ความไม่รู้คือเหยื่อ..
ปกติที่บ้านใช้ Internet ผ่าน wireless ระบบ adsl ของ TOT โดยใช้เครื่องส่งสัญญาณของ TP–Link ตั้งไว้ที่ห้องทำงาน ชั้นสองเป็นห้องนอนและห้องทำงานในตัวของคนข้างกายก็ใช้สัญญาณได้ดี ใช้อยู่สักสามปีก็เริ่มเกิดปัญหา คือสัญญาณหลุดบ่อย จนรำคาญ เรียกช่าง TOT มาซ่อมก็ว่าสายโทรศัพท์ไม่ดีต้องเปลี่ยนใหม่ เอ้า ผมก็อุตสาห์ไปซื้อมาเปลี่ยนเองเอาอย่างดีที่สุดเลย แต่ก็ไม่ดีขึ้น ช่างอีกคนมาก็ว่าเครื่องส่งสัญญาณไม่ดี…..
ผมจึงไปที่สำนักงาน TOT ใกล้ศาลากลางคุยไปคุยมาเขาก็บอกความจริงมาว่า มีคนใช้มากจนทำให้สัญญาณอ่อนลง และที่พักของผมก็อยู่ปลายสายยิ่งทำให้การรับสัญญาณยิ่งอ่อนลงมากๆ… ผมนึกในใจว่า เวรเอ้ย…ช่างทำไมไม่พูดความจริงนี้ตั้งแต่แรก…
ผมจึงตัดสินใจยกเลิกการใช้สัญญาณ Internet ของ TOT ไป ความจริงทราบจากข่าวว่า TOT ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายนับหมื่นล้านบาท นึกในใจว่าสาเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้การบริการและประสิทธิภาพของระบบไม่ได้พัฒนาเท่าที่ควรจะเป็น… แต่ผมก็ยกเลิก หันไปใช้ Internet ผ่านมือถือ ซึ่งก็ใช้ได้ดี สะดวก ไปไหนๆก็ได้ที่มีสัญญาณ ลูกสาวอยากได้ก็เลยหามาให้อีกชุดหนึ่ง ที่บ้านเลยมีสามชุด คนละชุด..
ต่อมาลูกสาวบอกว่าอยากใช้ wireless ที่บ้านมากกว่า ติดตั้งที่เดียวใช้กันทั้งสามคนคนละห้องประหยัดด้วย เลยไปปรึกษา TOT อีกครั้งก็ทราบว่าได้ติดตั้งตัวขยายสัญญาณในบริเวณใกล้บ้านพักแล้ว ผมจึงซื้อบริการ Internet ระบบ adsl และจะใช้ wireless อีกครั้งหนึ่ง เมื่อซื้อ adsl ของ TOT ช่วงนี้เขาแถมโมเดมมาให้ตัวหนึ่ง….
กว่าช่างจะมาก็กินเวลาไปสามวันเพราะเขาว่าลูกค้าเข้าคิวติดตั้งหลายราย มาถึงก็ติดตั้งพร้อมเอาโมเดมตัวใหม่ ปรากฏว่าใครจะใช้ต้องต่อสายเชื่อมเข้าคอมฯเอา และมีเพียงช่องเดียวเท่านั้น อ้าว…งี้ก็ไม่ใช่ wireless น่ะซี ช่างบอกว่าไม่ใช่ครับ หากอยากได้ก็ต้องไปซื้อ ตัวเชื่อมต่อมาเชื่อมกับโมเดมนี้อีกที…???
ผมถามว่างั้นเอาเครื่องเก่าของผมที่เลิกใช้ไปมาติดตั้งได้ไหม เขาว่าได้ ก็ติดตั้งทันที แต่ช่างทำอย่างไรก็ไม่สามารถใช้ได้ ลองแล้วลองอีก set โน่นนี่ ก็ไม่ได้ซักกะที จนอ่อนใจเลยติดตั้งโมเดมแบบใช้สายไปก่อน ผมก็เลยมอบเครื่องส่งสัญญาณนั้นให้เขาไปลองใช้เวลาว่างตรวจสอบดูว่าจะแก้ไข หรือติดตั้งอย่างไรจึงใช้ได้
ช่างหายไปสองวัน ผมเลยโทรตามว่าเป็นไง เขาบอกว่าลองถึงที่สุดแล้วใช้ไม่ได้ ให้เพื่อนที่ว่าเก่งๆลองก็ไม่ได้ ช่างว่ามันคงเสีย….อ้าว…
งั้นต้องซื้อเจ้าตัวเชื่อมต่อโมเดมแล้วเป็น wireless มาน่ะซี ช่างก็ว่าใช่ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลางานยุ่งมาก ให้ไปซื้อมาก่อนแล้วจะมาติดตั้งตอนสองทุ่ม…วันนี้… ผมต่อลองว่าจะไปซื้อเดี๋ยวนี้แล้วบ่ายแก่ๆแวะเข้ามาหน่อย เขาบอกว่างานยุ่งมาก แต่จะแวะมาให้และขอค่าบริการ 200 บาท..ผมงง..อะไรวะ..จะคิดค่าบริการ…ก็ควรจะเป็นบริการของ TOT นี่นา….
ผมรีบไปหาซื้อเจ้าตัว เชื่อมนั้นทันที ขึ้นไปตึกคอมฯโรงแรมโฆษะ..ถามร้านโน้นร้านนี้ ยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ ราคาต่างๆ ในที่สุดมาลงที่ร้านเจ้าประจำ พยายามสอบถามความรู้ เบื้องต้นเกี่ยวกับเจ้าตัวนี้ น้องคนขายก็พยายามอธิบายพอเข้าใจ เมื่อถามถึงเครื่องนี้มีกี่ยี่ห้อ ราคาเป็นไง คุณภาพแตกต่างกันอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจ เธอก็อธิบายได้ดี มาลงที่ว่า ยี่ห้อ TP-Link นั้นมีข้อดีที่มีศูนย์ซ่อมอยู่ที่ร้านนี่เอง ส่วนญี่ห้ออื่นๆนั้นต้องส่งเข้ากรุงเทพฯ หากเกิดปัญหาต้องซ่อมยี่ห้อ TP-Link น่าพิจารณา แต่ช่าง TOT บอกผมว่า ยี่ห้อนี้คุณภาพสู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้….
เอาละซี จะตัดสินใจอย่างไร..
น้องพนักงานขายพาไปคุยกับช่าง TP-Link ที่มีร้านติดกัน ผมก็เล่าให้ฟังทั้งหมดแล้วขอคำแนะนำ ช่างคนนี้ก็บอกว่า ช่าง TOT น่ะไม่รู้เรื่อง Set ค่า TP-Link ไม่เป็นจึงไม่สามารถใช้ตัวเก่าของผมได้ เขาบอกว่าต้อง set ค่าใหม่ เอามาให้เขาจะทำให้…ไอ้หย่า….มันเป็นอย่างนี้หรือ….
นี่เกือบซื้อตัวใหม่ไปแล้วนะ ราคาที่จ้องของดีดีไว้ก็ตั้ง เกือบสามพันบาท หากเอาปรับค่าใหม่แล้วใช้ได้ก็ไม่เสียกะตังเลยนะเนี่ยะ อย่างดีก็แค่ให้ช่าง TP-Link ก็คงไม่กี่ตัง….
ผมนึกย้อนหลังไปว่า ช่าง TOT คิดอะไรกับเรา
· เห็นเราไม่รู้เรื่องก็เลย..ตีกินซะเลย…
· เขารู้เรื่องจริงและเครื่องมันเสียจริงๆ
· ฯลฯ
แต่ก็นึกไปอีกมากมายว่า โลกยุคอิเลคโทรนิคนี่ ความไม่รู้อาจเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ เหมือน ร้านซ่อมคอม ซ่อมทีวี เครื่องล้นห้องออกมาถึงฟุตบาท มาซ่อมทั้งนั้น ช่างมันก็โขกเอาเงินซะ เสียนิดเดียวก็ว่าเสียมาก อธิบายอย่างไรใครจะไปรู้เรื่อง….ว่าจริงหรือไม่จริง อาจจะจริงส่วนหนึ่งโกหกอีกหลายส่วน เราจะไปว่าอย่างไร ก็มันไม่รู้เรื่องอ่ะ…
กล้องถ่ายรูป DSLR ของผมตัวเก่าก็โดน ตีกินมาแล้ว พันห้าร้อยบาท ซ่อมเสร็จถ่ายไปแค่สิบรูปเหมือนเดิม…..ในที่สุดต้องส่งเข้าศูนย์ที่กรุงเทพฯ….เสียไปอีกสี่พัน…อิอิ..
แล้วมีอะไรในยุคนี้ที่ไม่รู้บ้างล่ะ…..
โอย….ล้นฟ้าล้นแผ่นดิน….
นึกในใจว่า….
เออ…ครั้งต่อไปสิ่งที่จะซ่อมเป็นอะไรหว่า……
อิอิ.. กรอด .. กรอด (กัดฟัน)….
« « Prev : ช้างแดง
4 ความคิดเห็น
อ่านแล้วนึกถึงตัวเองค่ะ แหะแหะ
ในโลกนี้มีสิ่งที่ไม่รู้เยอะเหลือเกิน และมีผู้ล่ามากมาย ยังมีอีกกี่เรื่องราวที่ผู้ไม่รู้หรือรู้ครึ่งๆกลางๆหรือรู้แต่ประมาทตกเป็นเหยื่อ ดูคล้ายกับเราไม่ทิ้งนิสัยผู้ล่าที่เป็นสมองส่วนดึกดำบรรพ์ของมนุษย์เลยนะคะพี่บู๊ท
อิอิ….น้องแก้มป่อง…
เป็นอีกแล้ว…ที่บ้านตู้เย็นหลังใหญ่ เกิดหยุดไปเฉยๆ ของในตู้เย็นเสียหาย
โทรหาช่าง เขาบอกส่าต้องยกไปที่ร้าน เขาไม่มีบริการมาดูที่บ้าน…ตาย ก็ตู้เย็นหลังใหญ่ปานรถปิคอัพผู้หญิงเต็มบ้านจะยกกันมาอย่างไร…หลับตาก็นึกว่า เราเป็นทาสเทคโนโลยีอย่างหมดสิ้นเสียแล้ว…
เอ้าทางร้านมายกให้ เสียค่าบริการ ถึงร้านเขาบอกว่าพอเสีบไฟก็ติดเป็นปกติ ไม่เห็นเสียตรงไหน…อ้าว…มีผีตู้เย็นหรือนี่…อิอิ ช่างแนะนำให้ทิ้งไว้ที่ร้านเพื่อจะดูอาการและตรวจสอบให้ ผ่านไป 1 สับดาห์ ปกติครับ….เอากะมันซิ เจ้าผีตู้เย็น เล่นข้าซะแล้ว…
นี่ต้องจุดธูปจุดเทียนหรือเปล่านี่….
ทิ้งไว้สองสัปดาห์ ปกติทุกอย่าง เลยตัดสินใจขนกลับบ้าน มาเสียบไฟ ก็ปกติดี
อยู่มาสองสัปดาห์เอาอีกแล้ว ต้องเอาตู้แช่มา ทิ้งไว้วันหนึ่ง อ้าวติดเป็นปกติ ….
เอาช่างมาตรวจไฟก็ปกติ…..
โอย…ทาส ทาส เทคโนโลยีผู้ซื่อสัตย์…
หากมันเล็กๆก็จะยกไปให้ร้านเมื่อไหร่ก้ได้ นี่มันใหญ่…โอย…
ขำไม่ออกน้องแก้มป่อง..
มีความจริง หรือสิ่งที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงหลายอย่างครับ
ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูล
เราเองเมื่อไม่รู้ ก็คาดหวังว่าช่างจะเป็นผู้รู้ เมื่อช่างบอกว่าเครื่องมือชิ้นนั้นเสียแล้ว เราก็มีแนวโน้มเชื่อไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าเพิ่งไปเชื่อแม้ผู้นั้นจะมีอาชีพนั้นก็ตาม
ควรที่จะเสาะหาความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นก่อนตัดสินใจว่าเป็นอย่างไร