ได้ยินแต่ไม่สำเหนียก
ผมนั้นเกิดอาการเครียดหลายครั้งที่น้องๆมาเชิญให้เป็นพิธีกร หรือผู้ดำเนินการ “การประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย…” เพราะงานนี้จะเผชิญกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนที่มาคัดค้านกิจกรรมนั้นๆหรือไม่ หนอ ผมเคยร้องขอหน่วยวานไปครั้งหนึ่งว่าขออนุญาตไม่รับทำหน้าที่นี้ เพราะผมรู้จักกลุ่มต่อต้าน คัดค้านนั้นเป็นอย่างดี เขาเหล่านั้นก็รู้จัก “พี่บู๊ด” ดีถึงดีมาก ซึ่งผมเคยถูกกระซิบว่า ห้ามมาทำหน้าที่นี้ในเรื่องนี้…. แต่ส่วนใหญ่รับหมด ด้วยความจริงใจที่มาทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็น…
ฝ่ายคัดค้านจะเหมารวมว่า ผู้มาดำเนินการนี้เป็นเพียงเครื่องมือของเจ้าของกิจการที่ว่าจ้างมาเท่านั้น เนื้อในก็เป็นพวกเดียวกัน…. ยากครับที่จะอธิบายให้เข้าใจว่า เราเป็นคนกลางที่มารับฟังปัญหา อุปสรรค ความคิดเห็น ข้อคิด ข้อเสนอแนะ ข้อกังวลต่างๆของประชาชนต่อกิจการนั้นๆ บางครั้งวิทยากรต้องหลบสิ่งของที่ถูกขว้างปามาจากฝ่ายต่อต้าน คัดค้านอย่างไม่สมควร …. ประสบการณ์เหล่านี้เองที่ผู้ดำเนินการประชุมเรื่องสำคัญ เรื่องร้อนๆจึงยากที่ใครจะรับมาดำเนินการ ผมต้องมารับหน้าที่นี้ ด้วยหัวใจตุ้มๆต่อมๆ อิอิ
ผมบอกตัวเองว่ามีเจตนาดี และ มีคำที่พยายามจะอธิบายว่าผมมาทำหน้าที่อะไร เราใช้ลู่ทางที่ให้ผู้เข้าร่วมการประชุมพึงพอใจที่สุดว่า ทุกคำพูดของเขานั้นเรารับฟังและถูกบันทึกไว้ทั้งหมด โดยการ บันทึกเทป มีคนทำหน้าที่จดบันทึก และมีพนักงานพิมพ์ทันทีขึ้นจอ Power point ให้เห็นกันจะๆว่าทุกคนพูดอะไร พร้อมทั้งพิธีกรและพิธีกรร่วมยังกล่าวสรุปให้อีกครั้ง ที่ผ่านมาทุกครั้งเป็นที่พึงพอใจต่อที่ประชุม..
กรณีต่อเนื่องจากครั้งหลังสุดที่ทำหน้าที่นี้มา เราพัฒนากระบวนการแสดงความเห็นของชาวบ้านโดยมีเจ้าหน้าที่เราไปจัดคิวให้ ตามลำดับการเสนอตัวมาแสดงความเห็น พบว่า แย่งกันเลยครับ ทั้งหมดเป็น “หน้าเดิมๆ” และ ร้อยละเก้าสิบผมเคยไปสัมภาษณ์ส่วนตัวมาแล้วจึงพอเข้าใจพื้นฐานเขา ซึ่งมีตั้งแต่ชาวบ้านจบเพียง ป. 4 จนถึงผู้นำชุมชน และผู้ที่จบปริญญาโทและเป็นผู้นำในท้องถิ่นนั้นๆ แต่ละคนมีลีลา ดุดัน เข้มแข็ง ชัดเจน หลายคนมองว่าเป็นการหาเสียงเพื่อการครองใจประชาชน แต่ผมให้น้ำหนังเรื่องนี้น้อยกว่าการที่เขาพยายามแสดงถึงความคิดเห็นของชุมชน ชาวบ้าน ผ่านตัวเขาซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ในชุมชนนั้น
คนหนึ่งที่จบเพียง ป.4 และไม่มีตำแหน่งในชุมชุม ดุดันครับ เขาอธิบายว่าชุมชนเขานั้นเดือดร้อนอะไรบ้าง ลำดับให้ฟัง แล้ววกมาที่หน่วยงาน ที่เพิ่งลงทุนสร้างภาพท้องเที่ยวแม่….จ้างดารามาโชว์ตัวและแสดงต่างๆมากมาย หมดเงินไปเท่าไหร่ทั่วประเทศมาเที่ยวและชื่นชมการจัดงาน ความสวยงามและความประทับใจ ทั้งที่คนในพื้นที่ต้องการเยียวยาปัญหาที่คาราคาซังมาเนิ่นนานแล้ว จะให้ชาวบ้านเข้าใจว่าอย่างไร จะให้คนท้องถิ่นรู้สึกอย่างไร สนุกไปกับงานสร้างภาพนี้หรือ ชื่นชม ไปกับภาพเช่นนี้หรือ…อีกมากมาย….
ชาวบ้านที่จบ ป 4 ท่านนั้น น้ำตาตกมานานแล้ว เขาเรียกร้องมานานแล้ว ครับ ท่านผู้รับผิดชอบได้ยินทั้งสองหูแต่สำเหนียกหรือไม่เท่านั้น การกระทำ การปฏิบัติ เป็นคำตอบ
« « Prev : ความจริงใจที่ทดแทนไม่ได้ด้วยเงิน
Next : วิภาคย์ CSR บางองค์กรธุรกิจ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "ได้ยินแต่ไม่สำเหนียก"