เห็นอะไร

โดย สาวตา เมื่อ 30 กรกฏาคม 2009 เวลา 22:15 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1329

หลังจากสามสาวมาช่วยทำงานให้คนมีความสุขที่นี่ ก็มีอะไรบางอย่างที่สัมผัสได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเกิดขึ้นกับตัวผู้คน แต่มันก็งงๆอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในตัวคนที่ได้เห็นว่าเหตุไฉนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจึงเกิดขึ้นและเลือกแสดงออกในมุมดีๆกับคนบางคนเท่านั้น

ความงงมันเกิดจากว่า ไม่เคยคิดว่า เมื่อคนรับรู้ตัวเองแล้วเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเพราะตัวของเขาเอง จะไม่เกิดความรู้สึกดีๆกับตัวเองแล้วปรารถนาที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นๆเรื่อยๆไป

จำได้ว่าเคยนั่งคุยกับครูอึ่งในวันหนึ่ง น้องสาวให้คำเฉลยกับคำถามที่คาใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโลกภายในของผู้คน มีเรื่องปัญญานำให้เกิดการตื่นรู้อยู่นะ การเปลี่ยนแปลงในตัวของผู้คนจึงขึ้นอยู่กับปัญญาที่ผู้คนคนนั้นมีอยู่ วันนี้จึงเอะใจว่า คนที่เห็นเขาดีขึ้นแล้วนั้น ไม่ได้เกิดจากความมีปัญญาหรือไร

จากคำเขียนที่เตือนตัวเองไว้ ว่าอย่าเพิ่งเชื่อและตัดสินคนหากว่าคนทำเรื่องแย่ๆให้เกิดขึ้น จนกว่าจะพิสูจน์ว่าเขาเป็นเหยื่อของระบบในองค์กรรึเปล่า

จากงานที่คนก่อเรื่องนี้เธอมุ่งมั่นลงมือทำให้เห็น เตือนสติเอาไว้ว่าแม้ความเร็วของการได้คำตอบของเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจำเป็น การชะลอการลงความเห็นไว้ให้ช้าน่าจะดีกว่า ให้เวลากับการพิสูจน์ “ผิด” “ถูก” ให้มากไว้เป็นสิ่งที่ควร เพื่อจะได้ไม่้เสียคนทำงานที่มุ่งมั่นไปซะคนหนึ่ง

เหตุจูงใจให้ตามไปดูถึงโรงเรียนพ่อแม่ลูก คือ หาคำตอบของเรื่องเกี่ยวกับเธอ เชื่อมั่นว่าเธอจะเป็นผู้หนึ่งที่เข้าไปร่วมกิจกรรมกับชุมชน เหตุผลที่เชื่อว่าเธอจะอยู่ที่นั่นด้วยในวันนี้ ก็คือว่าก่อนหน้าที่จะเกิดโรงเรียนพ่อแม่ลูกขึ้นนั้น เธอแจ้งข่าวคร่าวๆมาให้ฉันรู้ว่าชุมชนมีผู้ผลักดันหนุนให้เวทีนี้เกิดขึ้น

ตามไปเห็นผู้เข้าร่วมโรงเรียนพ่อแม่ลูกในเช้านี้ มั่นใจขึ้นอีกว่านี่คือผลงานของเธอ ความวางใจที่ชุมชนมีต่อเธอทำให้เกิดการเชื่อมโยงและดึงให้ผู้คนเหล่านี้เข้ามาค้นหาคำตอบให้กับตัวเองเพื่อที่จะปลดทุกข์บนบ่าบางส่วนให้น้อยลง

เห็นอย่างนี้ฉันยิ่งบอกตัวเองว่า “อย่าลืมนะ หน่วงการตัดสินให้ช้าไว้ก่อน ฟังให้หมด มองให้เห็นทุกด้านอย่างช้าๆไว้  ได้ข้อมูลทุกด้านแล้วจึึงลงมือฟันธงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน เพื่อจะได้ไม่พลั้งมือทำร้ายคนแำละทำลายคนที่มีไฟในการทำงานคนหนึ่งให้เสื่อมสลายพลังลงไป

เพียงแต่ว่าเวลาที่จะชะลอให้ช้าไว้นั้น มันคงนานถ้าหากใช้ใจคนอื่นตัดสิน เรื่องนี้จริงเมื่อเวลาก่อนเที่ยงวันมาถึง ระหว่างนั่งดูการดำเนินกระบวนการอยู่นั้น มีเสียงเรียกจากเจ้านายมาถึง เมื่อไปหาตามเวลานัดหมายบอกมา ก็ปะหน้าของประธานกรรมการบริหารความเสี่ยงของร.พ.นั่งคุยอยู่แล้ว

นั่งคุยกันกินข้าวด้วยกันไปได้สักครู่ คุณน้องก็โยนคำถามมาขอคำตอบว่า พี่ทำอย่างไรไปแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ผอก.รู้เรื่องรึยัง จะบอกผอก.รึเปล่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องรุนแรงนะพี่”

ไม่คาดว่าจะถูกทวงคำตอบเรื่องการจัดการปัญหาเร็วขนาดนี้ รับรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องรุนแรงที่องค์กรถือสาอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าการจัดการคนมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก

การจัดการกับใจของผู้คนจะใช้ระบบจัดการอย่างเดียวไม่ได้ คนหนึ่งคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บาดเจ็บทางใจไปแล้ว ไม่ควรที่จะเพิ่มคนบาดเจ็บทางใจขึ้นอีกหรอกนะ

ในหมวกหัวหน้าที่คนอื่นวางความคาดหวังไว้บนบ่าให้ใช้ระบบ ในเรื่องระบบฉันจึงได้ลงมืออะไรบางอย่างลงไปแล้วระหว่างที่รอสืบค้นเรื่องราวเพื่อแก้ไขไม่ให้มีคนใจบาดเจ็บเพิ่ม ด้วยการเพิ่มระบบใหม่ระบบหนึ่งขึ้นมาใช้งาน

ให้คำตอบว่า “ทำอย่างนี้ไปแล้วละน้อง พี่รายงานตรงผอก.แล้ว คิดๆกันอยู่ว่าควรทำอะไรกันต่อ แล้วก็ไปปรึกษาพี่ใหญ่ของโรงพยาบาลในเรื่องนี้ รับรู้ร่วมกันแล้วว่าควรทำอย่างไร รอๆอยู่กับเอกสารจากผู้จัดการความเสี่ยง ได้เอกสารแจ้งเรื่องแล้วก็จะส่งต่อไปให้พี่ใหญ่ที่อยู่ในฐานะตัวแทนสภาวิชาชีพระดับจังหวัดจัดการต่อในมุมเกี่ยวกับวิชาชีพ….. ส่วนตัวพี่ก็รอรับเรื่องแจ้งกลับมาให้รู้….่เพื่อดำเนินการต่อกับต้นเรื่องให้กระจ่างต่อไป…..”

ระบบใหม่นี้จะรองรับให้หมอที่ทำงานเป็นหัวหน้าของพยาบาลในหน่วยงานที่แยกส่วนออกมาจากโครงสร้างของกลุ่มการพยาบาลมีความสบายใจ และถ่วงดุลให้พยาบาลคลายใจต่อการจัดการที่จะเกิดขึ้นกับตนต่อไปได้ดีรึไม่ ก็คงต้องลอง

28 กค.2552

« « Prev : หน้าที่กับความสุข

Next : คำตอบ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 กรกฏาคม 2009 เวลา 23:30

    พี่ตาขา..ส่งกำลังใจมาให้นะคะ

    อยู่ท่ามกลางเรื่องราวก็มีโอกาสเห็นหลายๆมุมนะคะ
    การฝึกให้มองโดยไม่นำมาคิดเข้าตัวไม่คิดต่อหรือคิดแทน จะช่วยให้ผ่านเรื่องราวต่างๆได้ง่ายขึ้นและไม่มีบาดแผลในใจมาก
    เวลาเกิดเรื่องราวระหว่างคน จะรู้สึกสงสารคนที่ต้องถูกดึงไปเกี่ยวข้องจะทั้งรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว สงสารคนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจจะเป็นคนที่บ้านที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง หรือแม้แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์

    คนที่ใช้อารมณ์มากที่สุดมักจะเป็นคนอ่อนแอค่ะ เสียง อารมณ์ คำพูด การกระทบกระเทียบเปรียบเปรย ฯลฯ ก็ล้วนเป็นเครื่องแสดงความต้องการการช่วยเหลือ และแท้ๆแล้วก็เป็นผู้แพ้ไม่ใช่ผู้ชนะ

    บางทีเขาต้องการบอกอะไรบางอย่าง และต้องการการมองเห็นด้วยนะคะพี่

  • #2 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 สิงหาคม 2009 เวลา 15:53

    กำลังค้นหาอยู่ค่ะอุ๊ย….รีบแบมือรับเอากำลังใจมาเป็นพลัง…อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.060629844665527 sec
Sidebar: 0.29015302658081 sec