จะยุ่งเหมือนลิงแก้แหมั๊ยนี่
สิ่งที่ตาเห็นในวันที่พบว่าน้ำเจิ่งล้นคูอีกครั้ง พาใจกระหวัดไปนึกเห็นภาพของพฤติกรรมบางอย่างของแม่ค้า ความเชื่อบางอย่างทำให้กลับหลังหันไปชวนร้านที่รู้ว่าเป็นต้นน้ำให้เดินมาเห็นด้วยตาพร้อมกัน
เมื่อเดินกลับไปพร้อมกันแล้วคุยกันต่อ ชวนกันไล่เรียงเรื่องราวว่าอะไรเป็นเหตุนำให้เกิดได้ วิเคราะห์เรื่องของการใช้น้ำหมัก ทวนย้อนกลับจนพบว่าจำนวนน้ำหมักที่ใช้ในร้านนั้นน้อยไปสำหรับการละลายไขมันที่ปล่อยทิ้งซึ่งมีจำนวนมาก มีการใช้น้ำที่มากจริงๆแต่ก็ร้านเดียวไม่น่าจะทำให้น้ำล้นบ่อได้
สรุปกันได้ว่าจำนวนน้ำหมักที่ใช้ในร้านนั้น จำเป็นต้องมีใช้วันละ ๑๐ ลิตร จึงจะช่วยให้น้ำที่ไหลทิ้งลดไขมันลงได้มากๆและลดการใช้น้ำได้อีก ตกลงใจว่าควรขยายน้ำหมักหมักแบบเป็นรุ่นลูกเพื่อให้มีน้ำหมักเพียงพอสำหรับใช้งาน (ของเดิมที่ใช้อยู่เป็นรุ่นหัวเชื้อไม่ผสมน้ำ)
หลังจากนั้น แม่ค้าก็ตามลงมาที่บ่ออีก คราวนี้ได้เรื่องของการจัดการบ่อในอดีตถอดออกมาเล่าสู่กันฟัง เรื่องราวที่ได้ยินพาเอะใจ “หรือว่ามีอะไรเกี่ยวพันกับโครงสร้างของบ่อที่ยังไม่รู้กันนะ”
ความอยากรู้ทำให้ชวนกันลองดูสักตั้ง ลูกชายโทนของแม่ค้าตอบแทนคุณแม่ด้วยการช่วยตักไขมันที่เห็นล้นบ่อขึ้นมาใส่กล่องโฟมทิ้งไว้ให้ ช่วยวิดน้ำจากอีกบ่อให้ลดลงเพื่อให้มีพื้นที่รับน้ำเพิ่ม ระหว่างการตักก็ช่วยกันสังเกตความสัมพันธ์กันของระดับน้ำในบ่อดักไขมันที่อยู่ใกล้กันกับตัวมัน
การลองวิดน้ำทิ้งในครั้งนี้ ให้ข้อมูลว่า ๒ บ่อนี้ทำงานสัมพันธ์กันไม่ราบรื่นเท่าไร บ่อหนึ่งดูเหมือนจะนอกใจอีกบ่อหนึ่งยังไงยังงั้น นอกใจไปมีความสัมพันธ์กับบ่ออื่นๆรับน้ำมาเฉยเลย เป็นไปได้ไง
เมื่อเห็นความสัมพันธ์ของบ่อด้วยตาจะจะกันแล้ว วันรุ่งขึ้นก็ชวนกันมาค้นหาสาเหตุที่เกี่ยวกับบ่อที่เหลืออีก ๒ บ่อต่อไป
งานสูบบ่อได้กำเนิดขึ้นในช่วงย่ำค่ำของวันรุ่งขึ้นโดยแม่ค้า หนุ่มก่อสร้าง และฉันเองรวมเป็น ๓ ประสานทำงานร่วมกัน การตัดสินใจเกิดขึ้นเมื่อมาเห็นพร้อมกันในตอนเช้าว่า บ่อทุกบ่อเริ่มจะมีน้ำล้นออกจากขอบบ่อหรือไม่ก็น้ำท่วมรูท่อ รื้อดูหน่อยวันทำงานที่กำลังจะมาถึงจะได้ลงมือแก้ไขได้เลย
บอกตัวเองในใจเมื่อเห็นว่า อืม นี่ไงหนังเรื่องจริงที่ทำให้เกิดสลัมในพื้นที่นี้ โชคดีจริงๆที่ไม่ได้เดินหน้าต่อเรื่องถมทราย และปรับพื้นที่ให้สวย
ชวนกันทวนความจำประวัติศาสตร์การก่อสร้าง การใช้สอยและแก้ปัญหาของบ่อเหล่านี้ตั้งแต่เปิดใช้กันอีกครั้ง ช่วยกันคิดไล่เรียงความสัมพันธ์ระหว่างต้นน้ำกับปลายน้ำในหลายแง่มุมเพื่อสร้างความกระจ่าง ชวนแม่ค้าที่เป็นต้นน้ำหรือคาดว่าจะเป็นต้นน้ำมาร่วมยืนยันประสบการณ์ของตนที่ผ่านมาว่าเคยเห็นอะไร เคยเจอเหตุการณ์ทำนองไหนเกิดขึ้นที่บ่อบ้าง ร่วมคิดร่วมไล่เรียงจากความทรงจำของแม่ค้าทุกคนจนได้สมมติฐานการทำงานของบ่อไว้ท้าพิสูจน์
จากนั้นตัดสินใจค้นหาข้อมูลยืนยันสมมติฐาน ตัดสินใจร่วมกันหาไดรโวมาดูดน้ำจากบ่อทิ้ง ได้ไดรโวจากหนุ่มก่อสร้างชาวอีสานมาช่วยไว้ สูบน้ำไป ร่วมกันสังเกตไปจนมืดค่ำกว่า ๒ ทุ่มจึงได้เลิกรากลับบ้าน
จบลงด้วยข้อมูลว่า ๔ บ่อที่รับน้ำทิ้งนั้นมีบ่อหนึ่งเป็นบ่อกลางรับน้ำได้จากทุกบ่อ หากว่าระดับน้ำในบ่อของมันเองสูงขึ้น การเทน้ำให้บ่ออื่นก็เกิดขึ้นได้ด้วย น้ำทุกบ่อถ่ายเทไปหากันได้โดยไม่ไหลออกจากบ่อด้วยนะ
วิีธีคิดที่ทำให้เกิดบ่อและท่อที่เห็นอยู่นั้นมาจากฐานคิดอย่างไรไม่มีใครรู้
ได้เห็นกับตาว่่า ๒ บ่อมีรูเชื่อมถึงกันได้อยู่กลางบ่อ และรูนี้คือรูซึ่งเชื่อมน้ำ ๔ บ่อให้ไหลไปปนกันได้
ความเมตตาของหนุ่มก่อสร้างชาวอีสาน ๒ คนที่เข้ามาทำงานสร้างตึกอยู่แท้ๆเลย ที่ทำให้ได้คำตอบนี้มา
ขอบคุณคนอีสานในความมีน้ำใจอย่างยิ่ง แค่คนแก่ ๒ คน(แม่ค้า) ไปขอความช่วยเหลือ ชายหนุ่ม ๒ คนแทบไม่คิดเลย รับคำและมาทำให้ในทันที
นี่แหละความดีที่ยังคงมีซ่อนอยู่ในทุกๆที่ของเมืองไทย
สิ่งที่เห็นพาโจทย์มาติดข้องไว้่ในหัวมากมาย จะทำอะไรให้ง่ายๆเพื่อแก้ปัญหาตรงนี้ได้บ้างหว่า รื้อต่อไปจะเจออะไรอีกหว่า รื้อไปแล้วจะต้องลงมือก่อสร้างอะไรใหม่บ้างหรือเปล่านะ จะลงมือก่อสร้างจะหาใครมาทำให้ได้เร็วนะ คนงานร.พ.ก็ติดงานบนตึกคนไข้กันไปหมด แล้วจะทำได้ยังไง ฯลฯ
แล้วความคิดที่ผุดขึ้นมาก็ทำให้ขยาดไม่เบากับการเดินหน้างานต่อ
แต่แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดค้าน “บะแหล่ว ถ้าไม่แก้ รื้อไว้ค้างคาเดี๋ยวก็แย่ซิ ๒-๓ วันน้ำก็ท่วมใต้บ้านได้อีกแหละนะ ทำยังไงๆๆๆๆๆ” คิดจนเหนื่อยใจไปเลย
สุดท้ายลงตัวกับการตัดสินใจ มีทางออกน่า ลองอย่างนี้ดูก่อน “รื้อก้นบ่อดูก่อนว่าบ่อทำงานตามหลักคิดของบ่อดักไขมันหรือเปล่า แล้วค่อยว่ากัน”
วันเปิดทำงานจึงตั้งหลัก เดินไปหาหัวหน้าช่างแล้วปรึกษา บอกกับเขาไปว่า “จะัตักรื้อไขมันในบ่อขึ้นมาถมถนนที่เป็นหลุมบ่อ ขอทรายถมทับบนหน่อย” หัวหน้าช่างและบรรดาช่างก็ดีใจหาย ช่วยกันออกความเห็นจนลงตัวเรื่องวัสดุถมถนน บ่ายวันเดียวกันทั้งหินทั้งทรายก็กองรออยู่ข้างบ่อเรียบร้อยโรงเรียนลิง
รุ่งเช้าอีกวัน ฉันจึงขอความช่วยเหลือจากลูกน้องในฝ่ายให้ติดต่ออาสาสมัครกลุ่มที่เคยมาช่วยรื้อความรกอีกสักหน เมื่อได้วันแน่นอนที่อาสาสมัครจะมาทำงานให้ ฉันผ่องถ่ายให้ลูกน้องคนหนึ่งลงไปนัดหมายแม่ค้าเรื่องเตรียมการสถานที่
พอถึงเวลาแห่งการรื้อบ่อ พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย แดดร้อนเปรี้ยงๆ วิดน้ำออกจนแห้งก็พบมีกองทรายลึกขนาดศอกอยู่ที่ก้นบ่อดักไขมัน และบ่อข้างๆ ผนังกั้นสำหรับให้น้ำมีโอกาสแยกตัวจากไขมันที่ลอยตัวบนผิวน้ำมีช่องว่างที่สูงจากก้นบ่อมากไป
กลิ่นทรายที่รื้อขึ้นมาฟุ้งตลบ ในวันนี้อาสาสมัครทำงานทั้งวันก็รื้อทรายยังไม่หมด นัดกันว่าวันจันทร์จะกลับมาช่วยรื้อต่อให้ใหม่
การรื้อบ่อที่ยังไม่เสร็จให้คำตอบว่าองค์ประกอบบางส่วนของบ่อดักไขมันผิดหลักของการทำงานดักไขมัน
ได้คำตอบความสัมพันธ์ของท่อน้ำทิ้งกับรูบ่อ ได้เห็นว่าระบบท่อที่วางไว้ซับซ้อนอย่างยิ่ง
การแก้ไขให้ง่ายที่สุดต้องรู้ความสัมพันธ์ของน้ำที่ไหลกับท่อทุกท่อ รูระบายทุกรูทั้งในระหว่างบ่อ ระหว่างท่อ และคูนอกบ่อ
ก่อนกลับบ้านฉันแวะไปดูสภาพบ่ออีกครั้ง ตามไล่ดูความสัมพันธ์ของต้นน้ำกับปลายน้ำของทุกท่อ ทุกรูน้ำไหลอีกครั้งหนึ่ง ก็พบว่าีมีบ่อเล็กๆอีกบ่อที่สามารถนำน้ำเข้าไปในบ่อเดิมได้ด้วย เฮ้อ ปวดหัวจริงๆ มิน่าเล่าระบบท่อตรงจุดนี้จึงยุ่งเหยิงซะจริง
กลับมาบ้านทั้งลูกชายและคนข้างกายไปรู้ข่าวมาจากใครไม่รู้ จึงโดนแซวไม่เลิก “ไปลอกท่อมาอีกแล้ว ใช่ไหมแม่” ตอบรับแล้วก็คิดต่อ ทำยังไงดีๆๆๆๆ จึงจะแก้เรื่องต้นตอได้ง่ายๆ
สรุปว่าจะตั้งโจทย์หาคำตอบต่อไปอย่างไม่รีบร้อน ได้สมมติฐานของคำตอบหลายเรื่องที่ควรลองทีละโจทย์ แต่ว่าสัปดาห์หน้า์ี่ฉันจะไม่อยูในร.พ.ทั้งสัปดาห์ เรื่องราวก็อยู่ในระหว่างกำลังเดินเรื่องของมันไปแบบคาใจที่อยากรู้
ด้วยเงื่อนไขเวลา จึงตัดสินใจจะมอบงานให้ลูกจ้างในฝ่ายช่วยหาคำตอบระหว่างที่ไม่อยู่ จึงชวนให้เธอไปดูบ่อในวันนี้ด้วยกัน
สอนเธอให้เข้าใจหลักการทำงานของบ่อไขมันด้วยภาพที่หามาได้จากอาจารย์กู แล้วพาไปดูของจริง ดูของจริงแล้วก็ชวนให้เธอเล่าความเข้าใจระหว่างบ่อที่เห็นจริงกับสิ่งที่เห็นในรูปจากอาจารย์กู จนแน่ใจว่าเธอเข้าใจหลักการทำงานของบ่อไขมันแล้ว และเข้าใจความต่างในบ่อไขมันของจริงที่เห็นแล้ว จึงทวนความเข้าใจให้ตรงกันว่าฉันกำลังหาคำตอบเรื่องอะไรอยู่ก่อนมอบงานหาคำตอบให้เธอทำแทน
เฮ้อ เจอเรื่องหินและปูนที่หินจริงๆ
๖ มีนาคม ๒๕๕๓
บันทึกอื่น :
๑. ๑๔ วันผ่านไป….ได้อะไรเป็นผลความคืบหน้ากับการปรับภูมิทัศน์แล้ว
๓. ทำไม่เหมือนเดิมให้ผลเหมือนเดิม…แปลว่ายังทำเหมือนเดิมกับเรื่องสำคัญ???
« « Prev : เดือนที่ ๒ ของปีใหม่ผ่านไปแล้ว
Next : ทำไม่เหมือนเดิมให้ผลเหมือนเดิม…แปลว่ายังทำเหมือนเดิมกับเรื่องสำคัญ??? » »
ความคิดเห็นสำหรับ "จะยุ่งเหมือนลิงแก้แหมั๊ยนี่"