สวนป่าก่อนตีแตก
อ่าน: 1737ได้พักนอนกันเต็มอิ่มแล้ว ไม่ตั้งใจจะตื่นเช้าก็ตื่นเช้า ตื่นมาก็ได้ยินเสียงนกร้องอยู่ข้างหน้าต่าง มองออกไปเห็นนกบินว่อนมาเพื่อเกาะเรียงรายบนสายไฟที่พาดอยู่ข้างถนน ดูๆมันคุ้นจัง แสดงว่าไม่มีคนคอยรังแกมันให้ตื่นตกใจ ระหว่างรอจัดการตัวเองให้เรียบร้อย นึกขึ้นได้ว่าน้องขจิตกับครูปูมาติดเช้า รึว่าตอนนี้จะนั่งหง่าวกินกาแฟรอให้แจ้ง ใจพอรู้สึกอย่างนั้นก็โทรหาน้องขจิตทันที เดาผิดแฮะคราวนี้น้องเขาบอกอยู่ที่สวนป่าแล้ว เข้าไปตั้งแต่ตีสอง เออ! ถ้าเมื่อคืนรู้ว่ามาไวยังงี้ ชวนนอนที่ม.ราชภัฏด้วยกันก็ดี มารู้ทีหลังว่ารอกอดออกมารับที่สตึกแลกกับการได้กินกาแฟอร่อยที่ซู๊ดที่น้องขจิตปชส.ไว้ ที่บอกว่าเก้อไม่ได้กินเพราะเช้านั้นร้านเขาปิด เอ!โดนหลอกรึเปล่านะนี่
รอจนคาดว่าน้องฑูรน่าจะตื่นแล้ว จึงโทรไปถามว่าจะเริ่มเดินทางกันเมื่อไร แล้วนัดหมายกันลงมากินอาหารเช้า ฉันเผื่อท้องมากินข้าวอร่อยที่สวนป่าเลยลองชิมแค่ข้าวต้มหมูเพราะว่ามันน้อยดี เขียวและน้องแอ๊ดกินไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปัง ส่วนน้องฑูรลองกินไข่กระทะจานบะเริ่ม แถมช่วยโค-สะ-นาด้วยว่ามาอีสานแล้วต้องเลือกกินน่ะ
ได้ฤกษ์ก็ออกเดินทางต่อมายังสวนป่า เช้าก่อนที่จะโทรถามเวลาเดินทาง ฉันโทรเข้าสวนป่าถามไถ่อุ้ยว่าต้องการอะไรที่ตลาดบ้างไหม เผื่อขาดอะไรจะได้แวะซื้อไปให้ ไม่ต้องเอารถออกมาอีก อุ้ยบอกว่าขาดหมูทำน้ำพริกอ่อง เราเลยแวะไปชมตลาดกัน แวะจอดรถที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีกลองโบราณด้วย วัดนี้ขับรถผ่ากลางวัดมาอีกด้านก็ถึงตลาดสดค่ะ
เดินชมตลาดซื้อของแล้วก็บึ่งมาสตึกกัน น้องฑูรแน่ใจว่าไม่หลงเพราะมียันต์ดีจากแผนที่ของรอกอด ผิดคาดแฮะพอถึงช่วงแยกสนามชัยเลี้ยวขวาหมับตามแผนที่ มันพาเลยไปไกล จนรู้สึกว่าไหงไกลกว่าที่เคยมาครั้งก่อน ก็เลยโทรถามทางพ่อครู ย้อนรอยกลับมาอีกหน่อยจึงเข้าถูกทางและถึงสวนป่าได้
ถึงสวนป่าแล้ว บรรดาน้องพี่ทั้งหลายออกมาให้กอดกัน อรยนท.เรื่อง GPS กันพักหนึ่ง ก็ช่วยกันจัดข้าวจัดของและสถานที่ รอรับทีมคนไร้กรอบ คุยกันพอหอมปากหอมคอ บรรดามีทั้งหลายก็ชวนกันไปตลาดซื้อของ บอกว่าไปกันไม่นาน รอกอดขับรถออกไปด้วย ที่ไหนได้ไปกันเลยเที่ยงวัน ดูคนขับรถเพลียเชียว แล้วยังมีภารกิจที่ยังทำไม่สำเร็จเหลืออยู่ เอายังไงกันนี่
และแล้วรายการหักดิบก็มาถึง ยึดคนขับรถที่ชอบซูกัสเอาไว้ เปลี่ยนคนขับรถคนใหม่และจัดทีมไปรับพี่หลินฮุ่ยหนึ่งทีม รอกอดนะเขาเด็กดีกลัวเสียสัตย์ที่บอกกับผู้ใหญ่ไว้ ก็เลยแอบเลี่ยงไปโทรฟ้องพี่หลินฮุ่ย เดาได้ว่าคงพูดว่า เขาไม่ยอมให้ผมขับรถไปครับ อะไรทำนองนี้แหละ….อิอิ ทีมนี้ก่อนออกไป รอกอดสั่งเสียงแข็งว่า เอา GPS ไปด้วยแล้วห้ามนอกคำสั่งของมัน เอาละซิน่าดูฉันได้ยินแล้วนึกในใจ คอยชมดีกว่าว่าทีมที่ไปนะจะทำยังไงต่อไป จะเหมือนน้องฑูรมั๊ยเดี๋ยวรู้กัน ขออรยนท.หน่อยว่าทีมนี้เขาปฏิบัติภารกิจที่มอบหมายสำเร็จอย่างกะมิชชั่นอิมพอสซิเบิลเลยนา ส่วนประสบการณ์กับ GPS เป็นยังไงบ้าง รอให้เขาเล่าเองละกัน จะขอขยายความเรื่องราวนี้เอาไว้ดังนี้ค่ะ
มาถึงได้สักครู่ ก็พากันไปนมัสการหลวงพี่ติ๊ก คุยกันเรื่องของประสบการณ์บางอย่างเกี่ยวกับเสียงกระซิบที่สวนป่า จนหลวงพี่ติ๊กเตือนขึ้นเรื่องอาหารเพล จึงได้จัดการเรื่องอาหารเพลถวายหลวงพี่ติ๊กจนเรียบร้อย ยืดเวลาอาหารเที่ยงรอให้ทีมที่ไปตลาดกลับมากันแล้วจึงเริ่ม วันนี้จึงกินอาหารเที่ยงเมื่อถึงเวลาบ่ายคล้อยแล้ว ทีมพี่ครูคิมมาถึงระหว่างกินมื้อเที่ยงพอดี จึงได้ลงมือกินด้วยกันไป เด็กๆที่มาก็ได้เริ่มเรียนรู้ชีวิตร่วมกับผู้ใหญ่ที่ไม่คุ้นเคยนะเวลานั้นเอง
ช่วงบ่ายหลังจากนั้น ต่างคนก็ดูแลตัวเองไปตามอัธยาศัย ป้าจุ๋มคอยจัดการเตรียมเรื่องราวรับรองทีมคนไร้กรอบ หลายคนก็ชวนกันเฮฮาร้องเพลงด้วยกัน ทีมคนไร้กรอบมาถึงสวนป่าหลังจากเหล่าบรรดาลูกคอดีๆ เสียงดีๆ ซ้อมร้องเพลงกันไปคนละเพลงสองเพลงแล้ว ป้าจุ๋มจัดการกับน้ำเก๊กฮวยเย็นๆอร่อยๆที่เตรียมไว้รอรับ คนอื่นๆก็ลงมือกันตามถนัด เช่น น้าอึ่งอ๊อบ ครูมิม ช่วยเสิร์พ ครูปูร้องเพลงกล่อม พ่อครูเตรียมตัวนั่งคุย บรรยายหน้าที่กันไม่หมด ทีมปูนมากันหลายคน ขอไม่บอกจำนวนเพราะนับไม่ถ้วน…อิอิ แล้ววงสนทนาก็เริ่มขึ้นระหว่างทีมปูนกับพ่อครู สนทนาต้อนรับแลกเปลี่ยนกันสักครู่ ทีมก็แยกย้ายกันไปจัดการตัวเองเรื่องที่หลับที่นอนและผ่อนคลายตัวเองให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง
คล้อยหลังไปสักครู่ก็ได้ยินครูปูบอกว่า จะไปตลาดกัน มีรอกอดและใครอีกหลายคนไปด้วยกัน งานนี้รอกอดทำหน้าที่โชเฟอร์ ตั้งแต่ได้ยินฉันแปลกใจนะเออ! ไหงออกไปตลาดกันอีกเล่า ก็เดี๋ยวบ่ายๆรอกอดจะขับรถไปรับพี่หลินฮุ่ยนี่นา ขับรถออกไปแล้วเข้ามาแล้วออกไปอีก เอ๊ะ! ยังไงกัน อย่างนี้เหนื่อยแย่ซิ แล้วไหนบอกว่าขาดแค่เนื้อหมู ยังขาดอะไรอีกเล่า แล้วทำไมไม่บอกให้หมดจะได้ซื้อหามาให้ทีเดียวจากบุรีรัมย์
เมื่อเขาพากันไปแล้วไม่นาน พ่อครูก็ถามหาครูปูเมื่อรู้ว่าตามไปตลาดด้วย ก็มีเสียงบ่นออกมาให้ได้ยิน ตามไปทำไมทำให้ยิ่งไปกันนานขึ้นไปอีก ตอนแรกไม่เอะใจหรอกว่าเสียงบ่นนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร ที่แท้พ่อครูเป็นห่วงรอกอดจะเหนื่อยนะซิ มิน่าตอนบ่ายจึงเกิดการหักดิบรอกอดยึดอาชีพโชเฟอร์ประจำตัวพี่หลินฮุ่ยเอาไว้ซะ ทำเอารอกอดจ๋อยไปเลย จ่อยด้วยความรู้สึกไม่ดีที่ตัวเองผิดคำพูดกับผู้ใหญ่ที่นับถืออย่างพี่หลินฮุ่ยนะแหละ
แล้วหน้าที่โชเฟอร์ประจำตัวพี่หลินฮุ่ยก็ถูกโยกไปให้น้องอาราม พร้อมทั้งหาสาวร่วมทางไปเป็นกำลังใจอีกสองคน รอกอดนะเป็นห่วงผู้ทำหน้าที่แทน กลัวหลงนะ จึงมีข้อบังคับให้พวกเขายอมรับการใช้ GPS บรรดาเหล่าผู้แทนรับมาใช้ด้วยความเกรงใจในความปรารถนาดีของรอกอดทั้งที่ใจจริงไม่รู้จะใช้มันยังไงอยู่ดี…แล้วปฏิบัติการร่วมกับ GPS ก็เริ่มขึ้น ผลปรากฏว่าปฏิบัติการในครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยการเลิกใช้ GPS….อยากรู้มั๊ยค่ะว่ามิชชั่นอิมพอสซิเบิลนี้สำเร็จได้อย่างไร…..ปัญญาของทีมและป้าจุ๋มคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จค่ะ…..5555…..ขำๆกับเรื่อง GPS
« « Prev : ผู้เรียนรู้คือคนสำคัญ
Next : ตีแตกสวนป่า(1)-ออกนอกกรอบ » »
12 ความคิดเห็น
อิอิ
mission possible
ผมน่ะไม่กินกาแฟหรอกครับ แต่ได้ยินสรรพคุณวิเศษ ก็เลยจะลองดู แต่ถามก่อนแล้วว่ากาแฟจะขายก่อนรถเที่ยวแรกเข้าได้ยังไง
พี่หมอเจ๊ขา น้องครูปูขออนุญาตใช้สิทธิพรวดพราด เอ๊ย พาดพิงหน่อยนะคะ
1. เรื่องกาแฟร้านอร่อยถึงจะดูเหมือนหลอกแต่ไม่ได้หลอกค่ะ ตั้งใจชวนไปจริง ๆ ค่ะ ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เพราะตัวเองก็อยากกินอยุู่เหมือนกัน อิอิ และหากรู้ว่าพี่หมอเจ๊นอนอยู่ มรภ.ก็คงเลือกตามไปนอนด้วยมากกว่าค่ะ เพราะ ณ เวลานั้นง่วงแย่แล้วค่ะ ความคลาดเคลื่อนเรื่องเวลาการเดินทางแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอนค่ะ
2. เรื่องการขับรถออกไปตลาดอีกเที่ยวหนึ่งนั้น เอารถตู้มงคลวิทยาไปค่ะ ครูอารามเป็นคนขับค่ะ ไม่ใช่คุณรอกอด มีพี่ครูอึ่ง อุ้ย ป้าจุ๋ม และคุณรอกอดไปด้วย เพราะป๋าจุ๋มบอกว่าในครัวเพิ่งมาบอก ว่าขาดเนื้อหมูสำหรับทำอาหารและผลไม้อีกจำนวนมาก และต้องไปซื้อผ้าเย็นมาเตรียมไว้รับแขกด้วย ทั้งหมดเลยไปลุยตลาดกันยกใหญ่ แทบจะต้องลากซี่โครงหมูกลับรถตู้กันแหน่ะค่ะ
3. เหตุผลของคนอื่นที่ตามไปตลาดด้วยนั้นจะเป็นอย่างไรไม่ทราบค่ะ แต่ของตัวเองที่อยากไปด้วยเพราะช่วงเวลานั้นไม่มีกิจกรรมอะไรแล้วที่สวนป่า ฯ จึงตั้งใจจะไปช่วยป้าจุ๋มหิ้วของน่าจะดีกว่าอยู่เฉย ๆ เผลอ ๆ ถ้าได้แวะ 7-11 หาอะไรเย็น ๆ กินแก้ร้อนก็จะเริ่ดมั่ก ๆ :P
4. เรื่องที่พ่อครูบา ฯ ถามหาไม่ทราบเลยค่ะ คงมีเรื่องจะไหว้วานแต่คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมังคะเพราะพี่ ๆ ก็อยู่กันหลายคน ส่วนเรื่องการมีคนไฮเปอร์อย่างน้องครูปูไปไหนกับใครด้วยนั้น ไม่เคยทำให้ใครหรือคณะไหนต้องเสียเวลาเนิ่นนานขึ้นแน่นอนค่ะ จากประสบการณ์เข้าใจว่ามีแต่จะตรงกันข้ามค่ะ เหอ เหอ
5. จากเหตุผลข้อ 4. ทำให้การที่น้องครูปูตามไปตลาดด้วยนั้น จึงไม่มีความสัมพันธ์กับการที่จะทำให้ใครต้องเหนื่อยเพิ่มค่ะ เรื่องต่อจากนั้นก็ยิ่งไม่เกี่ยวค่ะ
จบข่าว
^_^
แฮ่ๆ ถูกพาดซบจากครูปู…อุ๊ยเปล่านา ไม่ได้ไปด้วย…เพราะต้องอยู่ทำขนมจีนน้ำเงี้ยวมือเป็นระวิงเพราะว่าจำสูตรไม่ได้…และได้ถวายเพลตอน 11.55 น…ก๊าก…
แต่แน่ๆ ครูปูกลับมาเอาข้าวโพดมาให้กินด้วย…ดีใจจัง…อิอิ
ส่วนที่เหลือ อุ๊ยบ่อฮู้ บ่อหันเน้อ…คริ คริ
แป่ว!
ขอแก้ไขค่ะ น้องออยเป็นผู้นำทาง (ลัด) ค่ะ ไม่ใช่อุ้ย
เผอิญคล้ายกันมั่ก ๆ แยกไม่ออกว่าใครเป็นใครหน่ะค่ะ
กร๊ากกกก
:P
#1 น้องขจิตเจ้าขา พี่ว่าเจ้า GPS มันไม่รู้จักถนนลูกรังและถนนตัดใหม่นะน้อง มันเลยแบะๆ เวลาพบกับถนนลูกรังและถนนตัดใหม่ ส่วนเรื่องของเวลาไหนจะทำให้ใครลำบากมั่งนั้น มันไม่เกี่ยวหรอกน้อง
รอกอดเขาเป็นคนรักษาคำพูดนะเลยทำให้ได้มีโอกาสเลี้ยงซาลาเปาน้องซะเลย..
ดีแล้วๆได้สร้างโอกาสให้คนมีโอกาสใช้ตังต์มั่งนะ…
สงสารรอกอดเรอะ…..จะสงสารไปทำไมไม่รู้อ่ะ…คนเขาดีใจจนเนื้อเต้นที่มีโอกาสใช้ตังค์ตั้งตะเช้าในวันนั้น…มีความสุขจะตาย…ไม่เชื่อไปถามดูซิ….อิอิ
#2 น้องสร้อยๆ หนังเรื่องนี้มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ลของจริงกว่าที่เคยดูใช่ป่ะ
#3 รอกอดก็ เชื่อเขาหน่อยซิ บรรดาคอกาแฟนะเขาเลือกร้านขายกาแฟกันแค่ไหนก็รู้ๆอยู่ ไม่เชื่อถามน้าอึ่งดู…ร้านไหนข้าเจ้าก็บายหากว่าไม่ใช่ยี่ห้อเจ็ด-สิบเอ็ดอ่ะ
#4 น้องครูปูพรวดพราดมาแบบต๊กกะใจอะไรรึเปล่า
พรั่งพรูๆๆๆ จนอ่านไม่ทันเลยแหละ
ก็แค่ทบทวนเรื่องราวที่ได้ยินได้เห็นมาเล่าสู่กันฟัง
แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วซะด้วยซิ บ่เป็นหยังดอก
พี่ก็แค่อยากจะเล่าว่า…ความห่วงใยของผู้คนนะ…มันซ่อนอยู่รอบตัวชาวเฮตลอดเวลา….การจัดการตัวเองที่เราว่าจัดการตัวเองแล้วบางครั้งก็มีมุมไปกระทบความห่วงใยของผู้คนรอบข้างได้เช่นกัน….จึงชวนให้ช่วยดูแลกันและกันค่ะ
วันนั้นพ่อครูมีหลายห่วง….สามห่วงรึห้าห่วงหรือมากกว่าไม่รู้แน่หรอกนะ…รู้แต่ว่าห่วงหนึ่งมีรอกอด…ห่วงสองมีน้องครูปู….ห่วงสามมีเรื่องราวของวันนั้น….ห่วงสี่…..ห่วงห้า…..ห่วง…….พอมันมีหลายห่วงที่มาซ้อนห่วงหรือมาคล้องห่วงกันและกันปะเหมาะพอดี….มันก็หลุดซิค่ะ…..หลุดด้วยความห่วงใย…ความรักนะน้องครูปู….มิใช่คำตำหนิอะไรค่ะน้องขา
#5 อุ๊ยนะอุ๊ย เกือบทำให้หลวงพี่ติ๊กไม่มีฉันซะแล้ว….หลวงพี่ติ๊กท่านอยู่กับชาวเฮจนชักรู้แกวแล้วว่า…มีหวังไม่มีฉันเข้าสักวัน…ท่านจึงมักเข้ามาสนทนาธรรมด้วยบ่อยๆ…เพื่อไม่ให้ลืมเตือนด้วยไง….เอ๊ะ…แซวพระนี่บาปรึเปล่าไม่รู้….นมัสการขออโหสิท่านดีกว่า….อิอิ
#6 อุ๊ยดีใจอ่ะป่าวที่น้องครูปูหลงคิดว่าเป็นน้องออยอ่ะ….แต่ว่าน้องออยอย่าเสียใจเน้อที่ถูกจำว่าเหมือนคนแก่…เป็นน้าครูปูเองตะหากที่แ…ไม่ใช่น้องออยหรอกลูก….แฮ่ๆๆๆๆ….ชะแว๊บหนีน้องครูปูไปก่อนจะโดน……