น้ำท่วม(๙)
วันนี้แม้ว่าจะเป็นวันหยุด แต่ฉันกับลูกสาวก็มีภารกิจต้องพาตัวเข้าไปร.พ. ลูกสาวไปประจำห้องยาเพื่อจ่ายยาให้คนป่วยในเวลากลางวัน แล้วเมื่อสิ้นสุดวันก็จะมีรุ่นพี่มาผลัดเปลี่่ยนทำงานแืทน ฉันนัดนักศึกษาฝึกงานไว้จะพาตัวไปช่วยกันสำรวจชุมชนอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ปลายน้ำ
นักศึกษามอ.ปัตตานี กำลังบอกเล่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากของจริง
สถานที่ที่เป็นเป้าหมายการเดินทางของเราคือตำบลคลองประสงค์ พื้นที่ต่อแดนอีกฟากหนึ่งของเขตเทศบาล พื้นที่นี้เป็นหมู่บ้านมุสลิม มีเขาหินปูนตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ และเป็นเขาหินปูนที่อยู่ใกล้ที่สุดของตัวเมือง
สภาพน้ำเมื่อวันที่ ๔ เมษายน สียังขุ่นข้นและแดง
เป้าหมายก่อนออกเดินทางคือ สำรวจว่ามีคนไข้โรคเรื้อรังคนใดบ้างที่มีปัญหา ในระหว่างที่พวกเราสาธารณสุขมัววุ่นวายกับการรับเหตุน้ำท่วม การเดินทางไปพื้นที่นี้ต้องใช้เรือใช้เวลาวิ่งเรือโดยปกติราว ๖ นาที แต่วันนี้เราใช้เวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง
ดูไกลๆเหมือนน้ำใสขึ้น แต่ไม่ใช่เลย บนฟ้ามีเมฆหนาก่อตัวขึ้นอีกแล้ว และวันนี้บ่ายมีฝนตกลงมาอีกแต่ไม่หนักมาก
ผืนน้ำที่เห็นในเช้าวันนี้เป็นช่วงน้ำกำลังขึ้น สีน้ำทะเลที่เห็นยังเป็นสีชาเย็นอยู่เลย ไม่เข้มแต่ก็ไม่ใสและดูออกว่ามีดินแดงไหลปนอยู่ คนเรือพานั่งเรือผ่านไปใกล้ป่าโกงกาง ดูต้นไม้แล้วรู้สึกว่ามันไม่สดชื่นเหมือนที่เคยเห็นเลย
เรือแวะเทียบฝั่งตรงตีนเขาหินปูนที่คนกระบี่เรียกกันว่า “เขาขนาบน้ำ” การแวะไปที่นี่โดยบังเอิญทำให้ได้ข้อมูลบางอย่างมาเพิ่มเติมให้ระวังระไวอยู่เหมือนกัน สิ่งที่ไปเจอเป็นอะไรขอใช้ภาพอธิบายก็แล้วกัน
แวะที่นี่ให้นักศึกษาได้ชมธรรมชาติ เก็บภาพเป็นที่ระลึกพอให้สนุกกับการเรียนรู้ แล้วก็นั่งเรือเข้าหมู่บ้านกัน คนเรือพาแวะจอดที่ร้านอาหารที่ชาวบ้านสร้างไว้บนแพลอยน้ำ เส้นทางที่เรือผ่านมีกระชังปลาและกุ้งเรียงรายเป็นระยะๆ
น้ำใกล้ฝั่งหมู่บ้านสีไม่ต่างจากน้ำในคลองใหญ่ทั้งๆที่น้ำกำลังขึ้น กระแสน้ำแรงพอใช้ระหว่างนั่งเรือ ซ้ายคือกระชังปลาที่พอเห็นปลาบ้าง
เมื่อขึ้นจากเรือก็เห็นกระชังปลาอยู่ตรงลานหน้าร้านเต็มไปหมด แต่ในกระชังไม่มีปลาเลยสักตัว แม้แต่ปลาสวยงามที่เคยพาสมาชิกชาวเฮมาชมกันก็ไม่เห็นเลย ถามเด็กหนุ่มที่มาช่วยดึงหัวเรือให้พาตัวลงว่าปลาหายไปไหนหมด คำตอบของเขาทำให้ชะงักไปเป็นครู่ “น้ำใหญ่คราวนี้ไหลมาทำให้ปลาตายหมดทุกกระชัง เหลืออยู่ก็แต่ปลาตัวใหญ่ที่ทนน้ำได้ดีกว่าอย่างปลากระพงขาว ปลากระพงแดงอยู่ ๒ กระชังเท่านั้นเอง”
ป่าชายเลนที่เห็นวันนี้ ไม่สดชื่นเลย เมื่อน้ำมีความเค็มลดลงเพราะน้ำบ่าลงมา มีบางส่วนเหมือนยืนต้นตายด้วย
เดินเข้าไปในหมู่บ้านแล้วแวะคุยกับผู้เฒ่าคนหนึ่ง แกก็เล่าว่าวันที่น้ำใหญ่ “ปลาเมาน้ำลอยขึ้นมาเป็นทิวแถว ทำท่าจะตายเอา ก็เลยมีการตักปลาขึ้นมาแจกจ่ายกันในหมู่ญาติๆ นำไปขายบ้าง ชำแหละเป็นท่อนๆแจกในวงญาติบ้าง ที่จับไม่ทัน กินไม่ทันก็ตายไปเปล่าๆเลย”
ไม่ได้นึกถึงมาก่อนเลยว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่นึกมาก่อนเลยว่าปัญหาเรื่องโรคเครียดหลังน้ำท่วมจะแผ่กระจายมาจนถึงหมู่บ้านแห่งนี้ได้
น้ำขังข้างบ้านเรือนก็จะกลายเป็นแหล่งเพาะลูกน้ำยุงลาย แอ่งน้ำขังทางขวาบอกให้รู้ว่าบนเขายังมีน้ำ
ออกจากบ้านผู้เฒ่าก็แวะไปบ้านอีกหลังเพื่อไปเจอผู้นำกลุ่มเรือจ้างที่เคยมานั่งคุยด้วย เดินไปไม่ทันถึงก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งชวนคุยด้วยแล้วก็พากันเข้าไปคุยต่อในบ้าน เธอเล่าให้ฟังเรื่องของการสูญเสียน้องชายโดยช่วยไม่ทัน ไม่สามารถนำพาไปร.พ.ได้ทันทั้งๆที่เป็นเวลากลางวัน
พื้นที่แห่งนี้เปลี่ยนไป๋แล้ว
คราบดินที่เห็นตรงบันไดที่ถ่ายภาพใกล้มาดู มาจากหินที่อยู่เหนือขึ้นไปหรือดินบนเขาส่วนไหนหรือเปล่า
น้องชายของเธอเป็นลม และยังพอมีสติขอให้เธอพาไปที่บ้าน ไปถึงบ้านก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ทัน น้องพยาบาลจากสถานีอนามัยมาถึงก็ช่วยไม่ได้แล้ว คุยกันอยู่นานเรื่องของการช่วยเหลือฉุกเฉินในหมู่บ้านนี้ จนกระทั่งขอตัวกลับนั่นแหละจึงรู้ว่าน้องชายที่เธอเล่าถึงนั้นเป็นคนเดียวกับผู้นำเรือจ้างที่จะไปแวะเยี่ยม
เปรียบเทียบสีน้ำที่หน้าวัดทับปริกเมื่อวันที่ ๔ เมษายน กับน้ำใกล้ฝั่งของหมู่บ้านริมป่าชายเลนแห่งนี้ในวันนี้ สีไม่ต่างกันเลย
เลยเที่ยงวันเล็กน้อย นักศึกษาก็พากันมารวมตัวเพื่อเดินทางกลับ ระหว่างทางก็พบชาวเรือคนหนึ่งนั่งอยู่ เขาแนะนำตัวว่าเป็นผู้นำกลุ่มเรือจ้างด้วย คุยกันไปก็เลยได้รู้ว่าในหมู่บ้านแห่งนี้มีกลุ่มเรือจ้างอยู่หลายสาย และมีศูนย์รวมอยู่ที่ชายหนุ่มคนนี้ ระหว่างนี้กลุ่มของเขากำลังมีการรวมตัวกันเพื่อจัดระบบการดูแลทุกข์สุขของสมาชิกกลุ่มกันอยู่และมีหน่วยงานที่ได้ลงมารวบรวมความเห็นในเรื่องของการจัดระบบฉุกเฉินไปรอบหนึ่งแล้ว
ร่องรอยของพื้นถ้ำที่ไปเห็นในวันนี้เหมือนจะบอกว่ากระแสน้ำที่ไหลลงมาจากยอดเขาเยอะเชี่ยวและแรง??????
กลับจากหมู่บ้านก็แวะร.พ.เคลียร์งานต่อแล้วกลับตรงเข้าบ้าน ใจอยากแวะไปดูพื้นที่ตลาดเก่าอีกก่อนเข้าบ้าน แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะเหนื่อย
๖ เมษายน ๒๕๕๔
1 ความคิดเห็น
อ้าว ปักเป้า หงายเก๋งไปซะแล้ว