แหล่งอาหารอื่นๆที่ให้พลังงาน
มีเพลงลูกทุ่งสมัยหนึ่งที่ฮิตฮอตมาก ฉันจำไม่ได้หรอกว่านักร้องเป็นใคร จำได้แต่ว่าต้นเนื้อร้อง มันร้องว่า “น้ำมันแพง คุยกับแฟนก็ต้องปิดไฟ…” เพลงนี้ดังขึ้นมาในยุคที่น้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นราคาจากลิตรละไม่กี่สตางค์ขึ้นมาเป็นสิบบาท จนปั๊ดตะนามาเป็นลิตรละกว่าสามสี่สิบบาทอย่างเดี๋ยวนี้ การที่น้ำมันแพงจะว่าดีก็ดี ไม่ดีก็ไม่ดี ดีที่ว่าคนที่ไม่เคยมีโอกาสได้นั่งรถเมล์-รถไฟฟรีก็มีโอกาสได้นั่งฟรี ดีที่ว่าทำให้มีการดิ้นรนพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานจนกระทั่งค้นพบน้ำมันไบโอดีเซล มีการผลิตก๊าซโซฮอล์ขึ้นมาขาย ไม่ดีที่ว่าจะเติมน้ำมันทีกระเป๋าฉีก ไม่ดีที่ว่าเปลี่ยนน้ำมันไปใช้ก๊าซก็เสี่ยงกับไฟครอกหรือรถระเบิดระหว่างขับรถ เฮ้อ! กรรมนะคะ
ในเมื่อเครื่องยนต์ยังมีแหล่งเชื้อเพลิงให้ใช้หลายรูปแบบ มิรึที่เครื่องเคราของมนุษย์อย่างเราจะไม่มีอย่างเค้ามั่ง ใช่แล้วใช่ นอกจากพืชอาหารและน้ำตาลแล้วนั้น มนุษย์ยังมีแหล่งอาหารอย่างอื่นที่ป้อนถ่านให้กระบวนการสันดาปด้วย ถ้าเรียกแหล่งอาหารที่ให้ถ่านน้ำตาลกลูโคสว่าเป็นเหมืองแร่ แหล่งอาหารที่กำลังจะเล่าให้ฟังนี้ก็เป็นแค่บ่อ เป็นบ่อที่จำเป็นต้องมีอยู่เพื่อใช้ขุดเชื้อเพลิงสำรองมาใช้ยามเกิดสงครามหรือขัดสนค่ะ
แหล่งอาหารที่จะกล่าวถึงในที่นี้ คือ ไขมัน และ โปรตีนค่ะ ตัวถ่านที่ไขมันส่งให้เตาเผานั้น คือ ถ่านที่เรียกว่า กรดไขมัน ตัวถ่านที่โปรตีนส่งให้เตาเผานั้น คือ ถ่านที่เรียกว่า กรดอะมิโน
เชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์นั้นมีทั้งเชื้อเพลิงสะอาด และเชื้อเพลิงที่ก่อมลพิษ ถ่าน 3 ประเภทในร่างกายคนเราก็มีคุณสมบัติคล้ายกัน ถ่านที่ร่างกาย ถือว่าเป็นเชื้อเพลิงบริสุทธิ์ คือ ถ่านกลูโคส เนื่องจากเมื่อผ่านกระบวนการสันดาปแล้วจะเหลือเพียงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเท่านั้น ในขณะที่ถ่านอีก 2 ประเภท มีสารหลงเหลือที่ให้โทษแก่ร่างกาย
ด้วยเหตุที่ถ่านกลูโคสดีที่สุด ร่างกายจึงมีกฎการเคลื่อนย้ายถ่านไปเผาที่มีความเคร่งครัดมากในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมค่ะ ลำดับการเคลื่อนย้ายถ่านไปไช้งาน จึงเริ่มจากการใช้ถ่านกลูโคสก่อนถ่านอย่างอื่น ถัดมาจึงเป็นถ่านกรดไขมันซึ่งจะใช้ก็ต่อเมื่อถ่านกลูโคสไม่พอหรือถ่านกลูโคสไร้คุณภาพ ส่วนถ่านกรดอะมิโนจะไม่ถูกใช้ถ้าไม่ใช่ยามสงครามที่ขัดสนจริงๆ เมื่อไรที่ร่างกายคนต้องใช้ถ่านจากรดอะมิโนไปเผา แสดงว่าคนนั้นป่วยหนักมากจริงๆหรือเป็นคนใกล้ม๊วยที่เตรียมเผาจริงกันค่ะ
ถึงแม้ถ่านกลูโคสจะเป็นเชื้อเพลิงสะอาดก็ตาม ในบางภาวะของตัวคนก็มีเหมือนกันที่กระบวนการสันดาปถ่านกลูโคสให้สารหลงเหลือที่เป็นโทษแก่ร่างกาย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะถ่านกลูโคสด้อยคุณภาพหรือจะเป็นเพราะกระบวนการสันดาปไม่สมบูรณ์ก็แล้วแต่ เหตุการณ์เช่นนี้พบได้ในคนป่วยบางโรค เช่น เบาหวาน อ้วน ความดันโลหิตสูง
ตอนต้นบันทึกกล่าวไว้แล้ว ว่าร่างกายจะมีบ่อเก็บอาหารไว้เป็นเชื้อเพลิงสำรองยามเกิดสงครามหรือขัดสน ตอนนี้เลยจะเล่าโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับถ่านทั้ง 3 ตัวต่ออีกนิด เมื่อร่างกายรับเอาถ่านกลูโคสเข้าไปส่งให้เซลล์เยอะเพียงพอแล้ว ประตูเซลล์หรือด่านที่ 3 จะปิดห้อง ก่อนปิดห้องก็จะไล่ผู้ที่ขนส่งถ่านมาให้ ให้ขนถ่านกลูโคสที่เหลืออยู่ไปแปรรูปเป็นถ่านกลูโคสรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “ไกลโคเจน” แล้วให้ขนไปเก็บที่โกดังค่ะ โกดังแห่งแรกที่รับเก็บ คือ ตับที่มีอันเดียวของเรานี่แหละ โกดังถัดมาที่รับต่อ คือ กล้ามเนื้อลายทุกส่วนของร่างกาย ถ้าโกดัง 2 แห่งนี้เต็มแล้ว ยามเฝ้าโกดังจะปิดรับ ถ่านกลูโคสที่ยังเหลือจะถูกยามไสส่งให้นำไปแปรรูปเป็นไขมัน แปรรูปแล้วก็จะถูกส่งต่อไป ไปเก็บไว้ที่โกดังแห่งใหม่ค่ะ โกดังใหม่นี้ก็คือ เซลล์ไขมันค่ะ
ใช่แล้วค่ะ ฉันกำลังบอกว่า หากท่านกินอาหารที่มีถ่านกลูโคสจนเหลือหรือล้น นั่นก็เท่ากับท่านกำลังสร้างความอ้วนให้ตัวเอง อ้วนตรงไหนบ้าง ตรงไหนก่อน ตรงไหนหลัง เชิญชวนไปอ่านที่นี่ก็แล้วกัน โกดังแห่งหลังนี้ไม่จัดยามไว้เฝ้าเป็นโกดังที่รับไม่จำกัด ยังมีดีหน่อยที่ว่า ถ้าโกดังมันล้นเกินหรือน่าอึดอัด ไขมันที่ขนมาฝากจะถูกแบ่งไปฝากไว้ที่โกดังเพื่อนฝูงด้วย โกดังเพื่อนฝูงที่ว่านี้ คือ เซลล์ไขมันซึ่งอยู่ที่ตับ ที่พังผืดในช่องท้อง และที่พังผืดที่หัวใจ
ท่านก็รู้แล้วว่าถ่านที่ใช้งานในกระบวนการสันดาปไม่ได้มีแต่ถ่านกลูโคสเท่านั้น ยังมีถ่านกรดไขมัน และ ถ่านกรดอะมิโนอีก เจ้าถ่าน 2 ประเภทหลังจึงมีโลจิสติกส์เหมือนกัน โลจิสติกส์มันก็เหมือนถ่านกลูโคส คือ ถ้ามีเหลือล้นเกินใช้งานจะถูกนำไปแปรรูปเสียใหม่แล้วจึงขนไปเก็บในโกดัง รูปใหม่ที่แปรไปก็เป็นรูปไขมันเหมือนกัน โกดังที่ขนไปเก็บก็โกดังเดียวกันนี่แหละค่ะ
เปิดโรงเล่นละครมาหลายตอนแล้ว ได้เล่นดำเนินมาตามท้องเรื่อง ลำดับความมาช้าๆ ไม่รู้ว่าท่านพอจะจำเรื่องได้บ้างไหม ท่านที่อ้วนลองดูหน่อย ลำดับเหตุการณ์ดูนะค่ะว่า เนื้อเรื่องที่เล่าเป็นอย่างไร แล้วท่านจะพบเคล็ดลับของการทำให้หุ่นงามกว่าเดิม ถ้ายังไม่พอขอแนะนำว่าให้ไปอ่านที่นี่ค่ะ มีเคล็ดลับอีกหลายอย่างที่ง่ายๆ ทำไปแล้วท่านก็จะได้หุ่นงามๆคืนมาค่ะ
เตือนไว้ก่อนนะค่ะ อย่าได้อยากหุ่นงามมากจนกระทั่งไปทำอย่างนี้นะค่ะ เว่อร์ไปค่ะเว่อร์ไป เดี๋ยวเอว หลังจะเดี๊ยงจนหักค่ะ
ถ้ายังอยากทำทำอย่างนี้ยังพอไหว
แต่อยากเชียร์ให้ทำเบาะๆแค่นี้พอค่ะ
และถ้าจะทำอย่างนี้ ฉันขอเผ่น ตัวใครตัวมันนะค่ะ
« « Prev : ชวนมาทำความรู้จักแหล่งอาหารกันต่อ
Next : ขอเล่าเรื่องฉลากโภชนาการซะหน่อยดีกว่า » »
3 ความคิดเห็น
เคราะห์ดีจริงๆ พี่ไม่ชอบกินอาหารเป็นโทษทั้งหลาย เลยยังไมอ้วนๆแบบในรูปค่ะ อิๆๆๆ
เห็นรูปแล้วขำค่ะ แต่ได้ความรู้มากมาย ^ ^
ขอบคุณพี่หมอเจ๊มากค่ะ
#1 #2 รู้แล้วบอกต่อเพื่อช่วยคนอื่น จะเป็นกุศลยิ่งค่ะ