ตอบครูบา…สันติเสวนา (1)

โดย bangsai เมื่อ ตุลาคม 24, 2008 เวลา 15:22 ในหมวดหมู่ สังคม บ้านเมือง ประชาธิปไตย #
อ่าน: 2350

ขออนุญาตท่านครูบาหยิบโจทย์มาเขียนที่นี่ครับ..

โจทย์ใหญ่คับฟ้าเช่นนี้.. ผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นต้องตีวงกันหน่อย

การเสวนาเพื่อสันติต่อกรณีไหน. เพราะแต่ละกรณีมีที่มาที่ไปต่างกัน มีต้นขั้วที่แตกต่างหลากหลาย ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ยากง่ายแตกต่างกัน หากเราไม่รู้แจ้งแทงตลอดทั้งหมดก็ยากที่จะเสวนาเพื่อสันติ…..

เมื่อวันที่ 22 ผมเข้าร่วม การอภิปรายโดย อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ( อ.เจิมศักดิ์กับผมรู้จักกันเป็นส่วนตัว เป็นคนบ้านเดียวกัน เรียนมัธยมที่เดียวกันมา และเคยร่วมงานกันมาสมัยทำงานที่ จ.สุรินทร์ เคนเป็น reference person ตอนผมสมัครงานโครงการของ USAID ที่ขอนแก่นหลายสิบปีก่อน)

ในทัศนะผม อ.เจิมศักดิ์เป็นคนจับประเด็นเก่ง สรุปอะไรได้ชัด และมีความรู้กว้างขวางมากกว่าวิชาชีพด้านเศรษฐศาสตร์ที่จบมาจาก Princeton คนที่ได้รางวัลเหรียญทองจาก ดร.ป๋วย สมัยเรียนเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แต่มายืนข้างประชาชนตลอดมา ผมชื่นชมเป็นส่วนตัว

การสัมมนาวันนั้นมีหลายประเด็นเกี่ยวเนื่องกับโจทย์ที่ท่านครูบายกมาแสวงหาความเห็น ผมเลยถือโอกาสนี้สรุปสั้นๆเอามาแลกเปลี่ยนกันครับ

สื่อสารมวลชน : การสัมมนาคืนนั้นผมทราบข้อเท็จจริงมากมายเกี่ยวกับความขัดแย้งของสังคมในปัจจุบัน ซึ่งปกติสื่อสารมวลชนต่างๆพยายามเจาะลึกอยู่บ้างแต่ก็มีข้อมูลหลายด้านที่ประชาชนสับสนอะไรแท้จริง อะไรบิดเบือน ชนชั้นกลางอย่างเรายังมีหนทางที่จะไขว่คว้าหาความจริงได้มากกว่า แต่ชาวบ้านที่ห่างไกลการเข้าถึงแหล่งข้อมูลนั้น ก็บริโภคแต่สื่อที่รัฐจัดให้เป็นหลัก และหากผู้ให้สื่อมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โตพูดอีก ชาวบ้านก็ต้องเชื่อ…???

ระบบอุปถัมภ์ : สิ่งที่ผมได้ยินอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ว่าสังคมไทยนั้นระบบอุปถัมภ์มีผลสองด้าน ในที่เสวนาครั้งนี้ก็ย้ำกันอีกว่า ระบบนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือของนักการเมืองผลประโยชน์ที่ฉลาดแกมโกง (นักการเมืองน้ำดีก็มีอยู่นะครับ มิใช่เลวไปหมด)

ค่านิยมของทุนนิยมสามานย์ : ในบรรยากาศที่สังคมเป็นทุนนิยมสามานย์ ต่างแข่งขันในการมีเงินและทรัพย์สมบัติให้มาก ระบบอุปถัมภ์เลยสอดคล้องกับพวกทุนและนักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่แกมโกงนั้น…เราจะสังคายนาเรื่องนี้อย่างไร หรือทำอย่างไรให้ถูกใช้ในแง่เป็นประโยชน์เท่านั้น

การได้มาของนักการเมือง : ระบบเลือกตั้งนั้นมีจุดอ่อนที่ต่างเห็นๆ แต่แก้ไม่ตก จึงมีการระดมความคิดเห็นเพื่อเสนอทางเลือกใหม่ของการได้มาของนักการเมือง ก็กำลังถกกันในปัจจุบันที่ยังไม่ฟันธง มีกรณีตัวอย่างที่เขาแก้มาแล้วในจ่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเยอรมัน หรือออสเตรเลีย และ ฯลฯ

อำนาจทางการบริหารเข้าไปมีอิทธิพลอำนาจนิติบัญญัติ: ชัดเจนที่สุดในปัจจุบันนี้ ไม่ต้องสาธยายมาก จะต้องแบ่งแยกให้ชัดเจน โดยอำนาจบริหารจะต้องไม่สามารถมามีอิทธิพลเหนืออำนาจนิติบัญญัติ มิเช่นนั้นบ้านเมืองไปไม่ได้

ประชาชนฐานรากไม่มีส่วนร่วมแท้จริงในการปกครอง : แลกเปลี่ยนกันว่างบประมาณภาษีท้องถิ่นไม่ต้องส่งส่วนกลางให้อยู่ในท้องถิ่นนั้น แล้วบริหารกันเองในจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ประชาชนจะรู้สึกมากขึ้นว่าเงินภาษีที่เขาเสียไปนั้น นักการเมืองท้องถิ่นเอาไปทำประโยชน์อะไรบ้าง มิใช่คิดแต่ว่า เงินที่ส่งมาจากส่วนกลางนั้นเป็นเงินหลวง(ทั้งๆที่เป็นเงินจากภาษีของเราเอง) ความรู้สึกการเป็นเจ้าของจะมีมากขึ้น และเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารท้องถิ่นมากขึ้น หรือมีอำนาจถ่วงดุลมากขึ้น

โครงสร้างตำรวจ: ตำรวจต้องเป็นตำรวจของประชาชนแท้จริง มิใช่ที่เห็นปัจจุบัน โดยการโอนไปอยู่ที่จังหวัด แล้วประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารตำรวจนั้นๆ….

ระบบคุณค่าทางสังคมเดิมจืดจางหายไป: ความสัมพันธ์ของคนในสังคมจึงมีแต่ผลประโยชน์เป็นตัวเชื่อม ยิ่งมีระบบอุปถัมภ์ในมุมลบเป็นโครงสร้างหนุน คุณค่าเดิมทางสังคมจึงบิดเบือนไปเพียงเพราะว่า เขาเป็นญาติพี่น้อง เขาเป็นเพื่อน เป็นเจ้านาย ลูกน้อง ฯลฯ ที่อุบถัมภ์ค้ำชูกันมา ความผิดจึงซ่อนอยู่ใต้ความสัมพันธ์แบบนี้ ยิ่งค่านิยมทุนนิยมเข้ามา คนที่มีทุนการเงินมหาศาลจึงซื้อคนได้ง่ายมากๆ

ระบบศีลธรรมหดหาย บุญบาป ไม่มีใครเกรงกลัวต่อไป: นายแพทย์ใหญ่ท่านหนึ่งบวชมาถึง 23 พรรษา ปัจจุบันท่านเป็นผู้อำนวยการมูลนิธิเกี่ยวกับผู้ป่วยช่วงสุดท้าย..ท่านกล่าวว่า ระบบสงฆ์ไม่มีบทบาทในการหล่อหลอมจิตใจประชาชนให้ดำรงคุณธรรมอย่างสูงได้เลย ตัวระบบสงฆ์ก็จำลองระบบราชการ เป็นระบบขึ้นต่อเหมือนระบบทางการปกครอง ตำแหน่งทางสงฆ์ก็ซื้อกัน พระต่างจังหวัดจะไปจำพรรษาที่วัดธาตุทองต้องจ่ายเงินแสนเพื่อจะเข้าสู่กุฏิได้ ??

อีกมากมาย…… (อยากรู้เรื่องต่อก็ต้อง ติดตามตอนสองอ่านเอา…)

« « Prev : คำรำพึงจากภาพ…

Next : สันติเสวนา… (2) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 ตุลาคม 2008 เวลา 15:57

    รอติดตามด้วยความระทึกโดยพลัน อิอิ

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 ตุลาคม 2008 เวลา 8:10

    เห็นด้วยค่ะและจะติดตามด้วยความรื่นรมย์ในใจเลย ชอบภาพหัวบล็อกและภาพประกอบบันทึกมากค่ะ ทำให้เห็นแจ้งแทงตลอดสายเชียว อิอิอิ

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 ตุลาคม 2008 เวลา 15:14

    น้อง dd_l เดี๋ยวมาต่อครับ

  • #4 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 ตุลาคม 2008 เวลา 15:18

    น้องแก้มยุ้ย ภาพหัวบล็อกนั้นเป็นภาพทุ่งนาเมืองหงสา คราวที่ไปช่วยคุณเปลีียนทำ PRA ครับ

    เห็น DD_L เอารูปใส่หัวบล็อก เลยลองทำบ้าง ลองอยู่หลายครั้งกว่าจะลงตัวครับ
    หากเบื่อรูปก็จะเอารูปใหม่มาใส่ เรามีรูปสวยๆตุนไว้เยอะอยู่ครับ

    อีกพักเอาตอนสองมาลงครับ

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2008 เวลา 0:04

    สุดยอด


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.12950921058655 sec
Sidebar: 0.038975954055786 sec