การดื่มน้ำ….มีเรื่องที่ควรรู้และพิจารณาอยู่นะ

อ่าน: 2940

เจ้าของลานซักล้างเคยเล่าว่าเดี๋ยวนี้ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร และในบันทึกนี้ได้ชวนให้ดื่มน้ำเอาไว้ขอแค่เพียง 30 เท่าของน้ำหนักตัว  ก็พอใจแล้ว(คูณได้ค่าเท่าไรมีหน่วยเป็นมิลลิลิตร) และในเว็บที่มีหมอๆมาเขียนเอาไว้ในเรื่องน้ำ ก็มีอะไรที่เป็นมุมต่างไปอยู่เหมือนกัน จึงคิดว่าน่าจะนำเรื่องน้ำมาเล่าไว้บ้างเพื่อความเข้าใจหมอๆอย่างเราๆว่ากำลังสื่อเรื่องอะไร

ธรรมชาติของร่างกายที่ถือว่าเป็นปกติที่สุด คือ เมื่ออุณหภูมิในร่างกายอยู่ที่ 37 องศาเซนติเกรด ที่อุณหภูมิระดับนี้ อวัยวะต่างๆทำงานสบายๆ เพราะไม่แห้ง ไม่ร้อน และไม่เย็นไปถือเป็นอุณหภูมิสมดุล

เคยเล่าไว้ในบันทึกนี้เรื่องของการสันดาป การสันดาปสารอาหารที่ให้พลังงานทำให้เกิดความร้อนที่มีหน่วยเรียกกันคุ้นหูว่า “แคลอรี่”  แคลอรี่นี่แหละคือตัวผลที่ทำให้เกิดความอบอุ่น ร้อน หรือ เย็นในร่างกายขึ้น

การสันดาปของรถยนต์ทำให้เกิดความร้อน จะทำให้เครื่องยนต์หายร้อน ในระหว่างเครื่องยังทำงาน จึงทำให้รถยนต์ต้องมีหม้อน้ำมาช่วยระบายความร้อนในห้องเครื่องให้ลดลงไปเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์พัง  การสันดาปในเซลของคนก็เหมือนกัน ต้องการน้ำเพื่อไปใช้ระบายความร้อนไม่ให้เซลพังหรือเสีย

เพื่อการดำรงอยู่อย่างปกติของเซล ที่มีคนศึกษาไว้และนำมาบอกกันและใช้กันอยู่ในการรักษาทางการแพทย์  เป็นเกณฑ์ของการกะจำนวนน้ำที่ควรใส่เข้าไปในร่างกายไม่ให้เกิดพิษจากน้ำ

พิษจากน้ำเกิดขึ้นได้จากกลไกออสโมซิสที่เกิดขึ้นในระหว่างผนังเซลที่ผิดแปลกไป แล้วทำให้สมดุลน้ำระหว่างเซลไม่สมดุล

ยิ่งเด็กยิ่งต้องระวังการให้น้ำ เพราะร่างกายของเด็กมีน้ำอยู่มากมายถึง 70-80% ของน้ำหนักตัวอยู่แล้ว

ผู้ใหญ่ที่ต้องระวังเรื่องการให้น้ำไม่ว่าทางไหน ก็คือผู้ที่ไตเสื่อมสภาพลงแล้วไม่ว่าวัยไหน

ผู้ใหญ่ยิ่งมีอายุสูงขึ้นยิ่งมีน้ำในร่างกายน้อยลง คนแก่เฒ่ามีน้ำในร่างกายแค่เพียง 40-50%

เนื้อหนังของคนแก่เฒ่าที่เเหี่ยวย่นก็เพราะมีน้ำน้อย เนื้อหนังของเด็กที่ตึงแน่นน่าจับต้องกอดรัดฟัดเหวี่ยงก็เพราะมีน้ำมากมาย

โดยทั่วไปปริมาณน้ำที่ให้โดยปลอดภัยของผู้ใหญ่ไม่ควรให้เกิน 3 ลิตรต่อวัน  (ปริมาณนี้มาจากปริมาตรน้ำที่มีอยู่ในเลือดผู้ใหญ่ค่ะ)

เวลาคำนวณให้น้ำรักษาคนป่วย(รวมการให้ทั้งทางปาก+ทางเส้นเลือด) หมอๆอย่างเราจะคำนวณตามน้ำหนักตัวแล้วจึงให้ มีหลักคิดใช้เหมือนกันทุกวัย อย่างนี้ค่ะ

ให้ 100 เท่าของน้ำหนักตัว 10 กก.แรก  แล้วลดลงเหลือ 50 เท่าของน้ำหนักตัว สำหรับ 10 กก.ต่อมา และลดไปอีกเหลือ 20 เท่าของน้ำหนักตัวถ้าหากว่ามีใครน้ำหนักเกิน 20 กก.แรกไปอีก (ซึ่งปริมาตรน้ำที่ได้ มีหน่วยเป็นมิลลิลิตร ไม่ใช่กก.ค่ะ)

ถ้าค้นเว็บก็จะมีคำแนะนำเรื่องการดื่มน้ำไว้หลายที่  ขอทำความเข้าใจเพิ่มแล้วกัน สำหรับบางเรื่อง

Q : ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพ จำเป็นไหม?

A : ความจำเป็นมีอยู่สำหรับคนที่ปกติดื่มน้ำแค่แก้วสองแก้วและมีปัญหาอย่างที่คุยไว้บ้างแล้วในบันทึกเกี่ยวกับกรดยูริก แต่สำหรับคนกินเค็มก็ไม่จำเป็นทุกครั้งไปนะคะเพราะว่าคนบางคนกินน้ำมากขนาดนี้มีผลเสีย น้ำอาจจะไปทำให้้ระดับโซเดียมต่ำเป็นอันตรายได้ ขึ้นกับศักยภาพในการทำงานของไตคนนั้นค่ะ

คำแนะนำเกี่ยวกับ 8-10 แก้วต่อวัน แปลงมาจากคำแนะนำที่คณะอนุกรรมการโภชนาการของคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกาแนะนำไว้ว่า ร่างกายเราต้องการน้ำ 1 ลบ.ซม. ต่ออาหารที่เรากินเข้าไป 1 แคลอรี คนทั่วไป จึงต้องการน้ำประมาณ 10 แก้ว

Q :  น้ำส่วนใหญ่มีอยู่ในอาหารที่เรากินเข้าไปอยู่แล้ว ไม่ต้องไปดื่มเพิ่มได้ไหม

A : ให้พิจารณาจากความต้องการของตัวเองก่อนดื่มเพิ่มตามความเหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา  ใช้ความรู้ที่มีมาทั้งก่อนหน้าและปัจจุบันเกี่ยวกับอาหารปรับสมดุลน้ำให้ตัวเองเพื่อดื่มทดแทนน้ำที่ขาดไปจากอาหารเข้าไว้

อย่าลืมว่าน้ำในอาหารบางประเภทให้เกลือสูง หากกินอาหารเค็มๆ แล้วไปดื่มน้ำเพิ่มไม่ดีแน่ เพราะว่าเกลือที่กินเข้าไปดูดน้ำที่ควรจะปล่อยทิ้งกลับคืนไปเก็บไว้เพิ่มอยู่แล้ว

แต่ถ้ากินอาหารหวานๆ น้ำตาลจะดึงน้ำตามออกมาเมื่อตัวมันถูกขับทิ้ง อย่างนี้ก็ควรต้องเพิ่มการดื่มน้ำเพื่อทดแทนส่วนที่ขับทิ้งไปให้พอ

ฉะนั้นการดื่มน้ำให้ปลอดภัย ไม่เกิดพิษจากน้ำ จึงมีหลักที่ต้องอิงไปถึงรสชาดของอาหารที่กินเข้าไปด้วย

บันทึกนี้จึงมาเตือนเรื่องอาหารเปรี้ยว+เค็ม เค็ม+หวาน หรือเปรี้ยว+หวาน ว่าทำให้ร่างกายลำบากมากมายกับการจัดการสมดุลน้ำให้อวัยวะภายในทำงานสบายๆนะคะ

ใครที่ชอบรสเปรี้ยว เค็ม หวาน ขอชวนย้อนไปอ่านวิธีเพิ่มความปลอดภัยจากความเค็ม ซะหน่อยเพื่อฟื้นความจำค่ะ

และก็มีอาหารพวกนี้ที่มีน้ำอยู่ในตัวมัน จะดื่มจะกินเข้าไปเมื่อไรอย่าลืมใช้หลักของธงและเรื่องสมดุลน้ำ สมดุลเกลือพิจารณาก่อนเติมลงท้องนะคะ

« « Prev : ๑๒ เซียนที่ทำให้กรดยูริกในเลือดสูงขึ้นได้

Next : คนดื่ม-คนดู…มีส่วนให้การดื่มไม่กลายเป็นมากเกิน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 ธันวาคม 2009 เวลา 22:53 (เย็น)

    เอื๊อก ขืนดื่มน้ำ 30 เท่าของน้ำหนักตัว ไม่ต้องเดินไปไหนกันพอดีครับ

    ถ้าหนัก 85 กก. กินน้ำ 30 เท่าของน้ำหนักตัว ก็ 2550 กก. คือ สองตันครึ่งนะครับ

  • #2 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 ธันวาคม 2009 เวลา 23:04 (เย็น)

    โอ๊ยยยยโย่….หลุดค่ะหลุด…ลืมใส่หน่วยกำกับไว้…เขียนเร็ว…คิดเร็วไป….ก็งี้แหละเน้อ
    ขอบคุณคุณชายละเมียดที่สะกิดเตือนค่ะ
    แก้ไขเพิ่มเติมแล้วค่ะ

  • #3 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 ธันวาคม 2009 เวลา 23:58 (เย็น)

    -เท่าที่ทราบมาปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันของคนปกตินั้นคำนวณได้จากน้ำหนักตัวของแต่ละคน   คือ     หนักตัว(ก.ก.)/2 x 2.2 x 30 =  ?  c.c. สมมุติว่าท่านหนัก 60 ก.ก. ท่านก็จะคำนวณได้ดังนี้     60/2×2.2×30 =1,980 c.c. ก็ประมาณ 1.9 ลิตร  ก็ประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน
    -ความจริงเรื่องการดื่มน้ำนอกจากปริมาณน้ำแล้ว คุณภาพน้ำที่ดื่มและtimingในการดื่ม ก็มีความสำคัญมากเช่นกันค่ะ
    -และการดื่มน้ำมากเกินไปก็มีผลเสียเช่นกันค่ะ

  • #4 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ธันวาคม 2009 เวลา 7:11 (เช้า)

    ขอบคุณป้าจุ๋มที่มาช่วยเติมเต็มค่ะ

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ธันวาคม 2009 เวลา 18:08 (เย็น)

    เฮอ ยุ่งไม่น้อยเลยถ้าจะดื่มให้ถูกต้อง

  • #6 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ธันวาคม 2009 เวลา 21:03 (เย็น)

    ใช่เลยค่ะพ่อครู การปรับพฤติกรรมซะใหม่ดูเหมือนจะยาก  แต่ถ้าเข้าใจก็ง่ายค่ะ

    เมื่อใช้คำว่าปรับ เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่า มีอะไรที่ยังไม่ถูก ถูกในที่นี้หมายถึงความลงตัวกับปัจเจกคน

    สิ่งที่พ่อครูปรับไปแล้ว ดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว จากการที่ได้เล่าว่ามีปัสสาวะบ่อยขึ้น ใสขึ้น สีจางลง  เรื่องนี้ดีตรงที่ช่วยเรื่องดึงว่าที่เบาหวานไม่ให้ล้ำเส้นเบาหวานตัวจริงเอาไว้

    บันไดขั้นต่อไปเป็นเรื่องปรับต่อให้ความหวานของเลือดยังคงเป็นว่าที่เบาหวานต่อไปได้ ซึ่งก็ไม่ยากเย็นเท่าไร ถ้าเข้าใจหลักของคำว่า “อาหารแลกเปลี่ยน” ซึ่งจะเขียนเล่าให้ฟังเพิ่ม

    บันไดเรื่องความเค็มก็ขอให้ปรับลดลงด้วย การลดเครื่องปรุงเค็มๆ การงดใช้ผงปรุงรสต่างๆ ใช้แต่เกลืออย่างที่พ่อครูบอกเล่าให้จริงจัง คุมเกลือเข้าร่างกายให้ได้อย่างที่น้องหนิงได้ทำให้ดูแล้ว


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.046276807785034 sec
Sidebar: 0.17759299278259 sec