อุ่นเครื่องเมืองหงสา 1

โดย bangsai เมื่อ 26 กรกฏาคม 2009 เวลา 12:47 ในหมวดหมู่ เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 3990

เอาบันทึกเก่ามาอุ่นเครื่องเมืองหงสากันครับ..

เทียบเชิญ: ปลายปี 51 ได้รับเทียบเชิญจากท่าน paleeyon ให้ชวนเพื่อนร่วมงานไปเมืองหงสา ลาว ไปฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ลาวเรื่อง PRA เมืองหงสานี้ติดกับเมืองเงิน ซึ่งติดกับ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ์ จังหวัดน่านของเรา เมืองหงสาอยู่ในแขวงไชยบุรี สปป.ลาว


เดินทาง: เริ่มต้นที่สุวรรณภูมินั่ง PB air ไปลงน่านแล้วนั่งรถจากน่านไป “ด่านห้วยโก๋น” อ.เฉลิมพระเกียรติ์ ระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ผ่าน อ.ท่าวังผา อ.เชียงกลาง อ.ทุ่งช้าง เข้า “ด่านน้ำเงิน” ของลาว แล้วเข้าเมืองเงิน จากเมืองเงินไปเมืองหงสา ระยะทางจากด่านถึงเมืองหงสาประมาณ 40 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาทั้งหมดจากน่านไปถึงเมืองหงสาประมาณ 4 ถึง 4.30 ชั่วโมง แบบไม่มีอะไรติดขัดนะ


สองข้างทางจากน่านไปถึงด่านห้วยโก๋นนั้น คนที่ชอบภูเขาและธรรมชาติจะตื่นตาตื่นใจ เพราะจะเห็นต้นไม้ ป่า พืชเศรษฐกิจของชาวบ้าน วิถีชีวิต และถนนหนทางที่สะดวกสบาย ตรงข้ามจากด่านน้ำเงินของลาวไปเมืองเงินไปเมืองหงสานั้น แม้ธรรมชาติป่าจะดีกว่าฝั่งไทยแต่สภาพถนนนั้นมีแต่ลูกรังและถนนอยู่บนยอดภูเขา ไหล่เขา ทั้งสิ้น แต่ก็สวยงามไปอีกแบบหนึ่งครับ


ด่านชายแดนเหงาๆ: ที่ด่านห้วยโก๋น สภาพเงียบเหงา ไม่โอ่อ่าฟู่ฟ่าเหมือนด่านมุกดาหาร-สะหวันนะเขต มีร้านค้าสองสามร้าน เป็นร้านที่ขายของกินของใช้ที่จำเป็น และร้านอาหารหนึ่งร้าน ช่วงที่เราเดินทางนั้นมีเพียงเราสามคนเท่านั้นที่ข้ามผ่านแดน เจ้าหน้าที่นั่งตบยุงทั้งวัน เพื่อนผู้ร่วมเดินทางจัดการเอา Passport ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แล้วเราก็นั่งกินข้าวกลางวันกันที่นั่นแล้วจึงเดินทางต่อไปโดยขออนุญาตนายด่านเอารถไปส่งเราที่ด่านฝั่งลาวอีกประมาณ 100 เมตร


ตื่นเต้นอ่ะ: ที่ด่านน้ำเงินฝั่งลาวนี้มีเรื่องให้ตื่นเต้น คือ นายด่านไม่อนุญาตให้เราเข้าไปเพราะไม่มี Visa เอาแล้วซี…. เราต้องนั่งโคนต้นพิกุลที่เห็นนั่น(รูปล่าง)ประมาณสองชั่วโมง รอให้เจ้าหน้าที่บริษัทเจรจา จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อน ในฐานะที่เราไม่เคยผ่านด่านนี้ก็ลุ้น เพื่อนร่วมทางก็วางแผนขณะที่รอการเจรจาว่ามี 2 หนทางที่แก้ไขหากไม่สามารถผ่านด่านนี้ได้ คือ เดินทางกลับไปน่านแล้วต่อไปเชียงใหม่นั่งเครื่องบินไปหลวงพระบางแล้วนั่งเรือเร็วในแม่น้ำโขงประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นมาถึงท่าส่วง แล้วนั่งรถมาเมืองหงสา(อะไรจะอ้อมโลกขนาดนั้น..) อีกทางคือนั่งรถไปน่าน ไปชียงราย ไป อ.เชียงของแล้วนั่งเรืออีก 6 ชั่วโมงล่องแม่น้ำโขงมาบ้านท่าส่วง แล้วนั่งรถมาเมืองหงสา แต่ไม่สนุกสักเส้นทางเพราะกินเวลามากมาย และจะทำให้โปรแกรมการฝึกอบรมต้องเสียหายไปด้วย


ทำไมไม่ทำ Visa : ขอไม่อธิบายนะครับเป็นเหตุผลเฉพาะ

ได้เฮ: เมื่อเรานั่งตื่นเต้นอยู่ 2 ชั่วโมงการเจรจาบรรลุผลอนุญาตให้ผ่านได้ แต่ต้องมีคนค้ำประกัน…..เฮ…. เมื่อเราเดินทางต่อ แม้จะนั่งหน้ารถแต่ไม่สามารถจะถ่ายรูปได้เลย เพราะทางขรุขระโยกไปโยกมาตลอด แม้วิว ทิวทัศน์จะสวยงามแต่ก็ไม่อยากรบกวนพนักงานขับรถให้หยุดเพื่อถ่ายรูป.. แท้ในใจอยากจะหยุดรถหลายต่อหลายครั้ง…. เส้นทางบนยอดเขานั้น ธรรมชาติในช่วงฤดูฝนสดชื่นมาก เขียวขจีไปหมด ไม่รู้ว่าในช่วงฤดูแล้งจะมีไฟป่าเหมือนบ้านเราหรือไม่… .

เราผ่านเมืองเงิน และในที่สุดพนักงานขับรถดูนาฬิกาแล้วบอกว่าพอมีเวลา จะพาไปวนดูเมืองเงินซะหน่อย

สิ่งที่คิดส่วนหนึ่ง: การได้มาน่านในวันข้างหน้า แล้วเลยไปหงสา คิดว่าต้องหาเวลามาเที่ยวในสถานที่หลายๆแห่งดังนี้

  • เส้นทางก่อนไปหงสา ควรเที่ยวจังหวัดน่านก่อน แค่มากราบพระเก้าวัดที่เมืองน่านก็คุ้มสุดคุ้มแล้ว มีวัดพระธาตุแช่แห้ง วัดพญาภู วัดภูมินทร์ วัดมิ่งเมือง วัดหัวข่วง วัดพระธาตุช้างค้ำ วัดสวนตาล วัดพญาวัด วัดพระธาตุเขาน้อย
  • แค่ไปดูพิพิธภัณฑ์งาช้างดำ พิพิธภัณฑ์ผ้าพื้นบ้าน โบราณ ก็สุดคุ้มแล้ว
  • แค่ไปดูดอกชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัวเดือน กุมภา-มีนาก็คุ้มแล้ว
  • ไม่ต้องนั่ง “ยนต์เหาะ” (เครื่องบิน) เอารถไปเที่ยวก็สนุกโขแล้ว
  • น่านเป็นเมืองค่อนข้างปิด เพราะมิใช่เมืองผ่าน สภาพธรรมชาติ วิถีชีวิตยังเดิมๆอยู่มาก ใครที่ชอบแบบนี้ ไม่ผิดหวังครับ
  • ยิ่งข้ามไปเมืองหงสา โอยคุณเอ๋ย ผมนึกถึงชนบทภาคเหนือของไทยเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาจริงๆ
  • การเดินทางข้ามประเทศ แม้ใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง แต่ก็ชอบ สนุก และแปลกหูแปลกตาต่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ชีวิตเพื่อนร่วมโลกอีกซีกหนึ่ง
  • คนเรานี่ก็ดิ้นรนจริงๆ ป่าเขาสูงชัน ไกลแหล่งความสะดวกสบาย ทำไมพากันมาอยู่ได้ ในป่าในเขาเช่นนี้
  • คิดถึง bloggers ชาวเฮฮาศาสตร์ หากมาจัดเปลี่ยนบรรยากาศที่เมืองหงสา ตั้งแค้มป์เรียนรู้วิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวหงสากันสักสองสามวันน่าจะดี โดยเฉพาะคนที่ชอบ “ลุยๆ”
  • หากข้ามไปเมืองเงิน เมืองหงสาแล้ว เราไปหาคำตอบกันว่า ความพอเพียงคือระดับที่เหมาะสมของการดำรงชีวิต และเป็นทางออกของเป้าหมายการพัฒนาหรือไม่

สน ม๊ะ……. หากสน..ลุงเปลี่ยนเทหมดหน้าตักแน่ๆ..

« « Prev : ภาพเก่าเล่าเรื่อง 14 ในหลวงกับสะเมิง

Next : อุ่นเครื่องเมืองหงสา 2 » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

123 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 3.6398110389709 sec
Sidebar: 0.047531127929688 sec