ระบบบันทึกและการสื่อสารของโบราณ

โดย bangsai เมื่อ กันยายน 9, 2012 เวลา 0:48 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 1574

ผมชอบกิจกรรมค่ายสิ่งแวดล้อมที่โรงเรียนมงคลวิทยาจัดทำ ผมชอบค่ายเยาวชนรักป่าที่เครือข่ายอินแปงจัดให้กับเด็กดงหลวง และอื่นๆ องค์ประกอบที่คล้ายๆกันคือ เอาเด็กเดินป่า โดยมีผู้รู้เรื่องป่าที่เป็นชาวบ้านนำพาไป บางที่ก็มีผู้รู้มากกว่า 1 คน อาจแบ่งเป็นกลุ่ม เดินป่าไปก็เรียนรู้ไปโดผู้รู้จะสอนเด็ก บอกเด็กถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆที่เดินผ่าน ไปทุกย่างก้าว บางทีก็หยุดเป็นนานสองนานเพื่อเรียนรู้กับพืชต้นนั้น

ความรู้จากท่านผู้รู้ซึ่งเป็นชาวบ้านนั้นมากมายมหาศาลแทบไม่น่าเชื่อทีเดียว เพราะทั้งชีวิตเขาอยู่กับป่า และความรู้ต่างๆก็ถูกส่งต่อมาจากรุ่นก่อนๆ เขาเหล่านั้นเผชิญปัญหา อุปสรรคต่างๆจากการเดินป่า นั่นคือบทเรียนแห่งชีวิต ที่จดจำไปนานแสนนาน และความรู้ต่างๆก็นำไปใช้ในวิถีของเขา ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยบ้าง แต่ไม่มาก

ตอนอยู่ดงหลวงผมมีโอกาสเดินป่ากับชาวบ้าน เป็นประสบการณ์ที่วิเศษสุดจริงๆ ในยังอยากทำเช่นนั้นอีกแล้วบันทึกสิ่งที่พบเห็น หรือบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นผ่านช่วงเวลาต่างๆ ในป่ามีสิ่งที่เราไม่รู้มากมาย แต่ชาวบ้านรู้

ใบไม้ในรูปข้างบนนั้น ชาวบ้านเรียกใบส่องฟ้า มันไม่ใช่สมุนไพรตัวเอก แต่เป็นใบไม้ที่เด็กๆเอามาเล่นสนุกๆ เพราะที่ใบมีรูพรุนเต็มไปหมด หากเอามาส่องกับไฟก็จะเห็นรูพรุนนั้น ชาวบ้านเปรียบว่าสามารถส่องเห็นฟ้าได้

ส่วนใบข้างล่างนี้ จำชื่อไม่ได้ว่าเรียกอะไร แต่มันเป็นนวัตกรรมการบันทึกสั้นๆ การสื่อสารของคนโบราณ เพราะเราสามารถเขียนอักษรลงบนใบไม้ชนิดนี้ได้ และสามารถเก็บไว้ได้นาน

ชาวบ้านบอกว่าสมัยก่อนนั้นไม่มีกระดาษสมุดสำหรับเขียน ก็ใช้ใบไม้นี้เขียนข้อความสั้นๆเพื่อเตือนความจำได้ หรือใช้สื่อสารจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ กันลืม ก็เขียนบันทึกลงไปแล้วเอาไปส่งให้ต่างหมู่บ้านกัน ที่ห่างไกลออกไป

ชาวบ้านเล่าว่า บ่อยครั้งที่ไปอำเภอติดต่อราชการ เจ้าหน้าที่มักถามข้อมูลต่างๆ ชาวบ้านก็จะบันทึกข้อมูลจากบ้านลงที่ใบไม้นี้ แล้วเอาติดตัวไปอำเภอด้วย จำอะไรไม่ได้ก็ควักเอาใบไม้บันทึกนี้มาดู แล้วตอบเจ้าหน้าที่

ใครจะไปนึก…เด็กในเมืองรู้แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เราพึ่งพาระบบธุรกิจที่พึ่งตัวเองไม่ได้ สมุดเล็กๆมีขายมากมาย ดินสอ ปากกามีมากมายก็ไม่บันทึกแล้ว ล้าสมัย ต้องมันทึกในเครื่องอีเลคโทรนิคต่างๆนั้น….ช่องว่างนี้ถ่างออกมากขึ้น คนเมืองห่างไกลธรรมชาติมากขึ้น ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และที่ร้ายคือไม่สนใจเสียด้วยซี

เรื่องราวและความรู้นี้ผมได้มาจากคนข้างกายไปร่วมการเดินป่าของชาวบ้านและพาเด็กไปเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับป่าที่มหาสารคาม ……

นี่เป็นเพียงเสี้ยวส่วนขององค์ความรู้ทั้งหมด ก็เก็บตกความรู้มาบันทึกหยาบๆไว้เผื่อใครจะคิดต่อ เอาไปใช้ประโยชน์ใดๆก็น่าจะดี

ยุคสมัยกำลังผันผ่านไป ความรู้เหล่านี้กำลังจางหายไปกับผู้เฒ่าในชนบทที่ทุกวันกำลังล้มหายตายจากไป…..

สถาบันการศึกษาของชนบทน่าจะทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้นะ …. เราสามารถตั้งเป็นโจทย์ต่างๆสำหรับกระบวนการเรียนรู้ได้มากมาย…..และเป็นความรู้แห่งสำนึกต่อป่าไม้ สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ และอื่นๆ

หวังสถาบันการศึกษาก็อาจสิ้นหวัง ชุมชนที่ตั้งเป้าว่าเป็นชุมชนเข้มแข็งนั้น จัดกระบวนการเรียนรู้เหล่านี้ขึ้นมาเองได้ไหม บันทึกเองได้ไหม ….ไม่ต้องไปคอยนักวิชาการจากสถาบันใดๆหรอก

เพราะมัวแต่ตั้งท่าอยู่นั่นแหละ….

« « Prev : น้ำตาพ่อแสน

Next : พลทหารมะโหนก.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ระบบบันทึกและการสื่อสารของโบราณ"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.45615482330322 sec
Sidebar: 0.37587404251099 sec