ตามไปดูดินแล้วร้องโอ๊ยเลย…ใครก็ได้ช่วยหน่อยค่ะ

อ่าน: 2268

วันนี้แวะไปดูใต้บ้านที่เป็นสลัม เพื่อหาคำตอบเรื่องดิน ไปแล้วก็ยังไม่แน่ใจคำตอบหรอกนะคะ ขอปรึกษาผู้รู้หน่อยค่ะ

ภาพที่ไปเห็นใต้บ้านวันนี้ ดินก่อนเดินเข้าไปใต้บ้านเป็นอย่างภาพซ้าย  ส่วนใต้บ้านจริงๆเป็นแบบภาพขวา

คนงานมาช่วยให้ข้อมูลว่าที่ใต้บ้านแฉะนั้นได้น้ำมาจากต้นน้ำที่ไปใส่ท่อไว้เรียบร้อยแล้ว  ฉันยังคงฟังหูไว้หู ยังเอะใจกับสีมันแววของหน้าดินที่เห็นอยู่ว่าแน่ใจหรือว่าเป็นน้ำค่ะ  จึงขอให้เขาช่วยหยิบดินใต้บ้านขึ้นมาให้ดูใกล้ๆ  ดินมีลักษณะเป็นอย่างภาพซ้ายค่ะ ส่วนภาพขวาคือบริเวณใต้บ้านที่ยืนถ่ายเปลี่ยนมุมค่ะ

ดินที่หยิบขึ้นมาดู อยู่ตรงรอยปาดที่อยู่ใกล้เงาเสาใกล้แผ่นไม้ในภาพค่ะ หน้าตาของดินบริเวณอื่นดูใกล้ๆ ก็จะมีหน้าตาตามภาพข้างล่าง

ดินจากบริเวณกลางๆของขอบภาพด้านล่าง ใกล้ๆบริเวณต้นไม้ในภาพบน

ดินตรงรอยๆถัดมาใกล้ๆต้นไม้ เยื้องมาทางขวาของภาพบน

ดินตรงใกล้เงาเสา สีเข้มกว่าคือบริเวณที่เงาแดดไปไม่ถึง

ดินใต้บ้านอีกบริเวณหนึ่งที่แดดส่องไม่ถึง

ดินบริเวณเหลื่อมเงาแแดดอีกบริเวณหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน

ดินใกล้บริเวณที่มันแวว

ดินตรงมุมแผ่นกระดาน แดดส่องถึงตลอดทั้งวัน

น้ำครำอีกแห่งอยู่ที่บริเวณใต้บ้านทางซ้ายของส่วนที่เงาแดดไม่ถึงของภาพบน

สิ่งที่ตาเห็นทำให้ต้องกลับไปไล่คูรับน้ำทิ้งตรงนี้อีกครั้ง ไล่ไปๆเรื่อยๆ ก็ยังไม่พบอะไรที่ยืนยันว่าที่เห็นใต้บ้านไม่ใช่ดิน จึงกลับไปสำรวจสถานที่เพื่อหาทางจัดการต้นน้ำก่อน

หลังกินข้าวเที่ยงแล้ว ไม่รู้นึกยังไงเดินกลับมาแถวนี้อีกครั้ง ทีแรกที่เห็นไม่เอะใจ จนรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมือนตอนเช้า จึงทบทวนความต่างว่ามีอะไร แล้วเอะใจเอ๊ะทำไมตรงนี้ดินเปียกๆ ฝนรึก็ไม่ได้ตกลงมา แล้วที่้เปียกนี่น้ำมาจากไหนหรือว่าน้ำซึมจากในคูรั่วออกมา จนเมื่อสำรวจไปทั่วเพื่อหารอยรั่วของคูแล้วไม่เจอรอยรั่วจึงเอะใจอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้น น้ำมาจากไหน

แล้วก็ฉุกคิดได้ว่า เมื่อเช้าตรงนี้แห้งคล้ายๆภาพล่าง 2 ภาพนี้  จึงดูรายละเอียดของดินอีกครั้งแล้วสังเกตเห็นความเยิ้มของดินดังภาพบนขวาที่รู้สึกคุ้นๆอยู่นะ นึกไปๆว่าสีดินเยิ้มอย่างนี้เคยเห็นที่ไหนหนอ แล้วปิ๊งกับอะไรบางอย่าง อือ สิ่งที่เห็นเปียกนั้นนะน่าจะใช่เจ้าสิ่งนี้เอง

กวาดสายตามองไปรอบๆคู สำรวจโดยละเอียดอีกครั้ง จนไปเจออะไรตามภาพล่างเข้าค่ะ จึงได้อ๋อที่แท้อย่างนี้เอง ใช่แล้ว

เห็นแล้วรู้กันหรือยัง ว่าน้ำที่ทำให้เปียกมาจากไหน  ใช่แล้วมันไม่ใช่น้ำ แต่เป็นไขมันที่ตักขึ้นจากคูเดิมที่หน้าตาเป็นอย่างนี้ไงค่ะ ที่มันเปียกเยิ้มให้เห็น มันโดนความร้อนจากแดดจนละลาย

คูระบายไขมันที่เห็นอยู่ทางขวาของเสาบ้านในภาพข้างบน ห่างกันราวๆ 50 เซนติเมตร

เชื่อมโยงสิ่งที่เห็นเข้าด้วยกันช่วยยืนยันว่าที่เคยสงสัยว่าที่เห็นเป็นน้ำครำใต้บ้านน่าจะไม่ใช่ดินนั้นใช่เลย แต่จะไม่ใช่ดินทั้งหมดหรือเปล่า ตอนนี้ฉันคิดว่าไม่สำคัญแล้วค่ะ  สำคัญกว่าอีตรงการจัดการทำยังไงกับการสะสางให้สะอาด

เดิมทีคิดว่าเป็นดินก็จะปล่อยให้แห้งไปแล้วค่อยจัดการ อย่างนี้ไม่น่าจะสามารถทำให้แห้งได้อย่างที่คิดแล้วนะ  ด้วยว่าบริเวณส่วนใต้บ้านตามที่เห็น  ส่วนใหญ่มีโอกาสแดดส่องถึงน้อยมากๆ

จะใช้แรงงานโกยออกในขณะเป็นอย่างที่เป็นอยู่อย่างที่เห็นหรือไม่ก็มีไขมันปนอยู่  โกยแล้วจะเอาไปทิ้งตรงไหน จึงไม่ทำให้เกิดมลภาวะหนอ   นี่ขนาดโกยทิ้งจากคูชั่วคราว โดนแดดร้อนยังละลายให้เห็นปัญหามากมายเลยเชียว

ก่อนลงมือกำจัดมันให้เกลี้ยงจำเป็นต้องขอผู้ช่วยด่วน ช่วยวิเคราะห์ให้หน่อยค่ะว่าดินที่เห็นในภาพบนนั้นมีส่วนของดินมากน้อยแค่ไหนค่ะ แล้วดินในลักษณะอย่างนี้โกยทิ้งไปกองไว้เฉยๆจะสร้างปัญหาด้านมลภาวะแค่ไหน

ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ สำหรับผู้รู้ที่เมตตาเข้ามาช่วยให้ความรู้ช่วยกันค่ะ

บันทึกอื่น :

1. ช่วยกันลุ้นหน่อย

2. ใช้ความรู้จากธรรมชาติและหลักคิดการพัฒนาคุณภาพแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน

3. เชื่อมือได้จริงหรือเปล่า

« « Prev : เชื่อมือได้จริงหรือเปล่า

Next : ๗ วันผ่านไปแล้วเร็วจริงๆ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 มกราคม 2010 เวลา 20:34

    ไขมันจากไหนครับพี่ตา ไขมันจากท่อน้ำทิ้งหรือ น้ำมันจากเครื่องยนตร์พวกร้านซ่อมรถ
    หากเป็นไขมันจากสัตว์ เช่นโรงอาหาร โรงชำแหละ ดินเขาน่าจะปรับตัวบำบัดตัวเองได้ ใช้เวลาสักระยะ
    หากเป็นประเภทน้ำมันหล่อลื่น ดินก็ปรับตัวได้เช่นกันครับ แต่ต้องใช้เวลานานหน่อย
    ที่เมืองฝรั่งเขามีเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยเร่งการย่อยสลายของพวกน้ำมันพวกนี้
    แต่บ้านเรายังไม่เคยเห็นครับ
    ไม่แนะนำให้โกยดินออกทิ้งเพราะอาจต้องขุดออกมาก ทางที่ดีหาดินลูกรังมาถมสักคันรถให้ระดับพื้นตรงนั้นสูงกว่าแหล่งที่มาของน้ำมันน่าจะดี พร้อมๆกับการป้องกันการรั่วซึมของน้ำมันที่ว่าอีก

    แต่ผมยังสงสัยว่าเป็นน้ำมันจริงๆหรือเปล่า เพราะเท่าที่ดูสีเหมือนดินที่ถูกน้าขังระยะเวลานานๆครับ ดังเช่นดินแถวป่าชายเลน หรือดินตะกอนน้ำกร่อย ทางนักดินเขาเรียกดินอายุน้อยที่ยังไม่พัฒนาชั้นดิน อีกอย่างหากดินถูกน้ำขังนานๆ จะเกิดออกซิเดชั่น รีดักชั่น อะไรนี่แหละทำให้ดินมีลักษณะอย่างนี้ได้ครับ

  • #2 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 มกราคม 2010 เวลา 18:58

    ขอบคุณอ้ายเปลี่ยนอย่างมากมายที่เข้ามาให้ความเห็นและความรู้ค่ะ  ดีใจมากๆค่ะ

    ไขมันนั้นมีปนในดินบริเวณนี้อยู่แน่นอนจากการเห็นการไหลของน้ำปนน้ำมันลงไปปนเปื้อนก่อนทำให้น้ำพวกนั้นหยุดการไหลลงไปขังค่ะ

    เป็นไขมันจากโรงอาหารที่แม่ค้าทั้งหลายปรุงอาหารและล้างจานชามสะสมกันมารวมแล้วประมาณหนึ่งปีแล้วโดยที่ยังไม่มีใครแก้ปัญหาได้ ลงท้ายเรื่องก็เลยถูกโยกมาที่ฝ่ายของพี่ให้หาวิธีแก้ค่ะ

    ตกลงไม่โกยดินนะคะ ดีใจจัง ที่แนะนำนั้นตรงใจที่พี่เคยคิดค่ะ พี่คิดไว้ว่าจะใส่น้ำหมักชีวภาพลงไปบริเวณที่น้ำเจิ่งนองแล้วถมดินให้ดินแห้ง ส่วนบริเวณของขอบคูก็จะปรับถมดินเช่นกันเพื่อให้เกิดความสวยงาม 

    วันนี้ได้ข้อมูลของเหตุที่ล้นว่าบ่อดักตันค่ะ จึงจำเป็นต้องไปจัดการที่ต้นแหล่งของไขมันระหว่างรอแก้บ่อตัน ซึ่งกำลังลองดูว่าจะแก้ต่อยังไงให้ไม่ล้นคูอีกในระหว่างรอแก้บ่อตันค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.098618030548096 sec
Sidebar: 0.12445306777954 sec