ระบบขายตรงกับวิถีชนบท..
อ่าน: 2757ชนบทคือตลาดใหญ่ที่สุด ระบบขายตรงประเภทหนึ่งจึงพุ่งเป้าไปที่นั่น วันวันสินค้านานาชนิดที่กลุ่มนักธุรกิจอีกกลุ่มหนึ่งที่ต่างไปจากในเมืองใหญ่คิดอ่านหาทางเอาเงินออกจากกระเป๋าชาวบ้านให้ได้ แม้จะรู้ว่าเขายากจน แต่ก็ต้องการสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในลักษณะต่างๆกัน
สินค้าสองชนิดที่วิ่งสวนทางกันบนถนนในดงหลวงนี้ ย้อนหลังไปสัก 20 ปีที่ผ่านมา ผลิตเองได้ทั้งนั้น สภาพสิ่งแวดล้อม ความรู้ความสามารถมีอยู่ ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่เมื่อสังคมเคลื่อนตัวไป สังคมละทิ้งความรู้ความสามารถเหล่านี้ออกไปเป็นการบริโภคแทน ต่างมุ่งมองแต่หาเงินอันเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเพื่อได้มาสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตเป็นต้นไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย และเลยไปถึงตอบสนองความอยากตามแรงกระตุ้นของระบบทุน
ความจริงหากเราจะทำตัวเป็นกระบวนการกบนอกกะลา ตามไปดูที่มาของสินค้าในรถคันนี้เราจะตกใจ…
เพราะที่นอนที่ดูภายนอกสวยงามนี้ ภายในคือนุ่น…นุ่นที่มาจากต้นนุ่น แต่ร้อยละ 90 เป็นนุ่นเก่า…ที่มีรถอีกธุรกิจหนึ่งตระเวนไปรับซื้อที่นอนเก่า เก่ามากๆที่ไม่ใช้นอนแล้ว เพื่อเอานุ่นข้างในไปใส่ที่นอนใหม่ที่เราเห็นนี่ เพราะต้นนุ่นในชนบทนั้นหายไปเกือบหมดแล้ว
และท่านลองหลับตาซิว่าที่นอนสวยๆที่เราเห็นนี้ แต่ข้างในคือของเก่าที่ประวัติ ความเป็นมาเป็นอย่างไรนั้นเราไม่มีทางรู้ที่มาที่ไปก่อนเลย คนสุดท้ายที่ใช้ที่นอนเก่านั้นเป็นโรคภัยไข้เจ็บอะไรมาบ้าง…
ไม่มีระบบตรวจสอบความมีมาตรฐาน…ไม่มี QC ไม่มีกฎหมาย รึมีแต่ไม่เวิร์ค โรงงานหนึ่งที่ทำลักษณะรีไซเคิ่ลนี้อยู่ที่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิครับ
ระบบธุรกิจที่ขับเคลื่อนสังคมด้านหลักนี้ ระบบสังคมภายใต้งานที่ราชการทำอยู่มีจำนวนมากที่ไม่ได้ครอบคลุมสิ่งเหล่านี้ในวิถีชีวิตของชนบท และไม่มีทางที่จะวิ่งตามทัน
มีแต่สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ติดอาวุธปัญญาดูแลกันเองมากขึ้น จับรถกลุ่มเหล่านี้มาพิสูจน์ความถูกต้องต่อสุขอนามัย หรือปฏิเสธแล้วกลับไปสู่การปลูกนุ่น รื้อฟื้นสังคมการทอถักขึ้นมาใหม่ ชุมชนต้องหันหน้ามาคุยกันหาข้อสรุปกันเอง …
มิใช่ปล่อยให้สังคมชุมชนขับเคลื่อนไปแบบตั้งตัวไม่ติด..
งานทั้งน้านนนนน
ไม่ง่ายที่คนในชนบทจะมีมุมมองนี้
เจ้ารถเหล่านี้วิ่งผ่านหน้า คนหนุ่มสาวชนบทไปทุกวี่ทุกวัน ซึ่งมีบางวันเขาเองที่เป็นผู้เรียกกรถเหล่านี้ให้หยุดเพื่อซื้อสินค้านี้ แล้วเขาก็เดินทางเข้าสู่เมืองเพื่อทำงานแลกเงินต่อไป โรงเรียนมีหลักสูตรที่ถามว่า ใครคือนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด แต่ไม่เคยตั้งประเด็นสิ่งรอบตัวนี้มาให้ขบคิดกัน สื่อมีแต่มอมเมา มือถือรุ่นใหม่สุด สารพัดลูกเล่นกระตุ้นต่อมอยากให้หลั่งสารความทะเยอทะยานอยากได้ออกมาท่วมหัวใจที่ไร้สติ..
มีแต่สร้างชุมชนให้มีสติ ตั้งคำถามตัวเองมากขึ้น สร้างเครื่องกรองหัวใจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มิเช่นนั้นก็ถูกลากจูงไป แล้วก็งมงายกับลมปากของนักการเมืองพวกกินบ้านกินเมืองที่โหวกเหวกอยู่นั่น
เปล่าเทศนานะครับ..อิอิ
Next : ภาพเหลืองแดงสมานฉันท์กัน.. » »
2 ความคิดเห็น
แหมอ่านแล้วคันในหัวใจ
โรงเรียนมีหลักสูตรที่ถามว่า ใครคือนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด แต่ไม่เคยตั้งประเด็นสิ่งรอบตัวนี้มาให้ขบคิดกัน สื่อมีแต่มอมเมา มือถือรุ่นใหม่สุด สารพัดลูกเล่นกระตุ้นต่อมอยากให้หลั่งสารความทะเยอทะยานอยากได้ออกมาท่วมหัวใจที่ไร้สติ..
ไปร่วมงานเลี้ยงคนวัยเดียวกัน (50อัพ)
พี่จะเชื่อไหมว่า มีการควักมือถือมาอวดกัน ..และ…..nokia 3310 ก็ถูกโห่ว่าไม่เหมาะกับการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย การเป็นด๊อกเตอร์…ให้หามาเปลี่ยนซะ..
อย่าไปมุ่งหวังว่าคนรุ่นใหม่จะคิดแตกต่างเมื่อคนรุ่นเก่ายังไม่เคยคิดให้ต่างจากกระแสการค้า
ในความเห็นคือ…มันไม่ผิดอะไรถ้าเราจะใช้โทรศัพท์รุ่นใหม่เอี่ยม..ถ้าเราคิดรอบคอบแล้วว่านั่นเหมาะกับสภาพการทำงานหรือสภาพการใช้งานที่ทำให้คุ้มค่าคุ้มทุน
แต่มันน่าเศร้าถ้าการซื้อหรือใช้ด้วยเหตุผลเพื่อเชิดหน้าชูตากับสถานะทางสังคมที่อุปโหลกกันขึ้นมา
น้องไม่เคยมุ่งหวังว่าโรงเรียนคือสูตรสำเร็จของการศึกษา โรงเรียนคือสูตรวิเศษที่เป็นโรงงานคัดเกรดคน หรือโรงเรียนเป็นแหล่งมหัศจรรย์สามารถสร้างผลผลิตที่ยอดเยี่ยมกับสังคมได้
โรงเรียนเพียงลำพังทำไม่ได้หรอก..โรงเรียนที่มีความพยายามอย่างสูงก็ยังคิดว่า คงทำได้อย่างมากคือให้เด็กๆได้มีช่วงเวลาที่ดีงามกับการอยู่ในสังคมที่ไม่แก่งแย่งชิงดีกัน และจัดเป็นประสบการณ์ที่เขาจะได้ระลึกถึงในยามที่ตกต่ำของสภาพจิตใจของเขาว่า เขายังมีกัลยาณมิตรกลุ่มหนึ่งที่คอยเฝ้าเพาะความดีงามและรอคอยเห็นความก้าวหน้าของเขา…ก็เท่านั้นเอง
สังคมและโรงเรียนถ้าไม่ร่วมมือกัน…ก็จะมีคนที่เห็นช่องทางสร้างกำไรจากสิ่งที่ไม่เคยลงทุนเหล่านี้..เสมอ..อย่างแน่นอนค่ะ
[...] ที่คันในหัวใจวันนี้ก็เพราะอ่านบันทึกของพี่บางทราย แล้วก็เกิดความอยากให้ความคิดเห็น.. [...]