พลทหารมะโหนก..
อ่าน: 1407ถามว่าทำไมจึงชอบเล่นกอล์ฟ หากดูพัฒนาการผมก็ต้องบอกตรงไปตรงมาว่า ในชีวิตไม่ได้คิดจะเล่นกอล์ฟ ยิ่งเพื่อนๆในวงการแอนตี้สนามกอล์ฟมากมาย แต่ลูกน้องเก่าสมัยทำงานที่เชียงใหม่เขามามีอาชีพเป็นพ่อค้าเร่ขายสินค้าต่างๆ ก็แบกชุดกอล์ฟมาขายผมในราคาต่ำๆ ทั้งที่ผมไม่ได้เล่น และช่วงนั้นไม่ได้คิดจะเล่นก็รับซื้อไว้ด้วยเหตุผลช่วยเหลือน้องๆ….
เป็นไม้กอล์ฟที่ผลิตในเกาหลีราคาถูกๆ ไม่มีราคาค่างวดสำหรับนักกอล์ฟจริงๆ ผมทิ้งไว้ในกล่องนั้นไม่ได้แกะออกด้วยซ้ำไป ทิ้งไว้เป็นปี จนไปทำงานที่มุกดาหารประมาณปี 2544 เมื่อเสร็จงานแต่ละวันก็ไม่รู้จะทำอะไร นึกถึงไม้กอล์ฟที่ซื้อและทิ้งไว้ที่บ้าน ก็เลยเอาไปลองฝึกออกกำลังกาย จ้างโปรมาสอน ก็เป็นโปรแบบบ้านนอก กิ๊กก๊อก และเจ้าเล่ห์สิ้นดี..
ที่มุกดาหารส่วนใหญ่แค่ไปไดรฟ์เสียมากกว่า ก็ได้พบเพื่อนใหม่ๆที่มักเป็นข้าราชการมีอายุและกลุ่มพ่อค้าหนุ่มๆ ก็ได้รู้จักกันจากการซ้อมนี่เอง จะออกรอบจริงๆก็เป็นช่วงเสาร์ อาทิตย์ที่ขอนแก่น ช่วงที่เริ่มตีกอล์ฟเป็นใหม่ๆก็จะออกรอบแทบทุกวันเสาร์ และมักไปที่สนามเขื่อนอุบลรัตน์เพราะเป็นสนามที่ค่อนข้างมาตรฐานกว่าสนาม ร8 ที่อยู่ติดมหาวิทยาลัยขอนแก่น
มาช่วงเป็น สว. นี่การออกรอบก็ลดลงมามาก เพราะงานและลดความอยากลงไป เหลือเพียงการออกกำลังกายเป็นวัตถุประสงค์ใหญ่เท่านั้น ผมจึงไม่มีก๊วน พร้อมก็ออกไป ไม่ต้องผูกติดเวลานัดหมาย
เมื่อวันเสาร์ที่แล้วผมออกรอบที่สนาม ร8 มีนักกอล์ฟมามากพอสมควรจนแคดดี้ไม่เพียงพอ จึงต้องเอาทหารมาช่วย สนาม ร8 เป็นสนามในค่ายทหารสภาพสนามจึงไม่ดีเพราะไม่มีงบประมาณมาพัฒนา และส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่ให้ภรรยาทหารในค่ายมาหารายได้พิเศษโดยการมาเป็นแคดดี้
ทหารคนที่มาเป็นแคดดี้ให้ผมบอกว่า มาเป็นแคดดี้ครั้งที่สองยังไม่รู้เรื่องกฎกติกาใดๆดีพอขอให้ช่วยแนะนำให้ด้วย คุยกันไป เดินตีกอล์ฟกับก๊วนที่ผมขอร่วมไปด้วย เขาบอกว่า นายทหารก็อนุญาตให้พวกผมมาหารายได้พิเศษในช่วงวันหยุด ในที่สุดก็มาถึงคำถามว่า ได้ข่าวว่าทางกองทัพจะส่งทหารจากที่นี่ลงไปใต้ใช่ไหม ทหารบอกว่าใช่ ในเร็ววันนี้ แล้วเขาก็เล่ามากมายเกี่ยวกับการเตรียมตัว การฝึกพิเศษ ฯลฯ เพื่อเตรียมทหารสู่สมรภูมิใต้ เขาเป็นคนที่พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เล็ก โตมากับยาย และปัจจุบันก็อยู่กับอา แต่เนื่องเขาเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่จึงอยากจะไปใช้ชีวิตอิสระตามโชคชะตา แต่มาติดทหารเสียก่อน ซึ่งก็ดีใจที่อยากรับใช้ชาติ
เขาบอกว่าผมไม่มีห่วงอะไร ครอบครัวไม่มี พ่อแม่ไม่มี ตายายเสียชีวิตหมดแล้ว มีแต่อา ซึ่งเราก็ไม่ห่วง เขาจึงบอกว่าการไปใต้หากจะสูญเสียชีวิตก็ยอม เพราะอยากรับใช้ชาติ ถามว่ากลัวตายไหม เขาบอกว่าก็กลัวกันทุกคนแหละ แต่หน้าที่เป็นทหารก็ต้องรับใช้ชาติ
สมัยเด็กๆอายุประมาณ 12 ปี ยายซึ่งเป็นหมอนวดพื้นบ้านสอนวิชานวดโบราณฉบับท้องถิ่นแท้ๆให้ เขาจึงอาสานวดหลังนวดไหล่ให้ผม ผมอนุญาต เขาก็นวดให้ระหว่างที่นั่งรอการตีกอล์ฟ เขานวดดีมาก มือแข็งแรงรู้จักจุดสำคัญต่างๆ
เขามีหน้าตาอีสานแท้ๆ ตัวสูงกว่าปกติ ช่างพูด ช่างเอาใจแม้จะไม่รู้จังหวะการเอาใจเท่าไหร่นัก ก็เข้าใจได้เพราะเขาเพิ่งออกรอบครั้งที่สอง….
หลังจากจบหลุมที่ 18 ผมมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เขาและมอบพระสมเด็จ 1 องค์ และอำนวยอวยพรให้เขาอยู่รอดปลอดภัยในการไปปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติที่ภาคใต้ในเร็ววันนี้
มันเป็นเพียงการมีส่วนร่วมเล็กๆน้อยๆกับการเอาชีวิตไปเสี่ยงของเขา
พลทหาร เด็กหนุ่มคนนี้ ไปทำหน้าที่
แทนพวก
เราครับ….