ทัวร์คนเฒ่า
ทัวร์ครอบครัวครั้งนี้หากรวมอายุกันก็เกือบ 500 กว่าปี อิอิ.. กิจกรรมของสมาชิกจะไปมีอะไรก็เดินดูโน่นดูนี่ ถ่ายรูปกับพี่ๆน้องๆ กิน และที่ชอบกันมากก็คือนั่งคุยกันเสียงดังลั่น
เราไปพักกันที่เรือนรับรองเขื่อนภูมิพล ใครที่เคยไปแล้ว หรือเคยพักมาแล้วก็ต้องชอบนะครับเพราะว่า Landscape สวยและมีอาหารที่อร่อยโดยเฉพาะ สลัดและไอศกรีม เขาคุยว่าสองอย่างนี้ฝรั่งมาสอนทีมงานเอาไว้ และใครไปใครมาก็ต้องชิมและญาติคนหนึ่งบอกว่า ห่างกัน 3 ปีฝีมือยังเหมือนเดิม
ห้องพักที่ผมชอบมากคือ กองหนังสือหัวเตียงตรงไฟนั่นแหละครับ เป็นกองหนังสือมีสัก 10 เล่ม ทั้งหมดเป็นหนังสือธรรมของพระอาจารย์ต่างๆ ไม่ซ้ำกันเลย มีทุกห้อง ผมว่าเป็นความคิดที่ดีที่เอาหนังสือประเภทนี้มาไว้ตรงนี้
อากาศหนาวครับ ประมาณ 15 องศา หนาวไม่หนาวดูเจ้านกเอี้ยงคู่ตุนาหงันนี่ซิ ดูท่าทางตอนแรกผมว่าเป็นลูกนก เฝ้าดูสักพักก็ไม่ใช่ครับ เขาพาคู่มาผึ่งแดดอุ่นตอนเช้าน่ารักมากครับ
ดอกอะไร…บางท่านอาจจะยังไม่รู้จัก เป็นต้นไม้ยืนต้นใหญ่ อยู่รอบๆเรือนพักรับรอง ชื่อเขาคือ ดอกงิ้วขาวครับ
ทัวร์คนเฒ่านี้ไปที่แม่สอดอีก ประมาณ 80 กิโลเมตรจากตัวจังหวัดตาก ถนนดีมาก สะอาด กว้าง เรียบสวย ดูเหมือนจะได้รับรางวัลของจังหวัดด้วยครับ ที่ตลาดริมเมย มีคนพม่ามานั่งขายของเย้ยตำรวจอย่างน่าแปลกใจ ที่ผมกล่าวเช่นนั้นเพราะทั่วเมืองมีป้ายแนะนำว่าอย่าไปซื้อบุหรี่ และของผิดกฎหมายอื่นๆ แต่สิ่งที่ผมเห็นและได้ยินกับหูคือ มีชาวพม่ามานั่งที่ริมรั้วร้องเรียกให้ซื้อบุหรี่ ยาไวอะกร้า และยาสีชมพู ซึ่งผมเดาเอาว่าตัวหลังสุดนี้คือยาเสพติดอะไรสักอย่าง..??
ที่ตลาดริมเมยนั้นสภาพคล้ายๆตลาดอินโดจีนที่มุกดาหารและที่หนองคาย แต่สภาพดูแย่กว่าเพราะตัวร้านค้าเป็นแบบกึ่งถาวร สินค้าที่ขายก็ส่วนใหญ่ก็มาจากพม่า และของไทยเรานี่เอง สนนราคาก็ทั่วๆไป ไม่แพงไม่ถูก อย่างราคาสบู่ แท่งยาวๆสำหรับซักผ้าที่เปื้อนมากๆ เป็นราคาเดียวกันกับมุกดาหาร
ผมไปที่ตลาดริมเมย หรือแม่สอดนี้หลายครั้งแล้วและทุกครั้งก็มานั่งกินกระเพาะปลาเจ้านี้ ผมไม่ได้กินนะครับให้เพื่อนๆกิน ใครๆก็ชมว่าอร่อย ร้านแน่นตลอด เดินชมร้านก็จะเห็นรูปคนดังมากินเต็มข้างฝาไปหมดตั้งแต่นักการเมือง นักธุรกิจดัง แม้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน กระเพาะปลากลมๆที่ห้อยอยู่นั่นราคากิโลกรัมละ สามหมื่นบาท หากเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถุงราคากิโลกรัมละสองพันกว่าบาท มาคราวนี้ได้กินดอกไม้จีนสดผัดน้ำมัน (รูปล่าง) เจ้าของร้านบอกว่าไม่มีขาย คนปลูกเอามาขายให้ร้านนี้เจ้าเดียวเท่านั้น ต่อวันได้เพียง ประมาณ 10 จานเท่านั้น ในตลาดก็ไม่มีขาย
ขากลับก็ไม่พลาดที่จะแวะตลาดมูเซอระหว่างทาง เปลี่ยนไปจากเดิมสิ้นเชิง เพราะขยายขนาดไปมากมายและคนผ่านก็ต้องแวะทั้งขาไปและกลับ สินค้าก็มากมายจริงๆ เท่าที่เดินดูก็เป็นอาหารและผลไม้ ผลไม้ทั้งในบ้านเราและมาจากจีน เช่นลูกพลับ แอบเปิ้ล ฯลฯ ซึ่งมาจากแม่สาย..??? สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือผักสดที่ชาวเขามีฝีมือปลูกมานาน ผักเมืองหนาวเกือบทุกชนิดมาและราคาถูก คนข้างกายผมชมว่า สาวมูเซอค้าขายเก่งเหมือนชาวม้ง ผักเขาจะแพคใส่ถุงพลาสติกโป่งๆข้างในมีน้ำติดก้นถุงราคาถุงละ 20 บาท ที่ใส่ถุงโป่งและมีน้ำติดก้นถุงเพราะ ง่ายต่อการขายและจะสดตลอด ถ้าลูกค้าสนใจก็จะขยั้นขยอให้ซื้อสามถุงคิด 50 บาท เมื่อใครตัดสินใจซื้อก็รีบเสนอสินค้าตัวอื่นทันที นี่คือสาวมูเซอที่ขายเชิงรุก…เก่ง..
ผมเห็นฝักสะบ้าใหญ่เบ่อเริ่ม ซึ่งผมไม่เห็นมานานแล้ว วันนี้เป็นสินค้าเครื่องประดับห้องไปแล้ว ผมถามแม่ค้าก็บอกว่าส่วนใหญ่ซื้อไปเป็นเฟอร์นิเจอร์ สนนราคาฝักละสามสิบบาท ซื้อมากก็ลดลงมา
ที่ผมตื่นตาก็คือเจ้าหนอนไผ่ที่กลายมาเป็นสินค้า ที่มีแพคกิ้งใส่กล่องพลาสติกอย่างดีวางขาย หลายคนบอก ยี้…..หลายคนบอก โห…ของหายากมากๆ….อร่อย.. หนอนไผ่นี้ในตลาดทั่วไปรู้จักกันชื่อ “รถด่วน” ที่ชื่อเช่นนี้เพราะรูปร่างเขาเหมือนรถด่วน สมัยผมอยู่สะเมิงชาวบ้านเอามาให้กินบ่อยๆ บางท่านอาจจะไม่รู้จักว่ามันมาจากไหน…หนอนไผ่ หรือเจ้ารถด่วนเป็นหนอนชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในปล้องไม้ไผ่ ชาวบ้านสะเมิงย้ำว่ามันสะอาดมากนะ มันไม่เคยลงมาเดินบนดินเลยอยู่แต่ในปล้องไม้ไผ่ตลอดเวลา จึงสะอาด เป็นของธรรมชาติ หายาก นานๆจะพบสักทีและมีแต่ในป่า ไม่มีการเลี้ยงเพื่อเอามาขาย นี่แหละครับคืออาหารป่าที่แปลก
ระหว่างทางกลับมาขอนแก่นพบสิ่งที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน คือระหว่างขับรถก่อนถึงน้ำหนาว รถเก๋งที่วิ่งข้างหน้าผมห่างออกไปประมาณ 30 เมตรเบรกกะทันหันและเอาหัวรถหักไปทางเลนขวา ขณะที่มีรถสวนทางมา ผมก็เสียวกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ และสงสัยว่าเพราะอะไรรถคันหน้าจึงทำเช่นนั้น ผมเบรกรถตามและเมื่อเข้าไปใกล้ก็พบว่ามีช้างป่าใหญ่ตัวหนึ่งกำลังอาละวาดแบบกลัวๆกล้าๆอยู่ข้างทาง….. นี่เองเป็นสาเหตุ ผมเห็นเขาแล้วก็หวาดเสียว ดูเหมือนเขาระแวงรถที่วิ่งไปวิ่งมา….. คิดจะถ่ายรูปมา คนข้างกายบอกว่าไปเถอะรีบออกไปเร็วๆ กลัว….
มาถึงน้ำหนาวรถที่ผมขับบอกว่าอุณหภูมิข้างนอก 12 องศา เมื่อเวลา 6 โมงเย็น..กลับมาถึงบ้าน 15 องศาครับ
Next : ศาลาวัดหลังเก่า: ประเด็นสำหรับ Dialogue for Consciousness » »
ความคิดเห็นสำหรับ "ทัวร์คนเฒ่า"