ดอกไม้ที่ Queen Emma ทรงโปรดปราน…
วันก่อนผม post ดอกไม้รวมมิตรขึ้น แล้วน้องราณีถามผมว่าดอกนั้นชื่ออะไร ดอกนี้ชื่ออะไร โดยเฉพาะดอกที่ทำลูกศรชี้นั่น ผมจำชื่อไม่ได้ และติดอยู่ในใจว่าชื่ออะไรหนอ พอมีเวลาสั้นๆจึงไปค้น file เก่ามาดูและหยิบพจนานุกรมดอกไม้ประดับในเมืองไทยของท่านอาจารย์ ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม ปรมาจารย์ดอกไม้ประดับของเมืองไทยมาตรวจสอบ โป๊ะเช๊ะ……รู้แล้ว น้องราณี….
เธอชื่อดอกพลับพลึงครับ….อ๋อ….
เมื่อไปดูข้อมูลก็พบว่าพลับพลึงมีหลายชนิด เช่น พลับพลึงตีนเป็ด พลับพลึงหนู พลับพลึงแมงมุม และพลับพลึงเตือน (บางชื่อเป็นภาษาท้องถิ่น)
(เป็นพลับพลึงที่บ้าน รูปเก่าที่ถ่ายเก็บไว้เมื่อปีก่อน)
พลับพลึงสีแดงม่วงนี้เรียกว่า พลับพลึงแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Crinum augustum ชื่อสามัญ คือ Crinum Lily มีขนาดใหญ่ ลักษณะต้นเป็นกอกลุ่มใหญ่ ใบเป็นรูปหอกปลายแหลม ขอบใบเรียบสีเขียว ผิวเนื้อใบอ่อนนุ่ม หนาเหนียว ดอกออกปีละครั้งประมาณเดือน กันยายน-ตุลาคม ดอกเป็นช่อใหญ่ ก้านดอกชูมาจากกลางกอ ช่อหนึ่งมีดอกประมาณ 15-25 ดอก กลีบดอกแคบเรียบยาว มี 6 กลีบต่อหนึ่งดอก เมื่อบานเป็นที่กลีบดอกจะงองุ้มเข้าหาก้านดอก เกสรยาวยื่นออกมากลางดอก ด้านบนเป็นสีม่วงอ่อน หรือชมพู กลีบด้านล่างสีแดงเข้ม มีกลิ่นหอม เป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา
ที่บ้านมีสองกอใหญ่ เอาดอกมาปักแจกันหอมฟุ้งไปทั่วบ้านเชียว
(เป็นพลับพลึงที่บ้าน ปลูกไว้ในกระถางไม่ได้เอาลงดิน)
รูปร่างเด่นสวยนี้ชื่อพลับพลึงเตือน หรือพลับพลึงเตือนตา ชื่อวิทยาศาสตร์เขาคือ Crinum rubra หรือชื่อสามัญแสนไพเราะว่า Cinderella Lily ลักษณะที่แตกต่างจากพลับพลึงแดงคือ ต้นเล็กกว่า กอเล็กกว่า ก้านดอกมีดอกเดียว ดอกมีสีขาวเป็นรูปดาวที่มีหลายแฉก มีกลีบยาวยื่นออกมาจากตัวดอกอีก 6 กลีบ เมื่อบานเต็มที่กลีบยาวนี้จะม้วนงอโค้งเข้าหาก้านดอก กลางดอกมีเกสร 6 เส้น มีกลิ่นหอมอ่อน ออกดอกกลางฤดูฝน เป็นของอเมริกาใต้
(รูปนี้เอามาจาก google photos)
สีแดงสดนี้คือ พลับพลึงใหญ่ หรือพลับพลึงดอกแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Crinum amabille ชื่อสามัญ Milk-And-Wine Lily หรือ Higanbana Lily มีถิ่นกำเนิดที่ลุ่มทั่วไป หรือตามชายฝั่งน้ำจืดของทวีปเอเชีย ส่วนตัวผมไม่เคยเห็นพลับพลึงสีนี้ครับ สำหรับท่านที่ชอบสีแดงนั้น พลับพลึงดอกนี้คงอยู่ในใจท่านแน่ๆ สวยจริงๆ
(ดอกนี้ผมถ่ายมาจากภูเก็ตช่วงที่ไปเฮฮา 4 ที่พักมีกอพลับพลึงอยู่เลยไม่พลาดที่จะเก็บเอามาชื่นชมครับ)
ราชินีของพลับพลึงต้องดอกนี้ เรียกว่า พลับพลึงแมงมุม ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Hymenocallis Caribaea ชื่อสามัญ คือ Spider Lily ก้านดอกจะมีประมาณ 4-8 ดอก จะทยอยกันบานทีละ 2-3 ดอก แต่ละดอกจะมี 6 กลีบสีขาวนมสด กลีบดอกจะเรียวยาวประมาณ 13 ซม. เมื่อดอกบานเต็มที่ปลายกลีบจะงอโค้งเข้าหาก้านดอก เกสรมี 6 เส้นตอนปลายจะเป็นสีเหลือง หรือสีน้ำตาล มองดูคล้ายแมงมุม ออกดอกเป็นระยะตลอดปี
ปลูกในร่มรำไร และกลางแจ้งแสงแดดจัด ชอบดินปนทรายมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา
คุณสมบัติทางสมุนไพรของพลับพลึงพบว่า มีการนำมาต้มดื่มทำให้อาเจียน(ไม่ใช่แก้อาเจียน) แก้เคล็ดขัดยอก แก้น้ำดีพิการ ใบเอามาย่างไฟพันแก้ฟกช้ำ บวม เคล็ดขัดยอก ใช้อยู่ไฟหลังคลอด หัวมีรสขมในอินเดียใช้เป็นยาระบาย ขับเสมหะ ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับน้ำดี
ทราบว่าธุรกิจสปานำดอกพลับพลึงสกัดเอากลิ่นมาใช้ และเป็นที่นิยมกันมากด้วย….
ราชินีของพลับพลึงคือ Spider Lily สุดสวยนี้มีถิ่นเดิมที่หมู่เกาะอินดีส เป็นดอกไม้ที่โปรดปรานของพระราชินีเอมม่าแห่งประเทศกรีก จึงได้ชื่อภาษากรีกว่า “Krion” ชาวสเปนเรียก “Liriod cinata”
สำหรับผมรักหมดเลย กลัวเขาเสียใจ อิอิ..
ท่านละครับชอบดอกไหนครับ…
(ข้อมูลจาก Google Photos และ พจนานุกรมไม้ดอกไม้ประดับ ของ ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม)
« « Prev : รุ่นโตโจ…
Next : “ดาวเหนือ” แห่งวัดป่าอาชาทอง เชียงราย » »
10 ความคิดเห็น
เพิ่งไปปลูกต้นพลับพลึงที่ผาซ่อนแก้วมา อิอิ
เกิดชาติหน้าคุณหมอตัวหอมเหมือนพลับพลึงแน่เลย อิอิ
อยากไปผาซ่อนแก้ว…ซักวัน..ซักวันคงมีโอกาส
โอย..อยากปลูกพลับพลึงซะแล้ว สวยจังค่ะ รายละเอียดเยี่ยมด้วย แตกหัวเร็วมั้ยคะจะปลูกในสนาม อิอิอิ
สวยจริงๆ ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้ใหม่เพรียบ อิอิ
น้องแก้มยุ้ยครับ แตกหัวเร็วครับ สำหรับเจ้า Crinum Lily ที่พี่ปลูกในบ้าน 1 ต้น นอกรั้ว 1 ต้น เผลอๆเขาก็แตกเป็นกอใหญ่เลยครับ ดอกดกมากและหอมมาก แต่พอดี สีก็สวย เพื่อนบ้านมักจะขอเอาไปกันบ่อยๆสำหรับต้นที่อยู่นอกรั้ว เป็นต้นที่ทำให้พื้นที่เรามีสีเขียวได้ดี สำหรับก้านดอกนั้นเราต้องเอาเชือกไปผูกช่วยทุกปี ไม่เช่นนั้นความที่เขามีดอกดกก็จะอ่อนย้อยลงมาแตะพื้นดิน ไม่สวย ต้องเอาเชือกมาผูกช่วยเขาครับ
ส่วนเจ้า Cinderella Lily พี่ปลูกในกระถางไม่ได้ลงดินเขาก็งามคับกระถางเลย ดอกจะสวยไปอีกแบบ แต่กลิ่นอ่อนกว่า น้อยกว่า Crinum Lily ครับ เจ้า Spider Lily และ Milk-And-Wine Lily หรือ Higanbana Lily ที่บ้านพี่ไม่มี Spider คงหาได้ไม่ยาก แต่เจ้า Higanbana นี่ไม่เคยเห็นกับตาเลย เห็นแต่ในรูปครับ ท่าทางเขาจะหอมมากเหมือนกันเพราะดอกใหญ่มาก
ไม่ผิดหวังครับ Lily ทุกชนิดหอมแบบน่ารักครับ ลองเอาไปปลูกริมรั้วแซมโคนไม้ใหญ่ก็สวยไปอีกแบบนะครับ
น้องราณีครับ พี่ติดใจว่าเอมันดอกอะไร มันติดอยู่ที่ปาก คนข้างกายพี่บอกว่า “พลับพลึงไง” โอย..พี่วิ่งไปคว้าตำรามาเลยครับ เลยรู้เรื่องมากกว่าที่คิด อิอิ
พี่บู๊ธค่ะ ที่บ้านมีเจ้าแมงมุมกับเจ้าซินเดอเรลลา และอีกแบบที่เหมือนดอกทิวลิปมั๊งค่ะ
น้องหมอเจ๊ เยี่ยมไปเลยครับ ฟอร์มดอกเขาสวยนะครับ แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย
ที่บ้าน 1 ปีมานี่ไม่ได้ชื่นชมเท่าไหร่ เพราะเจ้าหมา “คุ๊กกี้” เขาไปกัดเล่นหมด อิอิ
จะเอาหมา หรือจะเอาดอกไม้ เราคุยกัน บอกว่า เอาทั้งสอง อิอิ เลยปล่อยเขา ที่มีหน่อใหม่ก็เอาไปปลูกในกระถางแล้วแยกไปที่สูงๆ จะผูกหมาก็เดี๋ยวเขาเครียดเรื่องการเมือง เอ้ยยย เครียดเรื่องถูกมัด เลยปล่อยเขาให้เขามีพื้นที่วิ่งเล่น ครับ..
เวลามีดอกถ่ายมาดูกันบ้างนะครับ
พลึงเตือนตา ชื่อวิทยาศาสตร์เขาคือ Crinum rubra ดูแล้วน่าจะเป็นว่านน้ำเต้าทอง หรือเศรษฐีน้ำเต้าทองนะครับ
ชื่อวิทย์ของเค้าคือ Pancratium zeylanicum
ส่วนดอกสีแดงคงจะเป็น Lycoris radiata หรือที่เรียกกันว่า Red Spider Lily ครับ
ขอบคุณครับคุณกะได ที่มาเติมความรู้ให้เรียนรู้กันครับ