ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ จึงถูกกำหนดให้เป็นผู้ดำเนินรายการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มาตรา 67 (วรรค 2) และกฎหมายอื่นๆ ที่สอดคล้องกัน จริงๆในกลุ่มเพื่อนร่วมงานก็สามารถทำหน้าที่ บทบาทนี้ได้ แต่ปรากฏการณ์ทางสังคมนั้นเขาเหล่านั้นอาจจะผ่านมาน้อยกว่า ระหว่างการดำเนินการอาจเกิดการเคลื่อนไหวที่รุนแรง เขาอาจจะไม่เชื่อใจตนเองว่าจะควบคุมได้อย่างไร เขาเลยมอบความไว้วางใจให้เรามาทำหน้าที่นี้
เราเรียก “การประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียเรื่อง….” กฎหมายปัจจุบันให้สิทธิประชาชนมาก ที่หน่วยงานที่มีกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงจะต้องทำการประชุมรับฟังความคิดเห็น… หากไม่ทำกิจกรรมนั้นๆก็ไม่ผ่านกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ.. ก็ไม่สามารถเปิดดำเนินกิจการนั้นๆได้
จึงเป็นเวทีที่บังคับจะต้องทำซึ่งมีรายละเอียดมากที่จะต้องปฏิบัติตามมิให้บกพร่อง หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดนั้น แม้จะมีการประชุม.. และการประชุมเสร็จสิ้น แต่ไม่ครบเงื่อนไข ก็ไม่ผ่าน จะต้องจัดใหม่ ทำใหม่ ซึ่งการจัดแต่ละครั้งนั้นใช้งบประมาณจำนวนมาก ใช้กำลังคนมาก เพราะต้องใช้แสงสีเสียง และกำลังคนรับผิดชอบทุกส่วนมิให้ขาดตกบกพร่อง
ผมไม่ใช่ “แม่งาน” แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบงานเป็นคนควบคุมเวทีการรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด หากเกิดความรุนแรงขึ้นมาก็มีมาตรการจัดการที่เหมาะสม และใช้วิจารญาณจากประสบการณ์ตัดสินใจควบคุมให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย จึงเป็นบทบาทที่สำคัญที่เขามอบให้ผม เพราะมีหลายงานที่ฝ่ายข่าววิเคราะห์ว่าจะมีการประท้วง จะมีการต่อต้าน อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างดำเนินการ ซึ่งก็มีจริงจากประสบการณ์ของกลุ่มงาน…
งานที่เพิ่งผ่านมาหยกๆนี้ เป็นหน่วยงานใหญ่มากๆ มีความสำคัญต่อประเทศชาติมาก และเป็นเป้าหมายของฝ่ายคัดค้าน เพราะประชาชนเคยได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ ชีวิตและสิ่งแวดล้อมมาแล้ว และคาราคาซังกันมานาน เป็นคดีในศาลก็มี การจัดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย..จึงเป็นโอกาสตามกฎหมายที่ประชาชนเหล่านั้นจะเข้ามาพูด และแสดงออกซึ่งความเห็นของเขา จากบทเรียนของเขา จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของเขา
การประชุมเตรียมการเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้รัดกุมที่สุด เพื่อให้ดีที่สุดกับทุกฝ่ายโดยคาดการณ์ว่าจะมีชาวบ้านมาร่วม ประมาณ 2000 คน เพราะครั้งก่อนคาดการณ์ว่าจะมา 1000 แต่มาจริง 1800 กว่าคน เกิดปัญหากระทบมากมายต่อการเตรียมการที่ไม่พร้อม เช่นเอกสารแจกไม่พอ อาหารว่าง เครื่องดื่มไม่พอ อาหารกลางวันไม่พอ ขลุกขลัก ที่นั่งไม่พอ ซึ่งหน่วยงานที่ว่าจ้างไม่ชอบที่จะให้เกิดความไม่เพียงพอเช่นนั้น แบบ “เหลือได้แต่ห้ามขาด” การเตรียมการครั้งนี้จึงมโหฬารบานตะไท จ่ายไม่อั้น
โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมรับมือกับความรุนแรง ใช้กำลังมากมายทั้งตำรวจ และ รปภ. อปภร. และฝ่ายต่างๆระดมกันมาในรูปแบบต่างๆพร้อมที่จะปกป้องให้การดำเนินงานลุล่วงไปด้วยดี การตรวจสอบ การเชค การทดสอบ ล้วนใช้งบประมาณ ใช้เวลา ใช้กำลังคนมากมาย
เราก็พลอยตื่นเต้นตูมตามไปด้วย เพราะ ….ตรู..กำลังเผชิญหน้ากับอะไรหนอ…. และเราเป็นคนนอกที่ไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกของพื้นที่ ของคน ซึ่งเป็นจุดอ่อนของผู้ดำเนินการที่จะต้องทำหน้าที่ควบคุมด้วย เราจึงต้องหาข้อมูลให้มากที่สุดทั้งเอกสาร ตัวบุคคลเท่าที่จะหาได้
หกโมงเช้าทุกคนมาพร้อมที่สถานที่ดำเนินงาน พระออกบิณฑบาต หมอกจางๆกระจายไปทั่ว นกออกหากิน น้ำค้างบางๆรวมตัวกันเป็นหยดบนผิวใบไม้ริมถนน แม้ถนนก็ถูกจัดการทุกอย่างตามแผนงาน ผู้รับผิดชอบทุกฝ่ายตรวจสอบสิ่งที่เขารับผิดชอบ เครื่องมือ อุปกรณ์ทำงานไหม สิ่งของต่างๆวางในสถานที่ถูกต้องไหม work ไหม ระบบสื่อสารถูกเชค ฯลฯ
ตะวันแดงเริ่มโผล่ขอบฟ้าโน้น หมอกเมฆบดบังแล้วเคลื่อนตัวจางหายไป เสียงเรียกให้มากินข้าวห่อที่ตระเตรียมมาพร้อม เอาน้ำมาเสริฟแล้ว ต่างเชค ตรวจสอบในเรื่องที่ตัวเองรับผิดชอบกัน ผู้ว่าจ้างทยอยมาในรูปแบบต่างๆ กับต่างมองหน้ากันว่า เวลามาถึงแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นบ้างหนอ…วิตกจริตจริงๆ
แปดโมงเศษ การลงทะเบียนเริ่มขึ้นแล้ว มีพนักงานของหน่วยงานผู้ว่าจ้าวทยอยมาลงทะเบียนแล้วกระจายไปนั่งในสถานที่ต่างๆในห้องเปิดที่มีเก้าอี้สองพันกว่าตัววางจัดระเบียบอย่างดี มีชาวบ้านสองสามคนมา เราเองเดินไปพิจารณามุมโน้นมุมนี้ของห้องเพื่อประเมินข้อบกพร่องที่อาจมี หรือมองแล้วเห็นแง่มุมอะไรบ้าง ก็ปรึกษาหารือกัน
แปดโมงครึ่ง ชาวบ้านมากันหนาตามากขึ้น ลงทะเบียน รับเอกสาร รับของว่าง น้ำดื่มติดมือมานั่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่พาไปนั่งตามบทบาทหน้าที่ที่เตรียมกันไว้
ผ่านเวลาทำพิธีเปิดไปแล้ว ประธานมาแล้ว แต่ชาวบ้านยังมาน้อยกว่าที่ควรเป็น เพราะมีผลบังคับเรื่องเวลา จึงต้องทำการเปิดการประชุม มิเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อจำนวนเวลาประชุมตามกฎหมายกำหนด ประธานพูดมากตามที่พวกเราเป็นห่วง เพราะคราวที่แล้วประธานพูดยาวเกินไป เกินเหตุ ชาวบ้านจึงลุกมาต่อต้านชี้หน้ากันกลางห้องประชุม ประธานแบบนี้แม้ว่าจะร้องขอท่าน ท่านก็ไม่สนใจ
เมื่อถึงเวลาบรรยายข้อมูลให้ที่ประชุมเพื่อประกอบความเห็นที่เขาอาจจะมีเกิดขึ้นก่อนเปิดเวทีการรับฟังความคิดเห็นเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งมาแบบนัดหมายกันมา ถือป้ายต่อต้านมาด้วย แต่ตำรวจร้องขอให้เอาป้ายไว้ด้านนอก ไม่อนุญาตเอาเข้ามาในห้องประชุม
แล้วช่วงเวลาการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก็มาถึง เราจัดระเบียบการพูดไว้โดยให้คิวตามลำดับ เราเป็นคนเชิญให้พูด โดยไม่จำกัดเวลาแต่ร้องขอให้กระชับ แล้วการแสดงความคิดเห็นก็พัฒนาความร้อนแรงขึ้นตามประเด็นที่ชาวบ้านมาพูด ตามน้ำเสียงและวิธีการพูด….มีเสียบปรบมือตอบรับบ้างเป็นครั้งคราว
แต่ชาวบ้านไม่ได้มามากตามที่คาดการณ์……….
คิวการพูดผ่านไปเรื่อยๆ เราเดินไปสังเกตมุมโน้นมุมนี้ แล้วก็ไปถามคุณยายคู่หนึ่งที่ท่านมาร่วมการประชุมนี้ด้วย
ไพศาล คุณยายครับพี่น้องชาวบ้านมากันน้อยจัง…
คุณยาย เออ..คุณ.. เมื่อสองวันก่อนฝนมันตก(เรานึกว่าแล้วเกี่ยวอย่างไร) วันนี้แดดออกดีเชียว ชาวบ้านก็รีบลงนาเกี่ยวข้าวน่ะซีคุณ…..
เท่านั้นเอง อ๋อ………..