ใช้ความรู้จากธรรมชาติและหลักคิดการพัฒนาคุณภาพแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน

โดย สาวตา เมื่อ 17 มกราคม 2010 เวลา 11:23 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1080

เมื่อวานซืน ไปด้อมๆมองๆแถวร้านอาหารตั้งแต่เช้า เจอน้องศรีทักทายกันแล้ว น้องศรีสงสัยว่าไปทำอะไรอยู่แถวนั้น จึงหยุดคุยแล้วเล่าให้เธอฟังด้วยอารมณ์ขำๆ ขำตัวเองที่วันนี้แทนที่จะไปรักษาคนไข้ แต่กลับมาทำเรื่องของการดูแลภูมิทัศนของโรงอาหารไปได้

ที่รู้สึกว่างานนี้ท้าทายนั้นทำให้รู้สึกว่าเรื่องที่ทำอยู่นั้นมีทางออกอยู่นะ หนักใจมั๊ยก็หนักใจนะ หนักตรงที่มีความต้องการผลเลิศแต่มีีเวลาให้ลงมือทำงานแสนสั้น แถมยังต้องพึ่งพามือคนอื่นที่มีนายของตนอยู่แล้วให้ลงมือลงแรงให้ซะอีก งานท้าทายอยู่ตรงความยากของการจัดการนี่แหละค่ะ

งานบริเวณนี้มีคนรับมอบให้ดูแลมาก่อนหน้านานเป็นปีๆแล้ว ถ้ากระบี่มีน้าอึ่งอ๊อบ หมอป่วนมาอยู่ด้วย งานอย่างนี้ก็ตกอยู่ในมือไม่ใครก็ใครใน 2 คนอย่างนี้แหละ การมอบหมายจึงทำให้เอ๊ะแล้วเกิดคำถาม แล้วไฉนจึงต้องให้สาวของฉันมาร่วมดูแลงานด้วยเล่า ควรใคร่ครวญไตร่ตรองก่อนลงมือทำงานภายใต้หัวโขนซะแล้วซิ

ตามไปดูก็พบว่าสาวของฉันมาเกี่ยวข้องกับพื้นที่บริเวณนี้ด้วยหน้าที่ตรวจสอบ การตรวจตราและรายงานผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจึงเท่ากับเป็นหน้าที่ของเธอเต็มๆเหมือนครูตรวจการบ้านนะเออ

เทียบกับครูในเรื่องของการตรวจการบ้านแล้วละก็ นึกออกนะว่าคนตรวจจะให้ถูกผิดได้ก็ต่อเมื่อรู้วิธีทำตั้งแต่ต้นจนจบอย่างกระจ่างใจ ตรวจการบ้านเหมือนการตรวจข้อสอบแบบอัตนัยกลายๆนะฉันว่า จะให้ผ่านก็ควรจะมีการติวเกิดขึ้นเมื่อพบว่าคนทำการบ้านไม่เข้าใจ

สิ่งที่เห็นตรงหน้าตรงนี้ทำให้เอ๊ะกับวิธีตรวจการบ้านโดยสาวของฉันอยู่นะ เลยทำให้ต้องกลับไปคุยเพื่อขอปูมหลังว่าเธอติวการบ้านให้อย่างไร  เรื่องราวที่บอกออกมาให้รู้กลับเป็นเรื่องของการใช้ปากบอกแบบส่งการบ้านคืนให้ไปทำมาใหม่แค่นั้นเอง ถามทีไรเธอก็บอกกลับว่าบอกกันแล้วๆๆๆๆ คำพูดสื่อสารทำให้เข้าใจไปว่ามีการติวกันแล้วไม่ผ่านแฮะ   แต่ภาพตรงหน้ามันฟ้องว่าติวไม่ตรงจุดซะมากกว่าการบ้านจึงยังเป็นการบ้านที่ยังทำไม่ผ่านอยู่เรื่อยมา

เข้าใจเรื่องวิธีติวการบ้านของสาวๆแล้ว ฉันจึงลงมือทำงานเพื่อค้นหาจุดติวการบ้านในวันแรกๆ ใช้เครื่องมือดูๆๆๆฟังๆๆนั่นแหละค้นหาจุดติวที่ว่า  ดูเองด้วยชวนแม่ค้าแต่ละร้านเขาคุยให้ฟังไปด้วย ระหว่างคุยก็ดูวิถีชีวิตของแม่ค้าไปด้วย ระหว่างทำก็ใช้สุ จิ ปุ ลิในสมองตัวเองไปด้วย จึงปิ๊งแว๊บว่าจุดติวนั้นอยู่ตรงไหน เรื่องที่พบบอกว่าเส้นผมบังภูเขานี่สร้างเรื่องราวให้งานหนักหนาใหญ่โตบานปลายได้จริงๆด้วยนา   ในช่วง 5 วันที่ผ่านมาจึงใช้เรื่องปิ๊งแวบนี่แหละติวให้คนลงมือแก้ไขงาน

อย่างตรงนี้ ไปยืนๆดูก็ปิ๊งแวบว่าปลายน้ำจะแห้งก็ต้องหยุดน้ำต้นน้ำที่ไหลลงนั่นแหละจึงจะเป็นไปได้

ปิ๊งมันแล้วก็เริ่มเดินหาว่าต้นน้ำอยู่ที่ไหน ไปเจอต้นน้ำที่มีลํกษณะอย่างนี้อยู่ เห็นแล้วก็อึ้งอีก

ตามน้ำครำ จุดนี้ต่อไปจึงพบกับต้นตอแล้วลงมือแก้ ไม่ได้รอช้าเลย

อีตอนแก้มีงานต้องทำอยู่ 3-4 ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ขุดร่องระบายน้ำ หาท่อ ใส่ท่อ  โบกท่อไม่ให้รั่ว  เพียงวันเดียวพื้นที่ตรงนี้น้ำครำก็แห้งลงไปได้อย่างที่เห็นอยู่นี้

เชื่อหรือไม่ว่ากว่าจะลงเอยด้วยการทำให้คนสำคัญที่ดูแลพื้นที่ตรงนี้ลงมือทำคนเดียว ฉันต้องชวนผู้คนที่เกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆรวมทั้งหัวหน้างานมาคุยปรึกษาเพื่อให้ได้มาถึงผลลัพธ์ที่ต้องการถึง 5 คนเลยเชียว

ยังหรอกยังปลายน้ำยังไม่แห้งลงอย่างที่หวัง แค่สำเร็จกับการไม่มีน้ำเติมให้เจิ่งนองมากไปกว่าที่เห็นเท่านั้น แล้วน้ำเติมยังมีต้นน้ำมาจากคูน้ำที่มีสภาพอย่างนี้ด้วยนะ  นี่ก็อึ้งจะเริ่มลงมืออย่างไงดีให้ต้นน้ำแห้งลงได้

ต้นน้ำตรงส่วนนี้อยู่ระหว่างอาคารหลังร้านอาหาร 2 ร้าน

ต้นน้ำตรงนี้อยู่นอกอาคารใกล้บ้านที่เห็น

เห็นตรงนี้ก็สัมผัสความรู้สึกตนเองได้ว่าอึดอัดขึ้นมาแล้ว เข้าใจลูกน้องว่าีความอึดอัดในใจที่มีอยู่มีมากมายกว่าที่คิดเอาไว้ซะแล้ว

ถึงตอนนี้หลักคิดของการทำงานคุณภาพที่มีคนปูพื้นให้ปิ๊งแวบก็โผล่ขึ้นมาสะกิด เลือกเรื่องกล้วยๆทำก่อนซี ที่เขี้ยวๆไว้ทำหลังจะดีกว่ามั๊ง มองเผินๆทั้งหมดที่เห็นจะเป็นเรื่องเขี้ยวใช่ไหม ใช่นั้นใช่ แต่คราวนี้ฉันเบี่ยงมุมคิดใหม่ค่ะ ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างต้นน้ำ-ปลายน้ำทำงานต่อ เปรียบเทียบความกล้วยที่อยู่ในเรื่องราวทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า แล้วเลือกทำในสิ่งที่จะช่วยให้มองเห็นปัญหาการเติมน้ำให้ไปอยู่ที่ปลายน้ำชัดขึ้นอีกสักหน่อย

จึงลงมือแค่ขอให้คนงานที่ดูแลพื้นที่ตรงนี้ถางต้นไม้ที่รกตรงจุดที่เห็นในภาพออกให้เห็นพื้นดิน ผลที่พบทำให้แก้ต่อจนได้ผลอย่างในภาพแล้ว ณ วันนี้น้ำที่เติมลงไปที่ปลายน้ำใต้บ้านได้หยุดลงแล้วอย่างสมบูรณ์ค่ะ เป็นความสำเร็จเล็กๆที่ดีใจกับความก้าวหน้าของงานที่เกิดขึ้นแล้ว

จุดต้นน้ำใกล้บ้านข้างบนที่โกยไขมันออกแล้ว

สีขาวๆเหมือนปูนขาวนั่นแหละคือไขมันที่ก่อตัวจากครัวของร้านอาหาร

ยังคงเหลือเรื่องที่ทำให้กุมขมับว่าควรจะทำอย่างไรต่ออีตรงนี้ ดูภาพจะเห็นว่าน้ำปลายน้ำนั้นเต็มไปด้วยไขมันปนอยู่มากมายจนกลายเป็นน้ำครำ  ไขมันที่ล้นก็เกลื่อนไปทั่วทั้งบริเวณเลยทีเดียวเชียว  การขุดลอกจึงเป็นแค่ผลพลอยได้ชั่วคราวเท่านั้น  ตรงนี้แหละที่ยังหนักใจว่าจะลงมือทำต่ออย่างไร ลงมือทำต่ออย่างที่พี่ตึ๋งเชียร์ไปแล้วค่ะได้ผลอย่างไรจะนำมาเล่าต่อให้ช่วยลุ้นกัน

แล้วยังมีปัญหาอย่างในภาพที่หลงเหลือให้แก้ต่อ ดูแล้วลุ้นอย่างนี้แหละท้าทายจริงๆเชียวนะ ถ้าเป็นแต่ก่อนอารมณ์ความรู้สึกคงจะเป็นโจรไปแล้วค่ะ แต่วันนี้สนุกกับการลองใช้ความรู้ที่มีอยู่ไปก่อนโดยยังเป็นโจรกลับใจอยู่ค่ะ

เล่าสู่กันฟังเอาไว้แค่นี้ก่อนนะคะ บ่ายวันนี้จะนำเรื่องนี้ไปรายงานเจ้านายและผู้ดูแลพื้นที่ตัวจริงให้เขาได้รู้ว่าทำอย่างไรไปแล้ว จะปรึกษาเพื่อให้รู้ว่าฉันสามารถตัดสินใจลงมือทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ (ทุกวันอาทิตย์่บอร์ดของร.พ.นัดมาติดตามผลการทำงานของคนทำงานทั้งหมดด้วยกันค่ะ)

บันทึกอื่น :

1. ช่วยกันลุ้นหน่อย

« « Prev : ช่วยกันลุ้นหน่อย

Next : เชื่อมือได้จริงหรือเปล่า » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.027974843978882 sec
Sidebar: 0.11434006690979 sec