๑๔ วันผ่านไป….ได้อะไรเป็นผลความคืบหน้ากับการปรับภูมิทัศน์แล้ว

โดย สาวตา เมื่อ 30 มกราคม 2010 เวลา 23:16 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 2193

วันนี้มาทบทวนความทรงจำว่าเจออะไรบ้างกับการลงมือทำงานกู้สลัมให้กลับมาดูดี เริ่มต้นจากตรงนี้เป็นโจทย์

เปลี่ยนผ่านการแก้โจทย์มาเรื่อยๆก็ได้อย่างนี้ทีละขั้นที ละตอน แก้ด้วยฐานกายไปก่อน ใส่แรงงานคนลงไปโกยๆๆๆขึ้นมาอย่างนี้ แต่การแก้โจทย์อย่างนี้ชะลอปัญหาได้แค่ ๒-๓ วันคูก็จะเริ่มเต็มใหม่  ด้วยเพียงแค่วันเดียวไขมันก็ปาเข้าไปหนึ่งในสามของคูแล้ว

ค้นหาภูมิปัญญาจากชาวบ้าน แล้วก็ได้น้ำหมักชีวภาพมาใช้แก้โจทย์ต่อ จัดการกับต้นน้ำยังไม่ได้ทั้งหมด ก็จัดการกับบางส่วนที่เกี่ยวข้องไปพลางๆ ด้วยวิธีนี้  ใช้น้ำหมักชีวภาพเช็ดคราบจานชามก่อนล้างสบู่ทำให้ไขมันที่ปนในน้ำล้างซึ่งเป็นต้นน้ำลดจำนวนลง

เริ่มลงมือทีละร้าน แล้วก็ได้ใจแม่ค้า แม่ค้า่เต็มใจใช้น้ำหมักเพื่อลดไขมันที่ติดเป็นคราบอยู่ตามภาชนะทั้งหลาย จนมาถึงวันนี้ร้านค้าทั้ง ๘ ร้านเริ่มใช้น้ำหมักเพื่อจัดการคราบคาวคราบมันกันแล้วทุกร้าน แถมด้วยพวกเขาสมัครใจจะทำน้ำหมักชีวภาพขึ้นใช้เองด้วย น้ำหมักชีวภาพรุ่นแรกที่พวกเขาหมักด้วยกันเริ่มนำออกมาใช้งานครั้งแรกในวันนี้

ในระหว่างค้นหาปัญหาของต้นน้ำที่มีความสำคัญ ร้านไหนที่สามารถทำให้คูเต็มเร็วบ้าง  ก็คอยเติมน้ำหมักลงคูผสมกับปลายน้ำในช่วงที่มีการปรุงอาหารเยอะๆบ่อยๆ เริ่มใช้น้ำหมักวันละ ๑๐ ลิตรหยดใส่คู ได้คูสะอาดกว่าเดิมคืนมาให้ ได้กากไขมันที่ไม่ทำให้คูเต็มเป็นผล

ความรกที่มีอยู่ก่อนหน้าและภาพสลัมที่มีน้ำขังเจิ่งนองอยู่เดิมตลอดเวลาอย่างที่เห็นในภาพข้างล่างเริ่มหายไปจากสายตา

พื้นที่โดยรอบถูกปรับเตียนราบ กลายมาเป็นภาพของการกำลังปรับพื้นที่เพื่อใช้สอยแทน พื้นใต้บ้านที่เป็นสลัมน้ำขังเจิ่งนองแห้งลงจนสามารถปรับใช้พื้นที่ได้กว่าครึ่งแล้ว  การสะสางขยะที่วางทิ้งไว้เกลื่อนใต้ความรกให้คืนมาซึ่งไม้มะขามป้อมต้นใหญ่ไม่น้อยไว้ใช้สอยทำสวนได้จำนวนหนึ่ง

ระหว่างรื้อคนงานได้อาหารโปรดของชาวอีสานตัวเบ้อเร่อ เป็นแมงป่องสีดำเป็นมันปลาบหลายตัวทีเดียว  ร้านแม้ค้าที่หลังร้านตรงกับพื้นที่ที่รื้อ ตื่นตัวขึ้นและจัดเก็บหลังร้านของตัวเองซะใหม่ ได้ยินว่าไม่กี่วันก่อนหน้านี้เจองูในร้าน โชคดีจริงที่ไม่มีใครเป็นอะไรจากสัตว์ที่คนกลัวความร้าย

แถมได้คืนส่วนของบ่อดักไขมันที่ไม่ส่งกลิ่นเหม็นอีกต่อไปแล้ว  บ่อที่แห้งและดูเต็มเริ่มมีพื้นที่ใช้สอยสำหรับการรองรับไขมันที่ไหลลงมาจากส่วนของครัวต้นน้ำ น้ำหมักซึ่งหยดไว้ในช่วงปลายน้ำจากครัวเล็กน้อยไหลลงมาถึงบ่อดักด้วยจึงได้ช่วยย่อยสลายให้พื้นที่ว่างของบ่อคืนมาให้  พื้นที่โดยรอบของบ่อไขมันสองตำแหน่งของซีกนี้พร้อมสำหรับการปรับเป็นพื้นที่สีเขียวที่สวยงามแล้ว

ส่วนคูน้ำในซีกของอีกร้านที่มีน้ำขังตลอดเวลา ได้ปรับแต่งแบบง่ายโดยสะกัดปูนให้มีร่องน้ำไหล ช่วยระบายให้น้ำไขมันที่ขังไหลลงผ่านไปโดยง่าย ไม่ขังอยู่ให้ดูไม่สะอาดตาเหมือนเช่นเคยได้แล้วในบางเวลา

ส่วนหลังร้านที่เคยมีน้ำไขมันขังตัวไว้เพราะความลาดของคูเปลี่ยนแปลงจากไขมันเกาะตัวบนผิวคู ได้ปรับใหม่เติมพื้นเพื่อลดปัญหาน้ำไขมันไหลออกนอกเส้นทางและไว้แยกแยะต้นน้ำที่ปล่อยไขมันลงมาในระดับต่างกันของสองร้านใหญ่

เจอเรื่องราวว่าเหตุที่ทำให้พื้นของคูอยู่ในระนาบสูงต่ำไม่เท่ากันเกิดจากตะกรันไขมันก่อตัวอยู่เป็นระยะๆ และมีสาเหตุที่ทำให้ไขมันไหลลงไปเกลื่อนจนทำให้เกิดสลัมเพราะฝีมือคนนี่เอง ก็แม่ครัวเล่นล้างกระทะที่มีเศษอาหารอยู่มากมายแล้วเทลงท่อที่ใช้ทิ้งน้ำจนทำให้ท่อตันซะนี่ พอท่อตันก็แอบตัดท่อเดิมทิ้งแล้วต่อท่อใหม่ลงคูที่ทำไว้รับน้ำฝนเอาเองอย่างนี้นี่เอง

เฮ้อ ปัญหาตรงจุดนี้ยากจริงๆเชียว คงจะไม่สามารถจัดการให้เรียบร้อยได้ทันเวลาที่เหลือหนึ่งสัปดาห์แน่นอน จึงทำแค่จัดการเศษอาหารไม่ให้เกลื่อนเต็มคูโดยใช้วิธีสวมถุงให้ท่อด้วยตาข่ายสีฟ้าที่น้องสาวแนะนำมานั่นแหละ สวมถุงแล้วได้ผลตรงที่ทำให้แม่ค้าเริ่มสังเกตเห็นผลงานตัวเองแล้วว่าท่อตันนั้นเกิดจากฝีมือตัวเองมิใช่จากคนก่อสร้างแต่อย่างใดเลย เธอบอกว่าต้องถอดถุงทิ้งกากอาหารที่ดักได้วันละสองสามรอบทีเดียวเชียว เพียงคำพูดที่ได้ยินรำพึงออกจากปากว่า “อืม เศษอาหารที่ลงจากหน้าเตามานี่เองที่ทำให้ท่อตัน” ของเธอ ฉันก็ดีใจแล้วว่าฉันได้ก้าวไปข้างหน้าในเรื่องการทำให้เกิดความเข้าใจของแม่ค้าอีกก้าวแล้ว

๒ สัปดาห์ทำงานก้าวมาถึงแค่นี้แล้วพอใจแล้วค่ะ เหลือเวลาอีกสัปดาห์ก็จะเป็นการเล่นและลองแก้ปัญหาท่อตัน การจัดการไขมันที่ทิ้งจากหน้าเตา และเก็บๆส่วนต่างๆที่สามารถเก็บให้เรียบร้อยขึ้นโดยง่ายภายในอาคารดูค่ะ

ส่วนในเรื่องของการปรับภูมิทัศน์ของพื้นที่รอบนอกที่ปรับรอไว้ วันจันทร์นี้ก็คงได้ส่งมอบต่อให้กับงานบริหารต่อได้แล้ว(มั๊ง)  ก็เจ้านายให้สิทธิมาแค่ทำงาน 5ส. เท่านั้นนี่นา เรื่องจัดการกับโครงสร้างมิได้มอบให้มา

บันทึกอื่น :

1. ไม่รู้อะไรก็ลองๆๆด้วยความรู้เท่าที่มี…หยุดรอตรงที่ความรู้คลุมเครือ..ก่อนเดินต่อ

2.  เจอตอ

« « Prev : ไม่รู้อะไรก็ลองๆๆด้วยความรู้เท่าที่มี…หยุดรอตรงที่ความรู้คลุมเครือ..ก่อนเดินต่อ

Next : เผลอแพล๊บเดียว ๑ เดือนก็ผ่านไปแล้ว » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 มกราคม 2010 เวลา 10:05

    สลัมบรรเจิดก็คราวนี้แหละ

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 มกราคม 2010 เวลา 10:22

    ติดตามเงียบ ๆ มาตลอดและดีใจที่เห็นความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนนะคะ เท่าที่เห็นพบสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ในเรื่องร้านอาหารคือ
    1. พี่ตาได้ใจแม่ค้าและทำให้เห็นเป็นรูปธรรมได้แล้วว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้นส่วนนี้สามารถใช้การควบคุมเข้าไปช่วยได้แล้วค่ะ
    1.1 ตรวจภาชนะที่สัมผัสอาหารเช่นเขียง จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำโดยใช้ชุดตรวจอย่างง่ายที่ใช้ทดสอบความสะอาดของภาชนะที่สัมผัสอาหารและมือ เพื่อบันทึกผลเริ่มแรกไว้
    1.2 ช่วยปรับปรุงอย่างเช่นการล้าง เท่าที่เบิร์ดเห็นมีทั้งอ่างล้างจานและกะละมังล้าง รวมทั้งภาชนะใส่เศษอาหาร ถ้าจะใช้ภาพที่เบิร์ดส่งไปให้ดู พี่ตาลองปรับให้เป็นถุงในถังใส่เศษอาหารได้นะคะ โดยเย็บเป็นถุงให้ยาวกว่าความสูงของถังหน่อยเพื่อพับปากถุงคลุมปากถังไว้เหมือนเวลาเราใช้ถุงก๊อบแก๊บหรือถุงดำใส่ในถังขยะน่ะค่ะ เพื่อแยกเศษอาหารเอามาทำน้ำหมัก ในขณะเดียวกันน้ำที่อยู่ในเศษอาหารจะถูก Drain ลงไปในส่วนล่างของถังทำให้ไม่มีกลิ่นบูด (อาหารจะบูดเมื่อมีน้ำเป็นหลัก) ถ้าเป็นไปได้อาจเจาะถังส่วนล่างให้น้ำไหลลงท่อระบายน้ำได้โดยตรง (ถ้ามีท่อเปิดอยู่ในบริเวณล้าง) แต่ถ้าถังใส่เศษอาหารอยู่ข้างเตาก็ไม่ควรเจาะก้นถังค่ะ ในโรงครัวใช้วิธีเจาะด้านล่างแล้วใส่ก็อกเพื่อปิด-เปิดให้น้ำในส่วนล่างของถังไหลลงท่อได้โดยตรง ช่วยลดกลิ่นของอาหารบูดลงได้เยอะค่ะ

    วิธีนี้สามารถใช้ในถังหมักได้ด้วยนะคะ เพื่อความสะดวกในการยกเศษอาหารออกจากถังน้ำหมักเมื่อได้ที่แล้วโดยไม่ต้องตักมากรองเอาแต่น้ำหมักอีกครั้ง

    ส่วนขั้นตอนการล้างเมื่อมีการตรวจภาชนะเพื่อเก็บผลไว้ ก็จะถึงการสอนการล้างให้ถูกต้อง ซึ่งฝ่ายโภชนาการน่าจะช่วยพี่ตาได้ค่ะ ส่วนนี้เป็นการพัฒนาบุคลากรของเรา+ผู้ประกอบการด้วยนะคะเนี่ย ^ ^

    1.3 ตรวจเป็นระยะตามมาตรฐานสุขาภิบาลอาหารเพื่อออกป้ายรับรอง อันนี้จะเป็นรางวัลสำหรับคนทำดีค่ะ รวมทั้งเชิญให้ไปพูดในการประชุมของรพ.หรือเมื่อมีผู้มาเยี่ยมประเมิน เพื่อเปิดเวทีให้เค้าได้พูดในสิ่งที่เค้าทำ ที่รพ.ใช้วิธีนี้กับการถ่ายทำวีซีดีสัมภาษณ์ผู้กิน สัมภาษณ์ผู้ประกอบการ หลังได้รับความร่วมมือแล้วน่ะค่ะ

    2. จากภาพที่เห็นหลังร้านค้า ทำให้อยากทราบว่ามีบ่อดักไขมันสำหรับร้านค้าหรือเปล่าคะพี่ตา

  • #3 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 มกราคม 2010 เวลา 12:24

    #1  พ่อครูค่ะ รอเวลาของช่วงวันจันทร์ว่าเจ้านายเขายังจะให้ช่วยดูแลตรงนี้ต่อหรือเปล่าค่ะ คิดไว้ว่าจะลองใช้ไอเดียพ่อครู ขุดรูไม้ที่เห็นเป็นท่อนใหญ่ๆปลูกสวนครัว ทำอ่างบัว ปลูกไม้ประดับทีไม่ต้องใช้เวลาดูแลมากไว้บริเวณนี้  โดยคร่าวๆได้พูดคุยกับแม่ค้าเขาไว้แล้วค่ะ

  • #4 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 มกราคม 2010 เวลา 12:37

    #2  น้องน้อยเอย ขอบคุณนะน้องที่เข้ามาช่วยใ้ห้ความเห็น พี่วางแผนเรื่องการปรับพฤติกรรมคนเอาไว้แบบรอให้เขาให้ใจแล้วเต็มใจทำ มากกว่าการลงมือควบคุมเขาค่ะ ก็เลยชอบที่จะค่อยๆทำไปทีละนิด ปล่อยเวลาให้เขาได้มีเวลาวิเคราะห์ไตร่ตรองใคร่ครวญตัวเองจนสุดท้ายเหลือแต่ คนที่แน่ใจว่า “ต้อง” สั่งแน่แล้ว เมื่อนั้นก็จะลงมือสั่งและควบคุมค่ะ ชอบทำงานอย่างนี้มากกว่าจ๊ะน้องจ๋า 

    ทั้งหมดที่น้องบอกแนะมานั้นคาดว่าจะเป็นไปอยู่แล้ว แต่ก็รอจังหวะสำหรับให้พวกเขาตัดสินใจลงมือกันเองดีกว่าเพื่อให้การพัฒนานี้ ยั่งยืนค่ะ  ซึ่งจะทำให้งานการที่รับผิดชอบอยู่ไม่เหนื่อย โดยเฉพาะเหนื่อยใจนะน้องนะ 

    พี่ตัดสินใจจะเดินไปพร้อมๆกับพวกเขาทั้งที่เรารู้ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นล่วงหน้า แล้วให้โอกาสพวกเขามีประสบการณ์เรียนรู้ด้วยตัวเองนี่แหละดีนักสำหรับการพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชน เหตุผลที่พี่ทำอย่างนี้ด้วยพี่เชื่อว่าผู้คนมีความรู้สามัญในตัวสำหรับการตัดสินใจเป้าหมายไม่ต่างจากเรา  เมื่อเขาตัดสินใจในเรื่องที่เราต้องการแล้วเมื่อไรเมื่อนั้นก็ลงมือหนุนให้ทำแบบตามน้ำง่ายกว่าเยอะเลยน้องเอ๋ย ไม่เปลืองพลังไม่เหนื่อยใจเท่ากับการลงมือควบคุมเมื่อเขาไม่ทำตามที่เราสั่ง

    เรื่องเย็บถุงหรือเย็บอะไรต่ออะไรอย่างที่แนะนำนั้น แม่ค้าเขาตัดสินใจลงมือเองแล้ว  ในบางเรื่องพี่แค่ลงมือทำให้ดูเพื่อให้เขาได้เห็นกับตาเขาเอง  คอยชะลอควบคุมจังหวะลงมือของเขาให้เราตามทันความคิดของเขาเพื่อป้องกันการล้ำหน้าลงมือให้เราตามไม่ทันจนต้องเข้ามาแก้ปัญหาอีก ซึ่งบทเรียนจากเรื่องนี้บอกให้รู้แล้วจ๊าว่าตามความคิดเขาไม่ทันเราจะตามแก้ปัญหา จะเลือกใช้วิธีควบคุมนั้นก็ไม่ได้ผลกับคนที่รักอิสระ ชอบแหกกฎค่ะ

    งานนี้พี่ตั้งใจแล้ว เป้าหมายพี่อยู่ที่ทำให้คนเต็มใจร่วมมือโดยเต็มใจและสมัครใจค่ะ  ส่วนเป้าหมายที่เจ้านายสั่งให้ทำให้สวย เป็นเรื่องผลพลอยได้จากความร่วมมือ เทียบกับเวลาและความยากแล้วสิ่งที่ต้องการทำได้ประสบความสำเร็จแล้วละน้อง คนอื่นที่ถูกส่งมาแก้งานส่วนนี้ใช้เวลาแก้มาเป็นเวลากว่าปีแก้ไม่ได้ พี่มารับแล้วทำให้เกิดความก้าวหน้าได้ ภายในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ถือว่าโอแล้ว มีเวลาอีกสัปดาห์ที่เหลือ ได้ความคืบหน้าในเรื่องความเต็มใจร่วมมือในหลายเรื่องมาก็ถือว่าโอสำหรับพี่แล้วละน้องเอ๋ย  

    งานคุณภาพยังมีอีกหลายงานนักที่มีน้ำหนักสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและผู้มารับบริการมากกว่างานนี้ แบ่งๆเวลาให้คนไปทำงานกับเรื่องเหล่านั้นซะด้วย จะดีกว่ารุกให้คนมาทำงานแต่เรื่องนี้เรื่องเดียว คนทำงานในหน่วยงานของพี่มีอยู่แค่ข้าราชการ 2 คนและลูกจ้าง 3 คนเท่านั้นเองน้องเอ๋ย  ทำงานได้ก้าวหน้าอย่างนี้ก็ดีใจแล้วจ๊า

    เป้าหมายของพี่เรื่องงานคุณภาพต้องการความยั่งยืน ไม่เอาแค่สอบผ่านเท่านั้น งานนี้จึงไม่คิดจะทำเรื่องผักชีโรยหน้าที่ไม่ใช่สะพานไปสู่ความยั่งยืนที่ตั้งความหวังไว้


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.77647686004639 sec
Sidebar: 0.15448904037476 sec