สารพิษตัวนี้อยู่ใกล้ตัวมากๆ
อ่าน: 4159เมื่อเดือนที่แล้วมีข่าวในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ชวนชิมเมนูหน่อไม้ในงานมหกรรมชุมทางอาชีพที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอร์แลนด์ อ่านข่าวแล้วเสียววาบในใจ เพราะว่างานมหกรรมแบบนี้คนจะเยอะ เมนูเด่น เมนูดังจะเป็นเมนูฮอตฮิตติดลมเรียกลูกค้าดีนัก
เมนูเด็ดนี้เรียกแขกตรงที่เกริ่นนำว่า ใช้หน่อไม้พันธุ์ใหม่ๆดิบๆมาปรุงขึ้น แต่หน่อไม้มีสารต้องห้ามที่ให้โทษถ้าไม่ปรุงให้ดี ลิ้นบอกรสชาติสารตัวนี้ไม่ได้ รู้อีกทีโน่นเลย มีอาการ สารนี้เป็นไกลโคไซม์ที่เคยไว้เล่าไปแล้ว ต้องห้ามตรงคุณสมบัติที่ธรรมชาติมอบพิษไว้ให้ป้องกันตัว
เจ้าสารต้องห้ามนี้เคยทำเรื่องไว้หลายรูปแบบให้คนเสียสุขภาพ ร้ายแรงถึงตายไปเลยก็มี จะไม่ให้เสียววาบแทนคนอยากชิมเมนูเด่นนี้ได้ยังไง มีเรื่องน่าสนใจเหล่านี้อยู่ จึงเก็บมาเล่าสู่กันฟังค่ะ :
ปี ๒๕๔๘ มีเรื่องฮือฮาเกิดขึ้นว่าความนิยมบริโภคสัตว์น้ำ ทำให้มีคนคิดรวยลัดโรยยาเบื่อในทะเลสาปสงขลา เพื่อให้ได้สัตว์น้ำมาขายง่ายขึ้น มากขึ้น ถิ่นแดนที่เกิดเรื่องนี้มากอยู่ที่ ต.ปากรอ อ.ระโนด ต.แหลมโพธิ์ อ.หาดใหญ่ และ ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา การวางยาเบื่อก็ใช้วิธีล้อมอวนเป็นวงกลม ๒๐ เมตร แกว่งสารยาเบื่อลงไปราว ๑๐ นาที ปลาจะหนีตายมาติดอวน ได้ปลาก็นำมาล้างยาเบื่อออกทันที ปลาตัวไหนล้างช้า ยาเบื่อจะซึมเข้าในเนื้อทำให้เน่าเสีย มียาเบื่อตกค้างทำให้เกิดภาวะน้ำทะเลมีพิษส่งผลต่อสัตว์น้ำวัยอ่อน เจ้ายาเบื่อตัวนี้ เรียกว่า “โซเดียมไซยาไนด์ NaCN” เรื่องนี้แก้ได้แค่ไหนไม่รู้ความคืบหน้า
ปี ๒๕๔๙ สำนักงานมาตรฐานสินค้าการเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เจอว่าคนบริโภคหน่อไม้ต้มต่อคนต่อวัน เท่ากับ ๑๒๖.๖ กรัม
ปี ๒๕๕๐ สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สำรวจปริมาณไซยาไนด์ในหน่อไม้ตามท้องตลาด ๓ ชนิด ในช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน พบหน่อไม้สดมีไซยาไนด์ ๑๐๐ มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หน่อไม้ต้มหรือหน่อไม้ปี๊บมี ๑๖.๙ มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และหน่อไม้ดอง ๒๒ มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ปี ๒๕๕๑ มีเรื่องฮือฮาว่าเหมืองทองคำที่บ้านนาหนองบง ม.๓ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ปล่อยสารพิษลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ มีชาวบ้านเดือดร้อน ๑๐๔ ราย เจ็บป่วย ๖ ราย คนป่วยอายุอยู่ระหว่าง ๓๖-๕๑ ปี เป็นผู้หญิงทั้งหมด เหตุเกิดหลังเหมืองเปิดทำการไปแล้วเกือบ ๒ ปี แหล่งน้ำนี้เป็นส่วนต้นๆน้ำของ ห้วยฮวยและห้วยผุก น้ำในห้วยมีสารไซยาไนด์และแมงกานีสค่อนข้างสูง วันนี้ดูเหมือนเรื่องนี้ยังไม่จบลง
ปี ๒๕๕๒ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำรวจสารพิษในหน่อไม้ต้ม เจาะประเด็นไปที่สารไซยานิคไกลโคไซด์ พบว่าหน่อไม้ต้มและหน่อไม้ปี๊บตามท้องตลาดมีสารไซยาไนด์ตกค้าง เฉลี่ย ๑๙.๔ มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ใช้ข้อมูลจากปี ๒๕๔๙ เรื่องการบริโภคหน่อไม้ต้มมาคำนวณ พบว่าปริมาณไซยาไนด์ที่คนส่งลงท้องเฉลี่ยอยู่ที่ ๐.๐๔๑ กก.ต่อวัน คนไหนกินมากหน่อยก็ได้เข้าไปเฉลี่ย ๐.๐๙๒ มก.ต่อกก.ต่อวัน
ความปลอดภัยอยู่ตรงไหนสำหรับเชื้อสายคนเอเซีย ไม่ปรากฏค่าอ้างอิง พอมีค่าให้อ้างอิงจากอเมริกาและองค์การอนามัยโลกเท่านั้นเขาเรียกว่า ปริมาณที่ร่างกายพอรับได้ต่อวันกำหนด ( ADI- Acceptable Daily Intake) หน่วยเป็นมิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว ๑ กก.
ค่าที่พอรับได้ของสารไซยาไนด์ กำหนดไว้ ไม่เกิน ๐.๐๕ มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน
กลับไปดูข้อมูลภาพรวมของคนไทย ดูเหมือนจะปลอดภัยจากสารตัวนี้ แต่ถ้าเจาะลึกลงไปในกลุ่มที่บริโภคมากจะพบว่ารับเข้าร่างกายไปเกินกว่าที่ควรรับ ๑.๘ เท่า
เมื่อต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๕ มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่ามีเด็ก ๔ ขวบเสียชีวิตหลังกินมันสำปะหลังทอดพร้อมเพื่อน เหตุเกิดที่จังหวัดราชบุรี เกิดอาการไม่ปกติตอนเย็น ก่อนเข้านอน พบเสียชีวิตตอนเช้า
สารไซยาไนด์เข้าร่างกายได้หลายทาง เข้าไปมากอันตรายถึงตาย เข้าไปน้อยไตกรองทิ้งปล่อยออกทางปัสสาวะได้ อันตรายเกิดจากสารนี้ไปแย่งที่เกาะของออกซิเจนที่เม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน
วิธีลดสารตัวนี้ให้ลดลงในมันสำปะหลังเล่าไปแล้ว สำหรับหน่อไม้ มีำแนะนำให้ต้มด้วยอุณหภูมิน้ำเดือดอย่างน้อย ๑๐ นาที ก่อนนำไปเป็นเมนูบริโภครูปแบบอื่นๆ จะเป็นหน่อไม้ขมหรือหวานหรือจืด ต้องต้มก่อนเสมอ
การต้มด้วยความร้อนที่อุณหภูมิน้ำเดือดอย่างน้อย ๑๐ นาที สามารถช่วยลดระดับสารไซยาไนด์ได้ถึง ๙๐.๕ %
เพื่อความปลอดภัย เมนูที่ใช้หน่อไม้ทุกรูปแบบ (สด ต้ม ดอง แห้ง) อย่าลืมต้มเดือดอย่างน้อย ๑๐ นาที และอย่าใช้น้ำต้มปรุงอาหารต่อค่ะ
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕
« « Prev : เขาว่าต้นนี้ฤทธิ์แก้ปวดแรง
Next : ผักชนิดนี้…ช่วยให้ถ่ายสบาย…หลับง่าย » »
1 ความคิดเห็น
น่าเป็นห่วงนะครับ สำหรับชาวบ้านป่าที่บริโภคหน่อไม้เป็นอาหารหลักเมื่อถึงฤดูกาล
สมัยอยู่ดงหลวง ช่วงต้นฤดูฝนหากวัวไปกินยอดมันสำปะหลังเพียงเล็กน้อย ก็ตายได้ทุกตัวครับ
ทีนี้มามองถึงนิสัยหรือเมนูการกินอาหารของชาวถัินที่มันสำปะหลังพันธุ์นี้ยังไม่เคยเข้าไปถึง
พวกท่านปลูกแต่มันสำปะหลังพื้นเมืองที่เรียกว่ามันต้น เป็นประเภทที่มีไซยาไนด์ต่ำมากๆ
ท่านเลยใช้ยอดมันผลอ่อนของมันฯ มาลวกจิ้มน้ำพริกเป็นอาหารประจำโต๊ะกินข้าว
เป็นห่วงว่าหากเจ้าพันธุ์ส่งเสริมที่มีไซยาไนด์ปริมาณสูงๆแพร่หลายเข้ามา พี่น้องชาวบ้านจะไม่รู้แล้วไปกันข้าว
นอกเรื่องอีกหน่อย
เกี่ยวกับกรดยูริค
วันก่อนพาพี่น้องชาวลาวไปดูงานเมืองไทย ท่านมีโรคเก๊าท์ประจำตัวอยู่ ก็ช่วยๆระมัดระวังเมนูให้ เลือกให้ทานปลาเป็นหลัก งดไก่ งดหน่อไม้กับยอดผัก มีอยู่มื้อหนึ่งนั่งไกลท่านไปหน่อยไม่ทันดูแล ปรากฏว่าท่านปลื้มหน่อไม้ฝร่งผัดเห็ดหอมเข้า ผลลัพธ์คือต้องพาไปคลีนิคตั้งแต่หัวค่ำข้อมือข้อเข่าบวมขึ้นทันตา