เรื่องเล่าจากดงหลวง..อีกที..
อ่าน: 1839วันนี้ผมอยู่ กทม. หลังจากทำงานในหน้าที่แล้วก็พอมีเวลาก็โทรไปหาหน้าห้องท่านเลขาธิการ สปก. เสียงจากโทรศัพท์ดูเหมือนกำลังอยู่ในห้องประชุม เมื่อน้องเขาทราบว่าเป็นผมก็รีบบอกว่าหนังสือออกแล้วนะ เท่านั้นเองผมก็รีบบอกว่าขอบคุณครับเดี๋ยวพี่จะไปเยี่ยมหน่อย
หนังสือที่พิมพ์มาเมื่อวานเอง..พี่.. ยังอุ่นๆเลย น้องหน้าห้องรีบบอกทันที เที่ยงวันของวันนี้ผมลืมกินข้าวไปเลย เพราะแอบดีใจที่เห็นหนังสือ เรื่องเล่าจากดงหลวงออกมาแล้ว หลังจากใช้เวลาเป็นปี กว่าจะออกมาได้
ผมต้องกล่าวว่า เป็นความเมตตา และกรุณาของท่านเลขาธิการ สปก.ที่หยิบเอาเรื่องเล่าดงหลวงมาจัดพิมพ์ เพราะผมไม่คิดว่าในชีวิตผมจะมีปัญญาพิมพ์เอง แม้จะเขียนเรื่องราวได้มากมายแค่ไหนก็ตาม หากไม่มีผู้อุปการคุณ ที่เห็นประโยชน์ในสาระและให้การสนับสนุนพิมพ์ ตัวผมเองไม่มีทางทำการพิมพ์เองได้
ขออนุญาตแนะนำท่านเลขาธิการ สปก.ท่านนี้นะครับ ท่านเป็นคนนครสวรรค์ เรียนจบรัฐศาสตร์การปกครองจากจุฬาลงกรณ์ รับราชการ สปก.และเรียนต่อที่ AIT ด้าน Rural Development Planning โดยได้รับทุนจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ และไปเรียนปริญญาเอกที่ University Putra Malaysia(UPM) ทางด้าน Rural Sociology กลับมารับราชการที่ สปก.ตลอดมา พื้นฐานของท่านเช่นนี้จึงมีความเข้าใจชนบทเป็นอย่างดียิ่งท่านหนึ่ง ยิ่งท่านเป็นผู้ใหญ่ของราชการที่หายากมากที่จะเข้าใจชนบท เมื่อท่านมีตำแหน่งสูงขึ้นจึงทำโครงการพัฒนาชนบทมาตลอด ซึ่งผมมีโอกาสร่วมงานกับท่าน 2 โครงการขนาดใหญ่ คือโครงการพัฒนากลุ่มป่าห้วยขาแข้ง และโครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมในเขตปฏิรูปที่ดินด้วยการพัฒนาการเกษตรแบบผสมผสาน (คฟป.)
ที่ คฟป. นี่เองที่ผมรับผิดชอบพื้นที่ อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ผมและเพื่อนร่วมงานโดยเฉพาะคุณเปลี่ยน ลุยสนามกันดูเหมือนจะมากกว่าใช้ชีวิตในเมือง จากการคลุกคลีทั้งในบทบาทหน้าที่ที่จะต้องทำ กับความสนใจส่วนตัวต่อความเป็นไปของวิถีชนบท โครงการมีหลายอย่างไปมอบให้ชุมชน โดยเฉพาะความรู้ และมีสิ่งที่ผมได้คืนมาคือความรู้เช่นกัน ผมเขียนสิ่งเหล่านั้นลงในBlog ทั้งที่ Gotoknow.org และที่ Lanpanya.com
และในโครงการเองก็มี KM message ที่ผมเขียนทุกสัปดาห์เวียนให้ทุกคนทราบในเรื่องที่เป็นสาระของชุมชนในพื้นที่และส่วนที่เป็นความเห็นส่วนตัว ผมหยิบมาเขียนหมด ทั้งหมดนี้พบว่าอยู่ในสายตาของท่านเลขาธิการ สปก. ท่านยังบอกผมว่า ไอ้ส่วนที่เขียน อิอิ นั้นเอาไปพิมพ์ไม่ได้นะ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจทานกันและใช้เวลาเยอะทีเดียวกว่าจะเรียบร้อย…
วันนี้ผมได้พบท่านเลขาฯ ท่านยังบอกอีกว่า หากยังมีงานเขียนที่เกี่ยวกับ ผลงานของโครงการ คฟป.อีกก็เอามาพิมพ์อีกได้…. โฮ…ท่านยังให้ความกรุณามากถึงขนาดนี้อีก
เรียนถึงพี่น้องชาวเฮว่า ความจริงท่านกรุณาผมมากเป็นพิเศษ อีกประการคือ ท่านจูงมือผมเข้าไปในห้องคุยกันส่วนตัวว่า หากพี่สนใจตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สปก. ผมก็จะพิจารณาให้…เพราะอยากให้พี่เอาประสบการณ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ สปก.ในด้านที่เหมาะสม…
พี่น้องครับ ผมมี “เรื่องเล่าจากดงหลวง” ให้พี่น้องคนละเล่มครับ ผมจะทยอยส่งให้นะครับ
อ้อ..มีบางส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปคือ เมื่อเกือบสองปีก่อนที่จะจัดพิมพ์ ผมเรียนพ่อครูบาให้ท่านกรุณาเขียนคำนิยมให้ ท่านก็เมตตาเช่นกัน เมื่อจะพิมพ์ผมก็เรียนท่านเลขา สปก.ว่าขอเรียนเชิญท่านกรุณาเขียนคำนิยมให้ แต่ท่านบอกว่า ไม่ต้องหรอก เนื้อหาสาระมากมาย เอาหน้ากระดาษเป็นสาระที่จะพิมพ์ดีกว่า ทีมงานของท่านจึงไม่ใส่คำนิยมทั้งพ่อครูบาฯและของท่านเลขาธิการ สปก.เอง จึงกราบขออภัยพ่อครูบามา ณ ที่นี้ด้วยครับ
เนื่องจากต้นฉบับหนามาก ค่าพิมพ์สูงมาก ขนาดผมเอาหลายบันทึกออกไป ก็ยังหนามากอยู่ และการพิมพ์เป็นแบบ Pocket Book ทำให้แต่ละเรื่องในบันทึกจึงต้องใช้หลายหน้ากระดาษ ผมจึงได้มาในจำนวนไม่มากนัก หากท่านใดต้องการมากกว่า 1 ฉบับ ติดต่อขอเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศครับ เพราะท่านเลขาพิมพ์มาเพื่อเผยแพร่ในวงการ สปก.ทั่วประเทศครับ สำหรับพ่อครูบาผมมีจำนวนพิเศษให้ท่านครับ