AAR เฮหก..3 อ.ถวัลย์ ดัชนี ที่ผมรู้จัก

โดย bangsai เมื่อ ธันวาคม 11, 2008 เวลา 20:07 ในหมวดหมู่ เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 12527

ผมมิบังอาจเขียนถึงท่านอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เพราะผมเป็นแค่เศษเสี้ยวของท่าน แต่ขออนุญาตบันทึกถึงท่านในฐานะที่ผมเป็นศิษย์ จะเรียกว่าศิษย์เขียนถึงอาจารย์ ก็พอจะรับฟังนะครับ

ผมเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในสายวิทย์ บรรยากาศมหาวิทยาลัยนั้นทำให้ผมเตลิดเปิดเปิงในความเป็นอิสระสูงสุด เนื้อแท้ในความเป็นตัวเองก็ทยอยเบ่งบานออกมา ซึ่งก็ไม่มีอะไรเด่นนอกจากการปรับตัวต่อสังคมใหญ่เท่านั้น และเรื่องราวต่างๆที่ใหม่สำหรับผม เพราะเป็นระบบ Interdisciplinary ผมจึงเรียนวิชาต่างๆอย่างกว้างขวาง ทั้งสายวิทย์ สายศิลป์ ทั้งปรัชญาและศิลปะที่สูงส่งที่ผมเข้าไม่ถึง แต่ทึ่ง…..


หนุ่มใหญ่ท่านนั้นแตกต่างจากอาจารย์ท่านอื่นๆ คือ ตัวใหญ่ ผมยาว ม้วนเป็นก้อนเหน็บไว้ด้านหลังศีรษะ ใส่เสื้อสีพื้นจัด เช่น ม่วง ดำ และใช้วิธีเดินไปไหนมาไหนในมหาวิทยาลัยทั้งๆที่มีรถรามากมายท่านก็เลือกที่จะเดิน สิ่งที่สดุดตามากๆคือ แฟนสาว(เดาเอานะครับ) ของท่านนั้นเปรี้ยวปรี๊ด….ก็สวยซะไม่เมี๊ยะ ผมยาว เอาเชือกสีสวยๆมาคาดรอบศีรษะ…นุ่งสั้นจุ้นจู๊จริงๆ เวลาเธอก้มดูดน้ำจากเครื่องน้ำดึ่มซึ่งต้องก้มลงนั้น นักศึกษาชายหละตาค้างไปหมด…ก็จะไปเหลืออะไรเล่า…อิอิ

พวกเราแห่ไปเรียนวิชา Art Appreciation ท่านสอนประวัติศาสตร์ศิลป์ ความหมายของศิลป์ต่างๆ ยุคต่างๆ การซาบซึ้งกับความหมายของศิลป์….สอนอย่างไรก็ไม่เข้าหัวผม แต่ทึ่งตัวอาจารย์ ตัวอักษรที่อาจารย์เขียน และน้ำเสียงที่อาจารย์พูดออกมา มันจริงจัง เด็ดขาด เฉียบ ประเภทเปรี้ยงเดียวจบ….

หลายครั้งท่านอาจารย์เปิดอภิปรายเดี่ยว และก็แปลกที่ใครต่อใครจะพูดก็ใช้ห้องประชุมใหญ่ แต่อาจารย์ใช้ลานกว้างหน้าคณะสังคมศาสตร์ ต่อหน้าคนเดินไปมา รถราผ่านไปมา ใครอยากฟังก็หยุดลงมายืนบ้างนั่งบ้าง ผมว่าส่วนหนึ่งที่หยุดฟังเพราะ ผู้พูดนั้นแต่งตัวต่างจากคนอื่นๆ

ท่านใช้เวทีตรงนี้พูด(เดี่ยวไมโครโฟน) ผมจำได้แม่นว่า ครั้งหนึ่งท่านอาจารย์พูดเรื่อง Pop Art ท่านพยายามอธิบายศิลป์เชิงสัญลักษณ์ และอธิบายหลักทางพุทธศาสนามากมาย ทั้งโลกิยธรรม โลกุตระธรรม ….ฯลฯ…. เราไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ทึ่ง….

นอกจากนั้นเนื่องจากผมและเพื่อนๆเป็นกลุ่มนักศึกษาสนใจการทำกิจกรรมสังคม ซึ่งก็มีท่านอาจารย์หลายท่านให้การสนับสนุน หนึ่งในนั้นคือท่านอาจารย์ องุ่น มาลิคท่านสอนจิตวิทยาและเป็นอาจารย์สตรีท่านเดียวที่นุ่งผ้าถุงไปสอน ท่านมีที่ดินติดรั้วมหาวิทยาลัยและสร้างกระต๊อปเล็กๆให้นักศึกษากลุ่มกิจกรรมมาพักฟรี และท่านยังส่งเสียนักศึกษาที่มีปัญหาทางการเงินค่าเทอมอีก..

อาจารย์องุ่นนั้นสนิทสนมกับนักศึกษากลุ่มกิจกรรมมาก พานักศึกษาไปทำกิจกรรมเพื่อสาธารณะมากมายทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย ที่ครั้งหนึ่งเราไปทำความสะอาดที่วัดฝายหิน ใครเป็นลูกช้างย่อมรู้ดีว่าวัดนี้เสมือนเป็นวัดประจำมหาวิทยาลัย อาจารย์องุ่นเชิญอาจารย์ถวัลย์ ดัชนีเอาผลงานศิลปะของท่านไปแสดงที่นั่น บริเวณนั้นเป็นลานหินกว้างที่มีก้อนหินใหญ่น้อยมากมาย อาจารย์ถวัลย์เอาแผ่นงานศิลปะของท่านไปวางไว้ตามโขดหินจำนวนมาก แล้วก็เดินอธิบายที่ใครต่อใครไปชม

งานศิลปะของท่านอาจารย์ช่วงนั้นเป็นรูปสัตว์ประหลาดต่างๆที่แสดงกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ความเป็นอลังการ มหึมา ยิ่งใหญ่ อยู่ในท่าทางต่างๆ ฝีลายศิลป์ของท่านคมมาก ไม่มีการย้อนมาละเลงสีสัน ประเภทตวัดครั้งเดียวใช้ได้เลย ท่านเดินอธิบายส่วนใหญ่ก็จะวกเข้ามาถึงหลักธรรมทางพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์เป็นสาระหลักในการอธิบายงานของท่าน คนปัญญาน้อยอย่างผมไม่เข้าใจ แต่ทึ่ง…

หากท่านไปอ่านประวัติของอาจารย์จะยิ่งทึ่ง เช่น.. ตอนเรียนอยู่ที่ศิลปากรในชั้นปีที่ 1 ถวัลย์ ดัชนี ทำคะแนนการวาดรูปได้ถึง 100+   แต่เมื่อขึ้นปี 2 เขากลับทำได้ แค่ 15 คะแนน เพราะเหตุผลที่ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี ให้ไว้ว่า ปลาของนายไม่มีกลิ่นคาว นกของนายแหวกว่ายไปในอากาศไม่ได้ ม้าของนายไม่สามารถที่จะควบหรือวิ่งทะยานออกไปได้ นายเป็นเพียงแค่ นักลอกรูป มันไม่ใช่งานศิลปะ

คำวิจารณ์ของศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรีดังกล่าวนี้ทำให้ถวัลย์ ดัชนี เปลี่ยนแปลง การทำงานทุกอย่างใหม่หมด เมื่อคิดและดำรงอยู่ในวิถีทางแห่งศิลปะได้แล้ว เขาจึงได้รับการสนับสนุนจากศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี ให้สอบ ชิงทุนไปศึกษา ต่อที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้านสาขาจิตรกรรมฝาผนัง อนุสาวรีย์ ผังเมือง และใน ระดับปริญญาเอก สาขาอภิปรัชญา และสุนทรียศาสตร์ ที่ราชวิทยาลัยศิลปะ อัมสเตอร์ดัม ที่แห่งนี้เองที่ถวัลย์ได้เรียนร่วมชั้นเดียวกันกับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีศิลปินแห่งชาติเกิดขึ้น 3 คนจากสถาบันแห่งนี้ นั่นคือ ศิลปิน แห่งชาติของอินโดนีเซีย ด้านการแกะสลัก , ศิลปินแห่งชาติของอเมริกา ชาวสวิตเซอร์แลนด์ นามว่า Giger ( ไก เกอร์ หรือ กีเกอร์ ถ้าอ่านแบบเยอรมัน) ซึ่งเป็นศิลปินที่วาดรูปออกแนวอวกาศและเป็นผู้ออกแบบเอเลี่ยนและศิลปินแห่งชาติ ของไทย ถวัลย์ ดัชนี….


…..งานของท่านต้องใช้ปัญญาด้านในสัมผัส…

ในฐานะศิษย์โนเนมของท่านคนหนึ่ง ผมขอแสดงคารวะแด่ท่านอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี

(ท่านที่สนใจประวัติของท่านดูได้ที่ http://www.thaiartstudio.com/profile_thawan.htm)

« « Prev : บางทรายกระจายภาพ จากเฮหก…

Next : AAR เฮหก…4 เชียงแสนกับบ่นปนสำนึก » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 ธันวาคม 2008 เวลา 14:59

    อ.ถวัลย์ เฉียบขาดมากค่ะทั้งฝีแปรง ฝีปากและความคิด เห็นเขาสัตว์มากมาย และเปลือกหอยที่คงอยู่ก็สะท้อนใจว่าสัตว์ต่างๆยังมีประโยชน์สำหรับโลกนะคะแต่คนเรานี่ล่ะ ตายแล้วเหลือสิ่งใด?

    ทุกสิ่งคือหนึ่งเดียวจริงๆในงานของอาจารย์ ดังนั้นการแบ่งแยก ตีตราถูก ดี เลว ไม่ดีอยู่ที่ใจของเราหรือเปล่า..จะสี จะสัตว์ จะคน เทพ จินตนาการ ฯลฯ ทั้งหมดคือศิลปะ และศิลปะจะสื่อปรัชญา -ศาสนาที่ส่งตรงถึงจิตวิญญาณของคนจริงๆ ไม่ต้องใช้ภาษาใดๆให้อ้อมค้อมเลยนะคะพี่บางทราย ใจที่คับแคบหรือเปิดกว้างก็เห็นชัดเมื่อดูศิลปะ(โดยเฉพาะในแนวทางของอาจารย์ อิอิอิ) เส้นสายลายแปรงและสีที่ทรงพลัง หนักแน่น แม่นยำ เกิดจากการฝึกซ้อมด้วยการขว้างมีด ยิงธนูด้วยหรือเปล่าน้อ ^ ^

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 ธันวาคม 2008 เวลา 23:05

    อาจารย์ท่านเป็นแรงบันดาลใจกับหลายๆคนในมุมต่างๆ เช่นการทุ่มเท การมุ่งมั่น การเด็ดเดี่ยว โดยเฉพาะการสร้างสมาธิ

    ตอนแรกๆก็แปลกใจว่าศิลปะมันไปเข้ากันได้กับศาสนาได้อย่างไร และดูเหมือนจะคู่กันมาตลอด ไม่ใช่เฉพาะท่าน ศิลปินท่านอื่นๆก็เช่นกัน

    ทำไมชีวิตจึงต้องยืนอยู่บนหลักของศาสนา ทำไมชีวิตต้องมีศิลปะ ทำไมศิลปะต้องคู่กับชีวิต ทำไมชีวิตต้องมีศาสนาเป็นหลักยึด

    ทำไมคนเราไปค้นหาอะไรมากมาย เรียนอะไรกันมากมาย ก็แค่ศาสนาที่ท่านศาสดาค้นพบ บอกกล่าวมานับพันพันปีแล้ว ก้าวข้ามไปหาอะไรอีก…..

    ขอบคุณน้องสาวที่มาตอกย้ำถึงเรื่องราวของอาจารย์ครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.92392206192017 sec
Sidebar: 0.080710887908936 sec