ไม้ข่มเหง
อ่าน: 2758ผมไม่ได้ไปข่มเหงใคร และใครก็ไม่ได้มาข่มเหงผมหรอกครับ …
แล้วคำนี้เกี่ยวกับรูปที่เอามาแสดงอย่างไร หลายท่านคงสงสัย
เมื่อเข้าที่ทำงานตอนเช้าวันนี้ก็มีโน๊ทบนโต๊ะทำงานกล่าวว่า พ่อไข วงศ์กระโซ่เสียชีวิตแล้ว จะเผาวันนี้ ขอเชิญ…เข้าร่วมงานศพด้วย
พ่อไข เป็นผู้นำชาวบ้านที่เราสนิทสนมด้วยตั้งแต่แรก พ่อไขเป็นกลุ่มคนแรกๆที่ดงหลวงที่ทดลองทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพเพื่อใส่พืชผักต่างๆจนได้ผล พ่อไขทำเกษตรผสมผสานให้คนอื่นๆดู ขุดสระน้ำ เอาน้ำมาใช้เพื่อการเกษตรพอเพียง ปลูกทุกอย่างที่กินได้ ตามแนวคิดของเครือข่ายอินแปงแห่งสกลนคร
พ่อไขยังมีบทบาทที่สำคัญในการเป็นมัคทายกวัด ดูแลเอาใจใส่พระสงฆ์องค์เจ้าทุกด้าน
วัย 70 เศษที่มาล้มป่วยด้วยเรื่องของตับ เร่ร่อนไปรักษาตามโรงพยาบาลมามากมายทั้งของรัฐของเอกชน ทั้งสมุนไพร ..แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฎธรรมชาติ
กว่าผมจะเสร็จงานที่ทำงานก็บ่ายแก่แล้ว รีบเดินทางประมาณ 60 กม.เข้าดงหลวงมาถึงบ้านงานพบว่าเคลื่อนศพไปสถานที่เผาแล้ว ผมยิ่งงงเพราะเขาใช้สวนของพ่อไขเป็นสถานที่เผาศพ ไม่ได้ใช้วัด หรือป่าช้า ทั้งนี้เป็นไปตามความต้องการของลูกหลาน โดยเฉพาะกลุ่มไทโซ่ ที่จะเอาบรรพบุรุษไปเผาและเก็บกระดูกไว้ที่สวน ที่นาของเจ้าของ
ผมได้เห็นพิธีแบบชาวบ้านที่แปลกตาไปจากแบบเมือง การกองฟืนแล้วเอาศพไปวางไว้ข้างบนนั้นทางภาคกลางเรียก “เผามอญ” หลังจากพระทำพิธีแล้วญาติสนิท มิตรสหายเอาน้ำมะพร้าว และน้ำพิเศษชนิดหนึ่งไปรดลงใบหน้าศพ ครบถ้วนแล้ว ก็จะทำพิธีเผา
เห็นชาวบ้านช่วยกัน ยกไม้ขนาดใหญ่มากจำนวน 4 ต้นเอามาวางพิงทับโลงศพด้านละสองต้น ดังภาพ
ผมถามผู้นำชาวบ้านว่า ไม้ใหญ่ที่เอามาอิง มาทับนั้นทำไว้ทำไม… ผู้นำบอกผมว่า เอามาทับไม่ให้เวลาเผาศพ เผาโลงแล้ว โลงจะกลิ้งตกลงมาเพราะการเผาไหม้น่ะซี เขาเรียกไม้สี่ต้นนี้ว่า “ไม้ข่มเหง” ผมฟังไม่ผิดครับเพราะซักผู้นำจนมั่นใจว่าเรียกเช่นนั้นจริงๆ เป็นคำเดียวกับ ข่มเหง นั่นแหละ ผู้นำคนนั้นยืนยัน
เอาไม้ใหญ่ไปวางทับเพราะต้องการ “ข่มเหง” โลงศพไม่ให้ไหลกลิ้งลงมาช่วงเผานั่นเอง…..
(ใช้มือถือถ่ายรูปช่วงเย็นมากแล้วจึงไม่ชัด)
« « Prev : ท่องอีสานดูการจัดการน้ำ..แก่งละว้า 2
Next : งานสูบน้ำห้วยบางทราย ดงหลวง » »
6 ความคิดเห็น
ใครที่ไม่เคยปลูกต้นไม้ก็รีบๆปลูกซะ
ไม่แน่นะ ตายไป เกิดวิกฤติไฟฟ้า ไม้มีไฟเผาสังขาร
ก็จะหันมาใช้ไม้ฟืนที่มีอยู่ในธรรมชาติเผาร่างตนเอง
เป็นการเบียนเบียดป่าไม้จนกระทั้งวาระสุดท้ายก็ยังไม่เอาไหน
ถ้าเราปลูกไม้ทดแทนไว้ นอกจากได้ใช้สอยแล้ว
ยังสามารถมีไม้ข่มเหงที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงตนเอง
เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ก็ไม่ต้องเบียนเบียนโลกมากนัก
ทราบแล้วเปลี่ยน อิอิ
เห็นด้วยครับ พ่อครูฯ ควรจะปลูกทุกปี อย่างน้อยรอบบ้านที่สวน บ้านจัดสรรก็ปลุกได้ โดยเลือกชนิดที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
ได้ความรู้ใหม่ “ไม้ข่มเหง” โดยเฉพาะกลุ่มไทโซ่ ที่จะเอาบรรพบุรุษไปเผาและเก็บกระดูกไว้ที่สวน ที่นาของเจ้าของ เป็นสิ่งที่น่าศึกษา เก็บบรรพบุรุษไว้ในที่ ให้ลูกหลานรักษา ที่สวนที่นา น่านับถือความคิดที่ลึกล้ำยิ่งนัก
เป็นพิธีกรรม ที่เรียบง่าย และเป็นธรรมชาติมากเลยครับ
กิน อยู่ ที่ไหน ตายที่นั่น
อาม่าครับ วัฒนธรรม ความเชื่อของไทโซ่น่าสนใจนะครับ
คิดถึงตาหยูครับ