นาน ยิ่งเงยหน้าขึ้นมาพบรอยยิ้มตรงหน้า ยิ่งรับรู้สัมผัสจับต้องตัวจากผู้คนตรงหน้า ก็รู้ตัวว่าไม่พร้อมที่จะจากไป จนมีเสียงดังขึ้นว่า  เฮ้ย ผู้คนตรงหน้าเขากำลังมอบสิ่งมีค่าให้ เป็นยังงี้ได้ไง สติจึงคืนมาแล้วก็กล้าเงยหน้าขึ้นมองทุกๆคน

มองไปรอบตัวก็เห็นผู้คนบ้านมกรา ตั้งอกตั้งใจส่งใจและความวางใจมาให้กับฉัน อุ่นกับพลังชีวิตที่ได้มอบให้จนยิ้มได้  น้องครูอึ่งเข้ามาบอกขอกอดพี่หน่อย อ้อมกอดอุ่นๆประคองกันและกันไว้เนิ่นนาน

รู้สึกว่านั่งเป็นไข่แดงแล้วเห็นหน้าทุกคนไม่ถนัด เขียนที่อยู่ให้น้องเอกแล้ว ฉันก็เบี่ยงตัวไปนั่งใกล้น้องมืด ทีนี้ก็ได้เห็นหน้าของทุกๆคนพร้อมๆกัน นั่งฟังเพลงจนอิ่มอุ่นทีเดียวละค่ะ

ขอบคุณที่ชวนให้ลองเป็นเด็กอีกครั้งนะคะครูออต

เพลงหลายเพลงที่ร้องนั้นไพเราะมาก น้องมืดกระซิบบอกว่า อาจารย์โสรีช์เป็นคนแต่ง เพลงเหล่านี้เป็นสื่อเชื่อมใจร้อยรัดผู้คนในกลุ่มบ้านมกราเข้าด้วยกันจากรุ่นสู่รุ่นเห็นประจักษ์เลยค่ะ

ระหว่างที่เพลงยังไม่จบ  ฉันเห็นน้าเดินไปเดินมาพร้อมเป้ที่หลัง แว่วเสียงมาว่าน้าจะกลับแล้วก็งงนะ น้าเปลี่ยนใจจะกลับด้วยกันตั้งกะเมื่อไร ไม่เห็นบอกกัน จนกระทั่งได้ยินแว่วๆว่าิน้าอยากเป็นไข่แดงมั่ง จึงรู้ว่าเป็นมุขอ้อนของน้านี่เอง

เห็นเวลา ๔ ทุ่มแล้ว คิดว่าน่าเดินทางแล้วหละ จึงเริ่มมองหาว่าใครกันแน่ที่จะไปส่ง จนได้ยินว่าคนหัวโตอาสาไปส่ง น้าอึ่งไปด้วย ฉันจึงเข้าไปหยิบกระเป๋าในห้อง เจอป้านายนอนหลับอยู่ ป้านายหูไวได้ยินเสียงประตูเปิดก็ตื่นขึ้น เมื่อป้านายบอกว่าจะไปส่งด้วยก็งงค่ะ งงเพราะมีหลายคนมาบอกว่าจะไปส่งค่ะ

ได้กระเป๋าก็ออกมาบอกลาอาจารย์โสรีช์และกลุ่มบ้านมกรา บอกลาพ่อครู พี่ตึ๋ง และใครอีกหลายคน แล้วเดินมาหน้าบ้านบอกลาแม่หวี  ตกลงคนหัวโตใช้สิทธิไปส่ง มีพี่ตึ๋งกับน้าอึ่งไปเป็นเพื่อน เส้นทางวิ่งตอนกลางคืนมืดอยู่มาก แต่สงสัยคนหัวโตขับจนชินทางแล้ว เลยขับสบาย

ระหว่างทางนึกได้ว่าไม่ได้ลาป้าจุ๋ม โทรกลับไปเพื่อบอกลาก็ไม่ได้พูดกัน แต่ก็ได้ลากันเมื่อป้าจุ๋มโทรมาหาก่อนถึงบุรีรัมย์ค่ะ

ถึงสถานีขนส่งบุรีรัมย์เกิน ๕ ทุ่มครึ่ง คนหัวโตจอดรถหน้าบริษัท เอาของลง พาตัวลงแล้วร่ำลาพี่ตึ๋งตามธรรมเนียม

น้าซึ่งรับฝากจากน้องครูปูให้ซื้อตั๋วกลับให้ด้วย เดินไปที่ช่องขายตั๋ว คุยซักถามกันเป็นครู่ ฉันจึงรู้ว่า ที่แท้รถคันว่างที่เห็นจอดอยู่ชานชาลาตอนเลี้ยวรถเข้ามาเป็นคันสุดท้ายที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯในคืนนี้ เอะใจกับเวลาเดินทางของตัวเอง จึงดึงตั๋วที่อยู่ในกระเป๋าออกมาดู

อ้าววววววววววววววว ตายละ เขาเขียนไว้ว่า ๐.๑๐ น. นี่นา เกือบไปแล้ว เกือบได้กลับไปนอนสวนป่าอีกคืนแล้ว…อิอิ

พอน้ารู้ว่าฉันดูเวลาเดินทางผิดก็หัวเราะชอบใจแซวว่า พี่หมอตั้งใจจะมาให้ไม่ทันหรือเปล่าค่ะนี่ จากนั้นก็ร่ำลากัน แล้ว ๓ คนก็จากไป

มีความลับมาบอกให้ว่า เดี๋ยวนี้คนหัวโตเขาเก่งยอมให้กอดลาแบบไม่ขัดเขินแล้วนะคะ

ขอบคุณกับการดูแลทุกๆเรื่องที่มอบให้…..ทุกคราที่ได้อยู่ใกล้ๆ….รู้สึกถึงความมีชีวาที่ฟื้นขึ้นในตัวค่ะ

ขึ้นรถแล้วก็รีบนอน  ถึงกรุงเทพฯเวลาตี ๕ กำลังนอนสบาย ถึงโรงแรมที่พักตี ๕ ครึ่งนอนต่อ ตื่นเมื่อมีคนโทรมาถามว่าจะไปด้วยกันไหม

เข้าไปเรียนที่สถาบันพระปกเกล้าในตอนเช้าก็ได้พบเรื่องราวที่ตื่นตาตื่นใจ หมดชั่วโมงเรียนแล้ว ก็เดินทางต่อกลับบ้าน

ถึงบ้าน ๖ โมงเย็น คุณสามีมารับและบอกว่า หลายชายพาครอบครัวมาเที่ยวบ้านพ่อ เข้าบ้านได้สักครู่ หลานชายก็พาครอบครัวมาหา มีลูกสาวตัวน้อยๆมาด้วย ชื่อน่ารักเชียว “แสนดี”

รู้สึกแก่แฮะเมื่อหลานชายแนะนำให้ลูกสาวเรียกฉันว่าย่า

ก็นับว่าวันนี้เป็นวันธรรมดาที่มีเรื่องพิเศษๆเกิดขึ้นกับตัวเองหลายเรื่องทีเดียวเชียว

ขอบคุณทุกๆคนค่ะที่ช่วยเติมพลังให้

มีความสุขใจและอุ่นใจในระหว่างการมาเยือนสวนป่าครั้งนี้เหมือนทุกครั้งที่ได้มาค่ะ

๗-๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓

« « Prev : ก็อยากให้เห็น…อยากให้รักนี่

Next : ครูชวนให้ทำต่อ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2010 เวลา 0:04

    ผมน่ะแทบตายกับมุกสะพายเป้อยากเป็นไข่แดงครับ

  • #2 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2010 เวลา 13:32

    หือ….โดนมุขปังตอสวนกลับหรือเปล่า..เลยแทบตายอ่ะ

  • #3 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 พฤษภาคม 2010 เวลา 23:32

    วันนั้นป้าจุ๋มก็ใจเย็นเห็นบอกว่ารถออกตี1 และวันนั้นมอมแมมมาก…ป้าจุ๋มก็เลยรีบขึ้นไปอาบน้ำก่อน…เพื่อให้หอมๆจะได้กอดถนัดใจ แต่พออาบน้ำเสร็จลงมา ก็พบว่าคลาดกันนิดเดียวเลยอดกอดเลย ไม่เป็นไรฝากกอดก็ได้น๊ะ ฟังรายการเดินทางแล้วเหนื่อยแทน อย่างไรก็อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยค่ะ 


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.076575040817261 sec
Sidebar: 0.34647989273071 sec