ใบไผ่..
อ่าน: 4648
หลายวันที่ผ่านมาอากาศที่ดงหลวงเย็นลงพรวดพราด เหลือ 19 C การเสวนากลางป่าจึงมีภาพอย่างที่เห็น แต่ละคนนั้นฉกาจฉกรรกับอดีตมา ผมกำลังให้เวลารวบรวมเรื่องราวของท่านเหล่านี้อยู่ครับ
หลังจากหลงไปหลายปีเราก็หันมาคุยเรื่องหลักของชีวิตคือ ข้าว เราพบว่าข้าวพันธุ์พื้นบ้านหายไปมากแล้ว เราจึงพยายามค่อยๆรื้อฟื้นมาใหม่ ขณะเดียวกันก็ค่อยๆขยับกระบวนวิธีการเพิ่มผลผลิตข้าวด้วยวิธีที่ห่างไกลจากสารเคมี
ไม่ขอลงรายละเอียดเพราะมันยาว…..
มีหลายขั้นตอน หลายวิธี หลายประเด็น ที่เป็นองค์ประกอบของการเพิ่มผลผลิตข้าว ทุกคนนั้นใช้น้ำหมักชีวภาพ สูตรต่างๆ ช่วงเวลาที่ใส่ก็แตกต่างกันไป เทคนิคการใส่ก็หลากหลาย เอามาแบ่งปันกัน ….
สิ่งหนึ่งที่ พูดเป็นเสียงเดียวกันคือการฟื้นฟูดิน หลังจากที่หลงไปกับราชการที่มาเปลี่ยนพันธุ์ข้าวจากพันธุ์พื้นบ้านเดิมมาเป็นข้าว กข. แต่ต้องใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ใช้สารเคมี ดูแลน้ำ วัชพืช ฯลฯ แล้วดินก็ตายลงไปเรื่อยๆ
พ่อสำบุญ วงศ์กะโซ่ ลุกขึ้นเดินไปหยิบใบไผ่ที่มีอยู่เต็มทั่วไปมากำมือใหญ่ แล้วพูดว่า…พี่น้องผมใช้สิ่งนี้ปรับปรุงดิน ใบไผ่นี่แหละคือปุ๋ยชั้นเลิศ ไม่ต้องคอยให้มันผุพังไปแล้วจึงเอาไปใส่นา มันช้าไป ผมเอาไปใส่คอกหมู ปกติเราทำหมูหลุมใช่ไหม และเราไปซื้อแกลบมาใส่รองพื้น แล้วก็เอาแกลบนั้นไปใส่นา พี่น้องก็ทราบว่าแกลบเดี๋ยวนี้เป็นราคาไปหมดแล้ว คันรถอีแต๊กราคา 80-100 บาท นาเรามีกี่ไร่ กว่าจะใส่หมด เราสู้ไม่ไหวหรอก อย่าไปหวังแกลบ เอาใบไผ่นี่แหละครับ เก็บกวาดเยอะๆ แล้วเอาไปใส่คอกหมู คอกวัว คอกควายของเรา มันก็ซับขี้ เยี่ยว และสัตว์มันก็ย่ำใบไผ่ ป่น คลุกเคล้ากันดี ไม่นานเท่าไหร่ ก็พอดีเอาไปใส่นาของเรา เอาไปทำเถอะครับ ผมทำมาแล้วได้ผลดีมาก ข้าวงาม รวงใหญ่ น้ำหนักดี ผลผลิตเพิ่มขึ้นมากทีเดียว…
เราเพียงแค่จัดกระบวนการเรียนรู้ใต้ร่มไผ่ กลางธรรมชาติแห่งวิถีของเขา ค่อยๆกระตุก เคาะมุมมอง การทดลองและผลที่เกิดขึ้นจริง การเรียนรู้ในแนวราบมีคุณค่าและเกิดผลมากด้วยเงื่อนไขที่เขาไม่มีกำแพงมาขวางกั้น
เดินไปข้างหน้าอย่างค่อยๆไปเถอะพี่น้องไทโซ่ดงหลวง..ด้วยความมั่นใจ.
« « Prev : กรรมชิน 2
Next : ขยะ.. » »
2 ความคิดเห็น
รักน้ำใจ รักการแบ่งปัน ตัวอย่างไทยสามัคคี เพื่อชาติไทย
ชาวบ้านยังต้องการผู้นำ ผู้ประสานใจ ประสานงาน
สิ่งที่พี่และทีมงานทำ ป้าหวานขอชื่นชมอย่างยิ่งค่ะ
ทำไม..ป้าหวานชอบ และ ทึ่ง ชาวบ้านเหล่านี้ จริงๆ
เขาไม่ต้องหาสิ่งภายนอกมาประดับอีกแล้ว
เพียงใจกาย ที่ดูธรรมดา ธรรมชาติ นี้ก็พิเศษสุดแล้ว
เพราะเขาเหล่านี้ทุ่มเทกายใจเพื่อหน้าที่ตน และ
พร้อมจะให้กันเละกัน …ช่างบริสุทธิ์จริง…
ตรงกันข้ามกับโลกมายาอีกซีกหนึ่ง
พี่น้องไทโซ่ แม้ว่าจะมีข้อด้อย(หรือข้อดีก็ไม่รู้) ในเรื่องการปรับตัวเข้ากับสมัยใหม่แบบรู้เท่าทัน ปรับช้ามาก แต่ข้อดีของพี่น้องก็มากโข ประการหนหึ่งที่เราเรียกว่า ลัทธิเฉลี่ยสมบูรณ์ เป็นศัพท์ในป่า หรือฝ่ายซ้ายครับ
ใครได้อะไรมาก็มาแบ่งปันกันแบบเท่าเทียมกัน (ความจริงคนอีสานทั่วไปก็มีสิ่งนี้แฝงอยู่ครับ) เช่นกรณีที่ สมัยออกมาจากป่ากองทัพสัญญาว่าจะหาที่ดินให้เขา แต่แล้วก็ไม่ทำอะไรต่อ เขารู้สึกเหมือนถูกหลอก….. เรื่องใหญ่นะหากรัฐบาล กองทัพหลอกคนที่เคยเข้าป่าเป็นคอมมิวนิสต์ ความรู้สึกต่อต้านรัฐจะฝังใจไปตลอด แต่รัฐบาลท่านสุรยุทธ์ ท่านมีโอกาสแก้ปัญหานี้โดยการทบทวนสัญญานี้ แล้วพบว่า เลยช่วงเวลาที่จะหาที่ดินให้แล้วเพราะหลายคนก็มีที่ดินแล้ว จึงเปลี่ยนที่ดินเป็นเงิน ใครที่ลงทะเบียนสมัยนั้นก็จะได้เงิน เฉลี่ยคนละประมาณ 5 หมื่นบาท(ก็มากพอสมควร)
ทีนี้เกิดเรื่องละซีเพราะ หลายคนเข้าป่าแต่ไม่ได้ลงชื่อเพราะไม่เชื่อว่ารัฐจะให้ได้ จึงเสียดายที่ไม่ได้ลงชื่อ ดูเหมือนจะมีรอบสองที่ทำเรื่องนี้ พบว่าที่ตำบลดงหลวง สหายที่เข้าป่าทั้งหมดเอาเงินมากองรวมกัน แล้วนับหัวที่ลงชื่อและ ชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ได้เข้าป่าแต่ได้ดูแลข้าวปลาอาหารคอยส่งข้าวส่งน้ำส่งเงินทอง หยูกยา เอามาเป็นตัวหารด้วย เป็นว่าได้หมดทุกคน……เราเรียกวิธีการแบบนี้ว่าลัทธิเฉลี่ยสมบูรณ์ คืออดก็อดหมด มีกินก็ต้องกินทุกคน
การมีโอกาสคลุกคลีกับเขาก็เห็นรายละเอียดพวกนี้แหละครับ