มุมหนึ่งที่สะกิด
ในช่วงเวลาที่สังคมจับตากันอยู่ที่ชายแดนไทย อีสานด้วยใจจดจ่อ ภาพของคนหนีตายและเดือดร้อนจากภัยสงครามขึ้นหน้าหนึ่งเป็นข่าวในหน้า นสพ.สม่ำเสมอพร้อมกับภาพของกำลังพลที่เรียกกันว่า “ทหาร” กำลังทำหน้าที่อย่างเข้มข้นในการรักษาความเป็นประเทศไทย ก็มีคนส่งภาพเหล่านี้มาให้
แวบแรกที่ผ่านตากับภาพเหล่านี้ ก็นึกไปถึง “พระศรีสุริโยทัย” “ย่าโม” ย่ามุกและย่าจันทร์” สงสัยอีกหน่อย เริ่มเกิดความเชื่อว่าต่อไปสังคมคงเปลี่ยนผ่านหมุนเข้าสู่ยุคผู้หญิงแถวหน้ามากขึ้นๆ
ที่ว่าประเทศไทยจะมีสตรีมาเป็นนายกรัฐมนตรี อย่าเพิ่งปฏิเสธไปเลยว่าจะเป็นไปไม่ได้ บุรุษวัยฉกรรจ์ที่ก้าวสู่การเป็นรั้วของชาติปีแล้วปีเล่าก็บาดเจ็บล้มตายใน สนามรบ บุรุษที่ยังคงอยู่ในสังคมก็ไม่อดทนกับความลำบาก แม้แต่วงการชายชาติทหารที่กำลังหาบุรุษสืบทอด ก็หายอดยามาเป็นตัวยายาก อย่างนี้ในวงการอื่นๆจะเหลืออะไร
ในยามที่บ้านเมืองร้อนไปทุกหย่อมหญ้าอย่างวันนี้ ประเทศเพื่อนบ้านก็มุ่งจ้องจะสวมรอยเป็นเจ้าของดินแดนอยู่อย่างนี้ แถมด้วยความเป็นไปในวันนี้ สตรีไทยหลายคนสมัครใจเป็นนอมินีให้ผู้คนจากประเทศอื่นเข้ามาเป็นเจ้าของดิน แดนด้วยการสมัครใจเป็นสะใภ้ฝรั่ง ปฏิเสธบุรุษเชื้อสายไทยเพื่ออนาคตที่สุขสบายของตัวเอง บุรุษรุ่นลูกที่ถือกำเนิดต้องตัดสินใจการเป็นคนของประเทศใดประเทศหนึ่ง
จำนวนบุรุษของชาติไทยจึงเป็นอะไรที่ชวนกังขา จึงมาชวนให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ อนาคตอาจจะมีกฎหมายออกใหม่เรื่อง เกณฑ์สตรีไปเป็นรั้วของชาติก็ได้เน้อ
หรือจะมาช่วยกันหาทางแก้ในเชิงป้องกันเพื่อให้เกิดสังคมที่มีบุรุษเป็นที่พึ่งของสังคมได้อีกครั้ง เมืองไทยจะได้ไม่กลายเป็นเมืองแม่หม้ายดีมั๊ยค่ะ แต่ว่าไม่ง่ายเลยนะ
Next : พลาสติก (๑) : ความหนาแน่น » »
ความคิดเห็นสำหรับ "มุมหนึ่งที่สะกิด"