หมอเจ๊เล่าเรื่อง

บันทึกที่แล้วเล่าสู่กันฟังเอาไว้ว่า ใช้หลัก ๖ หลักในการคัดอาหารก่อนนำเข้าปากตอนไปงานเลี้ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้กรดยูริกสูงในเลือด เป็นหลักที่นำมาใช้ตามคำแนะนำของธงโภชนาการอยู่ ๔ หลัก

บันทึกนี้จึงจะมาเล่าเบื้องหลังว่าทำตามธงโภชนาการแล้วเหตุใดจึงช่วยเอื้อในเรื่องของการจัดการกรดยูริกในเลือดให้ไม่สูงได้ด้วย

เรื่องของ ๒ ใน ๖ หลักคือแหล่งพิวรีนเขียนไว้ที่บันทึกก่อนแล้ว และเรื่องน้ำเขียนไว้ที่นี่แล้วนะคะ

วันนี้มาขอเพิ่มในส่วนของหลัก ๔ หลักจากธงซึ่งมีดังนี้ : ๑. กินพืชมากกว่าสัตว์  ๒. กินน้ำตาลน้อยๆ ๓.  กินไขมันน้อยๆ  ๔.  กินเกลือน้อยๆ ว่าไปมีเอี่ยวอะไรกับเรื่องของกรดยูริกหรือ

ขอทำความเข้าใจก่อนว่า กรดยูริกไม่ใช่ของเสียนะคะ

แต่ที่ร่างกายต้องกำจัดนั้นเพื่อจัดสมดุลเคมีในร่างกายให้เกิดสมดุล สมดุลในที่นี้หมายถึงมีสถานะทางเคมีที่พอดีให้อวัยวะต่างๆทำงานได้อย่างสบายๆ

กรดยูริกเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีปริมาณอยู่ราว 50% ของสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในร่างกายเชียวนา และจำนวน 90% ของกรดยูริกในร่างกายมาจากโรงงานผลิตที่อยู่ในร่างกาย

ร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้นมีธรรมชาติของการจัดการตัวเองให้ลงตัวชนิดไม่เคยหลับ  การจัดการสมดุลเคมีเป็นกลไกที่ไม่เคยหลับเช่นกัน

กระบวนการดื่มกินเป็นกลไกหนึ่งที่ไปสะกิดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับสมดุลเคมี ระดับของกรดยูริกในเลือดเป็นผลผลิตของการปรับสมดุลเหล่านี้ส่วนหนึ่งด้วย

กระบวนการดื่มกินที่มีผลให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น คือ กระบวนการดื่มกินที่ทำให้เกิดความเป็นกรดเกิดขึ้นในระหว่างการย่อยและดูดซึมหน่วยย่อยที่สุดของอาหารเหล่านั้นไปใช้

การดื่มกินสิ่งเหล่านี้่้มีผลทำให้กรดยูริกในเลือดขึ้นสูงได้เพราะในระหว่างกระบวนการย่อยสลายมีกรดใหม่เกิดขึ้นอย่างน้อยหนึ่งตัวใน ๒ ตัวมาทำให้เลือดเป็นกรดมากขึ้น

ตามมา ตามมาค่ะ มารู้จัก ๑๒ เซียนที่มีผลทำให้ระดับกรดยูริคในเลือดสูงได้เอาไว้หน่อย จะได้ยั้งๆเวลาจะตักหรือหยิบมันใส่ลงท้องจนลืมตัวหรือลืมเตือนตัวเองให้ปรับปรุงเรื่องการจัดการใส่ลงท้อง

กลุ่มที่ ๑   อาหารที่มีไขมันสูง ย่อยแล้วให้กรดใหม่ตัวหนึ่ง ซึ่งไตจะเลือกขับทิ้งก่อนเพราะขืนให้สะสมอยู่นานๆ ก่อผลลบให้ร่างกาย

กลุ่มที่ ๒   แอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ และในกระบวนการย่อยยังให้กรดออกมาใหม่ 2 ตัว ซึ่งก่อผลลบต่อร่างกาย ไตจึงขอบาย เปิดทางให้ออกไปก่อนกรดยูริก

กลุ่มที่ ๓   น้ำตาลฟรุคโตส เจ้าตัวนี้เวลาไตขับทิ้ง มันดูดน้ำพาออกไปพร้อมกันด้วย ปล่อยเรื่อยๆ ร่างกายก็แห้งน้ำ กรดยูริกก็ตกผลึก

กลุ่มที่ ๔   การออกกำลังกายที่หักโหมหรือในระดับหนักเกินปกติของตน กลไกที่ให้ผลลบเหมือนแอลกอฮอล์(ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ)

กลุ่มที่ ๕   อาหารที่ไม่มีแป้งเลย หรือก็คือกินแต่โปรตีน…น่านนนน…แหละ กลไกที่ส่งผลต่อกรดยูริกเหมือนกับกลุ่มอาหารไขมันสูง

กลุ่มที่ ๖   อาหารที่มีวัยเอ๊าะๆหรือต้องใช้พลังงานสูงในชีวิตประจำวันหรือต้องเก็บพลังงานไว้เพื่อการแพร่พันธุ์ ได้แก่ ผักกำลังโต ผักงอกๆ  สัตว์ตัวน้อยๆที่กำลังโต  ไข่ที่กำลังฟัก  เครื่องเคราภายในทั้งหลายของสัตว์ สัตว์น้ำ สัตว์ปีก เม็ดเลือด ถั่วเมล็ด

ที่กลุ่มนี้มีผลเพิ่มกรดยูริกได้ก็เพราะการอยู่ในระยะกำลังโตหรือต้องซ่อมแซมตัวเองบ่อยๆให้แจ่มแจ๋วตลอดเวลาหรือจำเป็นต้องสะสมให้มีพลังงานพอใช้งาน  RNA DNA จึงมีอยู่เยอะแยะไปหมด  เอามากินมาย่อยแล้วกรดยูริกก็เยอะซิ ก็กรดยูริกมาจากการย่อยสลาย RNA DNA นี่นา

กลุ่มที่ ๗   อาหารที่มีรสเค็ม การขับเกลือทิ้งจากร่างกายใช้เวลา ๕ วัน การมีเกลือค้างในร่างกายจำนวนสูงทำให้เลือดเป็นกรด การขับทิ้งกรดยูริกทำได้น้อยลง กรดยูริกจึงค้างสูงในเลือด

กลุ่มที่ ๘   ดื่มน้ำน้อย การขาดน้ำทำให้กรดยูริกตกผลึกง่ายอย่างที่เล่าไว้แล้ว

กลุ่มที่ ๙   ยารักษาโรคบางตัวที่ใช้รักษาโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคของปอดบางโรค กลไกเกิดจากการย่อยสลายของยาทำให้เลือดเป็นกรดหรือร่างกายเสียน้ำแล้วขาดน้ำ

กลุ่มที่ ๑๐ สารเคมีสังเคราะห์ ความเป็นพิษต่อร่างกาย ทำให้เลือดเป็นกรด จำเป็นต้องสับหลีกขับทิ้งก่อนกรดยูริก

กลุ่มที่ ๑๑  ความเย็นภายในร่างกาย ทำให้กรดยูริกตกผลึกง่ายขึ้น

กลุ่มที่ ๑๒  คาเฟอีน กลไกเกิดจากทำให้มีการสลายไขมัน เพิ่มความเป็นกรดให้เลือด และเสียน้ำจากการปัสสาวะเพิ่มขึ้น กรดยูริกจึงขับได้น้อยลง

รู้จัก ๑๒ เซียนกันแล้ว เห็นหรือยังว่าธงโภชนาการมีประโยชน์ที่ใช้ได้เจ๋งกับการป้องกันกรดยูริกสูงได้ด้วย….อย่างไร

เดี๋ยวนี้ธงโภชนาการได้ถูกมอบให้คุณครูทั้งหลาย ช่วยกันนำไปปูพื้นฐานให้กับเด็กๆในโรงเรียนกันด้วย

จึงขอฝากให้ครูช่วยกันสร้างนิสัยให้เด็กๆผ่านการเรียนรู้ประจำวันไปเรื่อยๆด้วยนะคะ ก็กว่าที่กรดยูริกที่สูงจะมีสัญญาณให้รู้้ ใช้เวลาสะสมนานทีเดียวค่ะ ๑๐-๒๐ ปีไปแล้วจึงเริ่มส่งสัญญาณของการปวดข้อค่ะ

อ้อ ลืมไป เวลาเลือกใช้หลักธง กินพืชมากกว่าสัตว์ อย่าลืมใช้หลักนำเซียนข้อที่ ๖ เข้าไปพิจารณาด้วยนะคะ

หมายเหตุ บันทึกนี้คือคำอธิบายที่มาของข้อสรุปในบันทึกเรื่องนี้ด้วยค่ะ

« « Prev : แหล่งอาหารที่เป็นต้นแหล่งให้กรดยูริคเกิดขึ้นในร่างกาย (พิวรีน)

Next : การดื่มน้ำ….มีเรื่องที่ควรรู้และพิจารณาอยู่นะ » »