พลทหารมะโหนก..

โดย bangsai เมื่อ กันยายน 10, 2012 เวลา 12:58 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 1340

ถามว่าทำไมจึงชอบเล่นกอล์ฟ หากดูพัฒนาการผมก็ต้องบอกตรงไปตรงมาว่า ในชีวิตไม่ได้คิดจะเล่นกอล์ฟ ยิ่งเพื่อนๆในวงการแอนตี้สนามกอล์ฟมากมาย แต่ลูกน้องเก่าสมัยทำงานที่เชียงใหม่เขามามีอาชีพเป็นพ่อค้าเร่ขายสินค้าต่างๆ ก็แบกชุดกอล์ฟมาขายผมในราคาต่ำๆ ทั้งที่ผมไม่ได้เล่น และช่วงนั้นไม่ได้คิดจะเล่นก็รับซื้อไว้ด้วยเหตุผลช่วยเหลือน้องๆ….

เป็นไม้กอล์ฟที่ผลิตในเกาหลีราคาถูกๆ ไม่มีราคาค่างวดสำหรับนักกอล์ฟจริงๆ ผมทิ้งไว้ในกล่องนั้นไม่ได้แกะออกด้วยซ้ำไป ทิ้งไว้เป็นปี จนไปทำงานที่มุกดาหารประมาณปี 2544 เมื่อเสร็จงานแต่ละวันก็ไม่รู้จะทำอะไร นึกถึงไม้กอล์ฟที่ซื้อและทิ้งไว้ที่บ้าน ก็เลยเอาไปลองฝึกออกกำลังกาย จ้างโปรมาสอน ก็เป็นโปรแบบบ้านนอก กิ๊กก๊อก และเจ้าเล่ห์สิ้นดี..

ที่มุกดาหารส่วนใหญ่แค่ไปไดรฟ์เสียมากกว่า ก็ได้พบเพื่อนใหม่ๆที่มักเป็นข้าราชการมีอายุและกลุ่มพ่อค้าหนุ่มๆ ก็ได้รู้จักกันจากการซ้อมนี่เอง จะออกรอบจริงๆก็เป็นช่วงเสาร์ อาทิตย์ที่ขอนแก่น ช่วงที่เริ่มตีกอล์ฟเป็นใหม่ๆก็จะออกรอบแทบทุกวันเสาร์ และมักไปที่สนามเขื่อนอุบลรัตน์เพราะเป็นสนามที่ค่อนข้างมาตรฐานกว่าสนาม ร8 ที่อยู่ติดมหาวิทยาลัยขอนแก่น

มาช่วงเป็น สว. นี่การออกรอบก็ลดลงมามาก เพราะงานและลดความอยากลงไป เหลือเพียงการออกกำลังกายเป็นวัตถุประสงค์ใหญ่เท่านั้น ผมจึงไม่มีก๊วน พร้อมก็ออกไป ไม่ต้องผูกติดเวลานัดหมาย

เมื่อวันเสาร์ที่แล้วผมออกรอบที่สนาม ร8 มีนักกอล์ฟมามากพอสมควรจนแคดดี้ไม่เพียงพอ จึงต้องเอาทหารมาช่วย สนาม ร8 เป็นสนามในค่ายทหารสภาพสนามจึงไม่ดีเพราะไม่มีงบประมาณมาพัฒนา และส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่ให้ภรรยาทหารในค่ายมาหารายได้พิเศษโดยการมาเป็นแคดดี้

ทหารคนที่มาเป็นแคดดี้ให้ผมบอกว่า มาเป็นแคดดี้ครั้งที่สองยังไม่รู้เรื่องกฎกติกาใดๆดีพอขอให้ช่วยแนะนำให้ด้วย คุยกันไป เดินตีกอล์ฟกับก๊วนที่ผมขอร่วมไปด้วย เขาบอกว่า นายทหารก็อนุญาตให้พวกผมมาหารายได้พิเศษในช่วงวันหยุด ในที่สุดก็มาถึงคำถามว่า ได้ข่าวว่าทางกองทัพจะส่งทหารจากที่นี่ลงไปใต้ใช่ไหม ทหารบอกว่าใช่ ในเร็ววันนี้ แล้วเขาก็เล่ามากมายเกี่ยวกับการเตรียมตัว การฝึกพิเศษ ฯลฯ เพื่อเตรียมทหารสู่สมรภูมิใต้ เขาเป็นคนที่พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เล็ก โตมากับยาย และปัจจุบันก็อยู่กับอา แต่เนื่องเขาเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่จึงอยากจะไปใช้ชีวิตอิสระตามโชคชะตา แต่มาติดทหารเสียก่อน ซึ่งก็ดีใจที่อยากรับใช้ชาติ

เขาบอกว่าผมไม่มีห่วงอะไร ครอบครัวไม่มี พ่อแม่ไม่มี ตายายเสียชีวิตหมดแล้ว มีแต่อา ซึ่งเราก็ไม่ห่วง เขาจึงบอกว่าการไปใต้หากจะสูญเสียชีวิตก็ยอม เพราะอยากรับใช้ชาติ ถามว่ากลัวตายไหม เขาบอกว่าก็กลัวกันทุกคนแหละ แต่หน้าที่เป็นทหารก็ต้องรับใช้ชาติ

สมัยเด็กๆอายุประมาณ 12 ปี ยายซึ่งเป็นหมอนวดพื้นบ้านสอนวิชานวดโบราณฉบับท้องถิ่นแท้ๆให้ เขาจึงอาสานวดหลังนวดไหล่ให้ผม ผมอนุญาต เขาก็นวดให้ระหว่างที่นั่งรอการตีกอล์ฟ เขานวดดีมาก มือแข็งแรงรู้จักจุดสำคัญต่างๆ

เขามีหน้าตาอีสานแท้ๆ ตัวสูงกว่าปกติ ช่างพูด ช่างเอาใจแม้จะไม่รู้จังหวะการเอาใจเท่าไหร่นัก ก็เข้าใจได้เพราะเขาเพิ่งออกรอบครั้งที่สอง….

หลังจากจบหลุมที่ 18 ผมมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เขาและมอบพระสมเด็จ 1 องค์ และอำนวยอวยพรให้เขาอยู่รอดปลอดภัยในการไปปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติที่ภาคใต้ในเร็ววันนี้

มันเป็นเพียงการมีส่วนร่วมเล็กๆน้อยๆกับการเอาชีวิตไปเสี่ยงของเขา

พลทหาร เด็กหนุ่มคนนี้ ไปทำหน้าที่

แทนพวก

เราครับ….

« « Prev : ระบบบันทึกและการสื่อสารของโบราณ

Next : หมาตัวนั้น.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 mytomtam ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 กันยายน 2012 เวลา 14:31

    อ่านใกล้จบ และอินกับข้อเขียน เหลือเกิน
    มันป็นความรู้สึกตื้อ ด้วยตื้นตัน
    ใช่ค่ะ เขาไปทำหน้าที่ แทนพวกเรา
    อยากให้ผู้คนอีกมาก ตระหนัก

    ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดคุ้มครองน้องทหารผู้นั้นด้วยเทอญ
    ….
    ขอบคูณท่านบางทรายค่ะ

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 กันยายน 2012 เวลา 20:28

    ขอบคุณครับ

    ผมพูดกับเขาเยอะทีเดียว เขาเป็นเด็กหนุ่มที่น่าสงสารที่ขาดพ่อแม่ ตายาย เขาจบแค่ ม. 3 เขาตั้งใจเรียนต่อนายสิบ เพื่อจะได้ยศสูงขึ้น และต้องการรับใช้ชาติ เป็นคนหนุ่มที่น่ารัก รู้จักเอาใจนายทหาร เขาบอกว่า เขาเข้าไปรับใช้ซักผ้า รีดผ้า ขัดรอเท้าให้นายทหารทั้งหมด และทำทุกอย่างที่นายทหารสั่งให้ทำ

    การฝึกที่สาหัส เขาบอกว่าเขาเกือบหนีทหารแล้วเพราะทนการฝึกที่หนักมากๆไม่ไหว ต้องทำในสิ่งที่มนุษย์เขาไม่ทำกัน มีเพื่อนทหารรุ่นเขาหนีไปสี่ห้าคน แต่ก็กลับมารับโทษภายหลัง ตอนนี้เขาชินการฝึกหนักๆแล้ว เราแลกเปลี่ยนว่า การฝึกหนักเพื่อให้ร่างกายผ่านความยากลำบากที่สุด เพราะการออกสนามรบนั้น มันมีแต่ความยากลำบาก ไม่มีความสบายใดๆที่นั่น การฝึกหนักไว้ก่อน ให้ร่างกาย จิตใจปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ร้ายๆที่อาจจะเกิดขึนกับเขาได้……ฯลฯ…..

    ผมบอกเขาว่า เราอาจพบกันอีก หรือไม่พบกันอีก ก็ตาม พวกเราเข้าใจ และเอาใจช่วยทหาร มีอะไรที่แนวหลังช่วยกันได้ เราก็พร้อมที่จะช่วยกัน ผมขอบคุณเขาที่ไปทำหน้าที่ปกป้องพวกเรา ปกป้องแผ่นดิน และพยายามรักษาความสงบ และภาระกิจอีกมากมายที่เขาจะได้รับ ในฐานะคนไทยเราทุ่มเทน้ำใจให้ทหารผู้กล้าทั้งหลาย…. เขาทำความเคารพแบบทหารตอนที่รับพระสมเด็จไป ผมโอบไหล่เขาก่อนจากกัน เขาเหลัยวหลังมาดูผมครั้งหนึ่งแล้วผมก็ขับรถกลับบ้าน

    เกมส์กอล์ฟวันนี้ผมห่วยแตกมาก แต่ผมอิ่มใจที่ได้พบพลทหารคนนี้ และได้มีส่วนร่วมในการทำงานของเขาที่จะไปรับใช้ชาติ…ครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.46550583839417 sec
Sidebar: 0.38155007362366 sec