เผชิญ ม๊อบ ที่มุก..

ไม่มีความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ มีนาคม 11, 2010 เวลา 19:49 ในหมวดหมู่ สังคม บ้านเมือง ประชาธิปไตย #
อ่าน: 1470

เตรียมตัวไปสำนักงานก่อนที่จะเข้าพื้นที่ดงหลวงเพื่อประสานงานเตรียมงานวันไทบรู เจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่าขณะนี้มี ม๊อบ ชาวบ้านมาปิดสำนักงานแล้ว…??!!


เมื่อเดินทางไปถึงก็เห็นชาวบ้านจำนวนสัก 50 คนกำลังพูดใส่เครื่องขยายเสียงดังๆโจมตีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. พยายามนั่งฟังอยู่ข้างนอกว่ามันเรื่องอะไรกัน คงไม่ได้มาไล่เรา อิอิ คงไม่ได้มาเกี่ยวข้องกับงานที่เรารับผิดชอบ แต่มันเรื่องอะไรหนอ..


..เราสมัชชาเกษตรกรสี่ภาคมาทวงถามเรื่องการจัดซื้อที่ดิน ทำไมมันช้ามากจนป่านนี้แล้วยังไม่รู้เรื่องเลย หรือมัวคอรัปชั่นกันอยู่ รัฐบาลอนุมัติเงินมา 1700 ล้านมาแล้วตั้งแต่ปี 51 นี่ปี 53 แล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยมุกดาหาร ไม่ทำงานก็ออกไป ทำไม่ได้ก็ออกไป…ฯลฯ…. เราจะไม่เจรจา เราจะรอเพื่อนที่มาจากนครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์……ฯลฯ


เมื่อทราบเรื่องจากการไฮปาร์คของผู้นำแล้วผมก็พอทราบเรื่องนี้มาบ้าง เพราะนี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เกิด Mob มาปิดส.ป.ก. แต่คราวนี้แรงกว่า

ผมเห็นผู้นำคนหนึ่งมาจากดงหลวงจึงเข้าไปคุยด้วย.. สักพักหนึ่งผมเสนอว่า มันต้องคุยกันนะครับ หากไม่คุยกันมันก็ไม่รู้เรื่อง พี่น้องไปด่าส.ป.ก. เขาก๊อกสั่นขวับหายกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว เอาชาวบ้านมามากมาย เอาเสียงมาตะโกนใส่ ใช้คำหยาบคาย มันมีแต่จะเตลิดเปิดเปิง หากอยากได้ตามที่หวังต้องก้าวออกไปคุยกัน เจรจากัน มีเหตุผลอะไรก็คุยกัน ต่อรองกันด้วยเหตุผล หาจุดที่รับกันได้ทั้งสองฝ่าย เอาแต่ด่าใส่แล้วมันจะได้คำตอบอะไร….

ทั้งๆที่ผมก็เข้าใจจิตวิทยามวลชน(เพราะเคยผ่านมาพอสมควร) อยู่บ้างว่า ความร้อนที่มีนั้นต้องให้ราลงไปบ้างก่อน หากหยิบเหตุผลมาพูดตอนร้อนนั้น ต่อให้พูดไพเราะที่สุด ต่อให้ผู้พูดมีความโดดเด่นใดๆก็ตาม สู้ความร้อนไม่ได้ ผู้พูดต่างหากจะมอดไหม้ไป ปล่อยให้ร้อนราลงก่อนแล้วก็พูดอย่างจริงใจเสนอทางออก การตอบรับจะมีมากกว่า

แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ยุทธวิธีการหาจังหวะพูดเท่านั้น แต่ระดับของประเด็นการม็อบนั้นคืออะไรด้วย กรณีวันนี้ผมว่าใช้ยุทธวิธีนี้ได้ และต่อมาก็มีการนั่งเจรจาจริงๆ แน่นอนผมไม่ได้อยู่ตรงนั้น..

เพราะผมมีนัดกับข้าราชการหลายต่อหลายคนที่ดงหลวง ต้องเดินทางไปตามนัด..ขณะเดียวกันก็มีเวทีอยู่ที่จังหวัดตามรูปนี้ในเวลาเดียวกัน


ผมลองถามผู้นำที่มาจากดงหลวงว่า…เสร็จนี่แล้วจะเลยไปหน้าศาลากลางไหมครับ…ไม่ไปหรอกครับ คนละกลุ่มกัน คนละประเด็นกัน เสื้อแดงนั่นเขาเพื่อคนคนเดียว เป็นประโยชน์ของคนเดียว เราไม่ร่วมครับ…

ผมเดินทางต่อเข้าดงหลวงด้วยความคิดอะไรมากมาย….


วันไทบรู ดงหลวง..

2 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ มีนาคม 10, 2010 เวลา 22:54 ในหมวดหมู่ ชนบท #
อ่าน: 2470

กำหนดการ การประชุมสัมมนาเครือข่ายไทบรู อ.ดงหลวง ครั้งที่ 4

วันที่ 24-25 มีนาคม 2553

ณ ห้องประชุมอำเภอดงหลวง ต.ดงหลวง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร

วันที่ 24 มีนาคม 2553

รายการ

ผู้รับผิดชอบ/หมายเหตุ

1100-1200 ลงทะเบียน
1200-1300 รับประทานอาหารกลางวัน
1310 ทุกท่านพร้อมกันที่สถานที่จัดงาน ห้องประชุมอำเภอดงหลวง
1310-1320 ประธานเครือข่ายไทบรูกล่าวรายงานประธานพิธี นายสวัสดิ์ ไชยเพชร
1320-1335 นายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอดงหลวงกล่าวต้อนรับท่านรองเลขาธิการ ส.ป.ก. ดร.วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ และผู้ร่วมงานทุกท่าน นายอติชาต อุณหเลขกะนายอำเภอดงหลวง
1335-1400 ท่านรองเลขาธิการ ส.ป.ก. ดร. วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ กล่าวปราศรัยแก่ผู้ร่วมงานพร้อมเปิดงานวันไทบรู ดร.วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก.
1400-1500 การสัมมนาเรื่อง ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาวะสิ่งแวดล้อมโลกต่อวิถีชนบทไทย ดร.วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ นายทีปกร กาลวิทยี
1500-1630 การอภิปรายเรื่อง ข้าวพื้นบ้านกับวิถีดั้งเดิมของเกษตรกร คณะวิทยากร
1630 พักผ่อน

วันที่ 25 มีนาคม 2553

รายการ

ผู้รับผิดชอบ/หมายเหตุ

0800-0900

ลงทะเบียน(เพิ่มเติม)

0900-1000

นักเรียนจากโรงเรียนต่างๆแบ่งกลุ่มเดินชมนิทรรศการความรู้ต่างๆ เครื่องมือประกอบอาชีพแบบพึ่งตนเองของชาวบรูโบราณ ผลผลิตจากกลุ่มเครือข่ายไทบรู ผลผลิตผักปลอดสารพิษจากตลาดชุมชนแก่งนาง นิทรรศการจากหน่วยงานราชการและเอกชน ผู้นำเครือข่ายไทบรูนำการศึกษารายกลุ่ม

1000-1020

การแสดงท้องถิ่นโดยนักเรียน โรงเรียนดงหลวงวิทยา

1100-1200

การอภิปรายเรื่องการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังแบบอินทรีย์ ผลการทดลองในโครงการ คฟป. ธัญญา ตันตระกูล และผู้นำเกษตรกร

1200

ปิดงานวันไทบรู อ.ดงหลวง ปี 2553 โดยปฏิรูปที่ดินจังหวัด


หัวใจเปื้อนฝุ่น..

4 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ มีนาคม 9, 2010 เวลา 20:14 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 1605

เข้าสู่ฤดูร้อน กรมอุตุประกาศว่าพายุจะเข้าในสัปดาห์นี้ ข้างนอกหน้าต่างห้องพักลมพัดไหวให้ใบมะพร้าวไกวแกว่ง ผมใช้เวลาทบทวนงานวันที่ผ่านมา

ความเมื่อยล้าของร่างกายเริ่มปรากฏให้ผมได้รู้สึกเมื่อมานั่งดูและฟังเสียงธรรมชาติ แต่เมื่อไหร่ที่เราลุกขึ้นเดินเข้าสู่ชนบทความรู้สึกเหล่านี้มันเปลี่ยนไปเป็นความคิดว่าจะทำอย่างไรให้พี่น้องดีขึ้น หลายครั้งที่เราไม่ได้กินข้าวกลางวัน หรือข้าวกลางวันไปกินเอาตอนบ่ายโมง บ่ายสองโมง
เหงื่อที่ท่วมเสื้อจนรู้สึกเหนอหนะตัวเอง


ถูกคาดหวังว่างานในพื้นที่จะต้องมีผลออกมาดี เข้าเป้า สุดยอด เอาไปคุยได้ แต่เมื่อของจริงไม่เป็นไปเช่นนั้น ผู้คาดหวังก็ผิดหวัง แล้วตาของเขาก็หันมามองเรา ..ในสายตานั้นส่งภาษาตะโกนดังลั่นออกมาว่า…คุณทำงานห่วยแตก.. ตรงข้ามสายตาเราที่มองไปยังพวกกลุ่มนั้น อยากจะตะโกนว่า ..มึ..แน่จริงลงมาทำดูแมะ….

ช่วงเวลาที่ผ่านมา สองมือสองเท้าที่แปดเปื้อนฝุ่น บอกให้ผมรู้ว่ากระบวนการทำงานพัฒนาสังคมนั้นต้องปรับเปลี่ยนอีกมาก เราไม่มีโอกาสสร้างโครงการเช่นนั้น เราทำงานภายใต้ข้อจำกัด และตั้งใจว่าภายใต้ข้อจำกัดนั้นเราจะทำดีที่สุดได้อย่างไร เป็นประเด็นใหญ่ที่ติดบนหัวตลอดเวลา

แต่เราก็แอบน้ำตาซึมเมื่อชาวบ้านบางคนเดินมาจับมือแล้วขอบคุณที่มาเปิดโลกใหม่ให้กับเขาและครอบครัว ภาพเช่นนี้ไม่ปรากฏในรายงานการประเมินผล สาระเช่นนี้ไม่ปรากฏในรายงานการติดตามใดๆ

ช่างเถอะ..อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก เพลงที่ไพเราะที่สุดในโลก … ก็ไม่ได้สร้างความสุขเท่ากับคำพูดไม่กี่คำที่ชาวบ้านบ่งบอกเราพร้อมด้วยสายตาที่จริงใจ


แม่จ๋า.. พ่อจ๋า..

4 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ มีนาคม 6, 2010 เวลา 1:16 ในหมวดหมู่ เรื่องของชีวิต #
อ่าน: 1684

บ่ายวันที่ 4 มีนาคม ที่ดงหลวง…

แม่….. แม่….. แม่……. พ่อ…… พ่อ…. พ่อ….

แม่จ๋า…. พ่อจ๋า…แม่อยู่ไหน พ่ออยู่ไหน หนูหาไม่เจอ…. แม่จ๋า แม่อยู่หน๋ายยยยยย

หนูไม่เกเรแล้ว หนูจะอยู่ใกล้ๆแม่ตลอดเวลาเลย หนูคิดถึงแม่ แม่อยู่หน๋าย… หนูรักพ่อ… หนูรักแม่….แม่จ๋า….

(เขาคงหลงแม่ครับ วิ่งออกมาจากป่าข้างทางแล้ววิ่งเยาะๆไปตามถนนที่ไปทางหมู่บ้าน เขาคงจะวิ่งไปบ้านเพื่อหาแม่หาพ่อเขา น่ารักนะครับ ผมขับรถค่อยๆตามเขาไปเป็นกิโลเลย..)



Main: 0.82555484771729 sec
Sidebar: 0.057851076126099 sec