แด่คุณครูด้วยดวงใจ
คุณพ่อผมเป็นครู
อาผมหลายคนเป็นครู
พี่สาวผมก็เคยเป็นครู
ภรรยาผมก็เป็นครู(มหาวิทยาลัย)
ผมเองก็เรียนครู และเป็นครู(พัฒนาชนบท)
ผมจึงใกล้ชิดครูพอสมควร
ผมเองเคยกราบพี่พี่ที่ โครงการบูรณชนบทแห่งประเทศไทย เพราะผมไปฝึกงานที่นั่นเมื่อเริ่มก้าวเข้ามาสู่วงการพัฒนาชนบท ผมก็เรียกพี่พี่เหล่านั้นที่สั่งสอนผมว่าเป็นครู ที่ใกล้ชิดปัจจุบันก็มี ครูเปี๊ยก หรือพี่เปี๊ยกนี่แหละ(ที่จะมาสวนป่าปลายเดือน)
ครูสมัยคุณพ่อผมนั้นมือขวาถือชอล์ค มือซ้ายถือไม้เรียว ตีกันก้นลายเลย โรงเรียนวัด วิ่งเล่นกันรอบโบสถ์ วิหาร ทุกวันพระก็นิมนต์ท่านเจ้าอาวาสมาเทศนาเด็กๆ สวดมนต์กันดังลั่นไปสามคุ้งบ้าน เมื่อพระเดินสวนทางมาเราต้องนั่งลงไหว้พระให้ท่านเดินผ่านไปก่อน เด็กหญิงต้องหลีกห่างออกไปพอสมควร…
ครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ชาวบ้านร้านถิ่น ให้ความเคารพนับถือ เมื่อใดที่ครูคนใดคนหนึ่งเสียชีวิต งานศพครูจะมีคนมากที่สุด เพราะลูกศิษย์ลูกหา กี่รุ่นต่อกี่รุ่นต่างพากันมากราบไหว้เป็นครั้งสุดท้าย
Trend ของการส่งเด็กเรียนต่อในสมัยนั้นก็หนีไม่พ้น รับราชการ การที่จะมีใครเรียนต่ออุดมศึกษานั้นน้อยรายจริงๆ เพราะพ่อแม่อยากให้ลูกมั่นคง เรียนเร็ว ทำงานเร็ว มีเงินเดือนกิน..ใช้ได้แล้ว…
ลูกครูอย่างผมนั้นถูกอบรมอย่างหนักในเรื่องการดำรงชีวิตต่างๆ กิริยามารยาทต่อสังคมต่อผู้ใหญ่ หรือในชีวิตประจำวันละเอียดรอบคอบ คุณพ่อจะสอนไปตีไป อิอิ.. แม้จะไม่ค่อยสืบสานทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็ซาบซึ้งคุณค่าในประเพณีวัฒนธรรมแบบไทยๆมาจนทุกวันนี้ เขาไม่ได้สอนวิชาการเท่านั้น แต่สอนเรื่องประเพณี วัฒนธรรมเชิงปฏิบัติด้วย
ครูสมัยนั้นต้องทำนาทำสวนกันทั้งนั้น พ่อต้องไปช่วยแม่ทำนา เกี่ยวข้าว นวดข้าว ฯลฯ ผมจำได้ดีว่าเรื่องการนวดข้าวของภาคกลางที่เอาฟ่อนข้าวออกมาตั้งโดยเอารวงข้าวขึ้นชี้ฟ้า กองเรียงกันเป็นวงกลม แล้วเอาควาย 4-5 ตัวมาผูกเข้าด้วยกันให้เป็นหน้ากระดานเรียงแล้วเรายืนข้างหลังไล่ควายเดินย่ำขึ้นไปบนกองข้าวนั้น วนไป วนไป ซึ่งพ่อจะสอนวิชาเรขาคณิตไปด้วยว่า การเดินวนนั้นจะต้องวนเป็นวงเล็กในวงใหญ่ เพื่อให้ข้าวทุกรวงโดนตีนควายเหยียบทั่วถึงกันหมด สอนการทำคันนา การไถนาไถอย่างไรจึงจะทำให้ดินร่วนแตกทั่วถึงกันหมด ไม่ใช่ไถเพื่อให้จบๆไป สอนเรื่องการหว่านข้าว หว่านอย่างไรไม่ให้ข้าวกองเป็นกระจุก ให้กระจายไปทั่วๆ เกี่ยวข้าวอย่างไรมิให้หักคอรวงและปลอดภัยมิให้เคียวมาเกี่ยวเอานิ้วตัวเองเข้า… เทคนิคการตวงข้าวเพื่อขายทำอย่างไรให้ได้ปริมาณมาก วิธีการปาดข้าวและเสียบติ้ว…ฯลฯ
บังเอิญว่าคุณพ่อเป็นครูด้วย การทำหน้าที่พ่อและครูจึงอยู่ในตัวคนคนเดียวตลอดเวลา แต่นั่นคือวิถีชีวิตสมัยก่อน ที่สาระใหญ่คือการเพิ่มทักษะในการดำรงชีวิตให้แก่เด็กที่กำลังเติบโต…
ขอกราบคารวะคุณพ่อ ผู้เป็นทั้งครูและพ่อที่สร้างและอบรมสั่งสอนให้เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา
ขอกราบคารวะครูทุกท่านที่ปั้นคนให้เป็นคน
« « Prev : ความไม่รู้คือเหยื่อ..
Next : ห้าบาท » »
1 ความคิดเห็น
คารวะทุกท่านผู้เป็นครู ทั้งในชีวิตจริงและในธรรมชาติค่ะ
ปุจฉา ครุแปลว่าหนัก .. หนักในความหมายนี้คืออะไร? ^ ^
น้อมคารวะผู้เป็นครูทุกท่านในลานฯค่ะ